เทคโนโลยีเติมลมยางอัติโนมัติ

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้พวกเราทีมงาน Autotirechecking(ATC) จะพาเพื่อนๆมาทำความรู้จักเทคโนโลยีที่จะช่วยให้เราสะดวกสบายมากๆ เคยไหมครับว่าลืมเติมลมยางรถยนต์ก่อนออกจากบ้าน หรือก่อนใช้งาน กว่าจะรู้ก็ดอกยางสึดผิดปกติไปแล้ว ปัจจุบันเทคโนโลยีสำหรับการตรวจลมยางมีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นของบริษัทรถยนต์เองหรือบริษัทยางรถยนต์ก็ตาม มาวันนี้เราจะพาเพื่อนๆมาชมเทคโนโลยีของ CODA DEVELOPMENT เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ใช้แค่สามารถตรวจเช็คลมยางเองได้ แต่สามารถเติมลมยางเองได้อีกต่างหาก กับเทคโนโลยี SIT หรือ Self-Inflating Tire

การรักษาแรงดันลมยางให้อยู่ในสถานะพี่พร้อมใช้งานนั้นมีความสำคัญอย่างมากเลยนะครับ แต่คนส่วนใหญ่ก็ละเลยการเติมลมยางกัน ลมยางนั้นจะส่งผลโดยตรงกับประสิทธิภาพการขับขี่ของรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมพร้อมความปลอดภัยในการยึดเกาะ สมรรถนะการประหยัดน้ำมัน อายุการใช้งานของตัวยาง และการปล่อย CO2 จากรถยนต์ เทคโนโลยี SIT หรือ Self-Inflating Tire จึงเป็นเทคโนโลยีที่จะมาตอบโจทย์คุณภาพการใช้รถยนต์ได้ดีเลยทีเดียว

แน่นอนกับการเติมลมยางรถยนต์เพื่อการใช้งานจะต้องมีการสูญเสียลมยางในการใช้งานไม่ว่าทางไดก็ทางหนึ่ง ทำให้แรงดันลมยางลดลงจากเดิม แต่ด้วยลักษณะการใช้งานยางรถยนต์จะมีการบีบอัดอยู่ตลอดเวลาเมื่อมีการหมุนสัมผัสกับพื้นถนน เปลี่ยบเสมือนปั้มลมดีๆนี่เอง CODA DEVELOPMENT ที่เล็งเห็นลักษณะเฉพาะตัวนี้จึงพัฒนาต่อยอดทำให้เกิดเทคโนโลยีที่สามารถทำให้ยางสูบลมเองได้

CODA DEVELOPMENT จึงพัฒนาการท่อที่ฝังอยู่ภายในยางยาวตลอดแนวของยาง และจะยืดหยุ่นตามการเคลื่อนที่ของยาง พร้อมติดตั้งเซ็นเซอร์แรงดันลมยางที่จะเป็นวาล์วเปิดปิดการทำงานของ SIT หรือ Self-Inflating Tire เมื่อลมยางด้านในลดลงเซ็นเซอร์จะสั่งกดวาล์ว ไม่ให้แรงดันลมที่เกิดจากการอัดของการเคลื่อนที่ยาง ผ่านทำให้เกิดแรงอัดเข้าสู่ภายในยางเกิดการเติมลม ด้านจุกลมของ SIT หรือ Self-Inflating Tire ซึ่งเป็นวาล์วไหลทางเดียวก็จะปล่อยลมเข้าเนื่องจากแรงดันของระบบเปลี่ยนไป

เมื่อลมยางเต็มเซ็นเซอร์แรงดันลมยางที่จะเปิดวาล์วของเซ็นเซอร์ และปิดวาล์วของจุกลมของระบบ SIT หรือ Self-Inflating Tire ทำให้เกิดแรงดันลมหมุนเวียนในระบบ SIT หรือ Self-Inflating Tire แทน

ด้วยแนวคิดนี้ของ CODA DEVELOPMENT ทำให้สร้างคุณภาพการขับขี่ได้หลายด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยจากการที่มีลมยางน้อยจนสมรรถนะของยางต่ำลง การพัฒนาให้เกิดแรงเสียดทานการหมุนที่สม่ำเสมอ เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันมากขึ้นอีกด้วย