How to การเลือกสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้พวกเราทีมงาน Autotirechecking(ATC) จะพาเพื่อนๆไปดูวิธีการเลือกสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ กันว่า สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ แบบไหนถึงจะคุ้ม และเหมาะกันรถยนต์ที่ท่านใช้มากน้อยขนาดไหน ในบทความนี้จะทำให้ใครที่มองหา หรือเลือกซื้อ สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ รู้ว่าการเลือกที่ดีต้องดูจากส่วนประกอบใดบ้างของ สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่า สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ ที่ดีควรจะมีคุณสมบัติที่ดีอย่างไร สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ จะได้ใช้ประโยชน์ก็ต่อเมื่อไดร์ชาร์จของเครื่องยนต์เราเสียไม่สามารถปั่นไฟไปจ่ายเพื่อสะสมในแบตเตอรี่ 12 โวลล์ได้ หรือแบตเตอรี่เสื่อมไม่เก็บไฟทำให้สตาร์ทไม่ติด ก็เป็นได้ สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ จะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในยามฉุกเฉินโดย สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ จะเป็นตัวช่วยในการชาร์จประจุจากรถยนต์คันหนึ่งสู่อีกคันหนึ่งได้

ฉะนั้น สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ ที่ดีควรจะจ่ายไฟได้เร็ว และแรง เพื่อทำให้การสตาร์ทในยามฉุกเฉินของเรานั้นสะดวกสบาย ไม่ต้องนั้งท้าวคางรอการสะสมประจุ และ สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ยังต้องมีความยาวที่พอเหมาะสามารถพกพาได้สะดวก และเหมาะสมกับระยะของแบตเตอรี่ของรถท่าน เนื่องจากหลังจากสตาร์ทรถยนต์สำเร็จแล้ว เรายังสามารถขับไปถึงที่หมาย หรือขับไปเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้(ยกเว้นกรณีไดร์ชาร์จเสีย)

วิธีการเลือกซื้อสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์

วีธีการเลือกสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ ที่จะกล่าวต่อไปนี้จะต้องเป็น สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ที่สามารถรูดด้ามคีบแบตเตอรี่ลงเพื่อตรวจเช็คการเชื่อมต่อของสายทองแดงได้ หากสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ ที่ท่านจะเลือกซื้อแล้วไม่สามารถรูดด้านคีบเพื่อเช็คได้แนะนำ อย่าซื้อจะดีกว่า

1. ดูวัสดุที่ใช้ในการทำสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์
   ทองแดงแท้ 100% –> ค่าการนำไฟฟ้าที่ดีที่สุด
   สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ นั้นจะทำด้วยทองแดงเนื่องจากทองแดงเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี และมีราคาไม่แพง แต่ถึงจะมีราคาไม่แพง พ่อค้าบางคนก็พัวใสใช้ทองแดงผสมมารวมกับทองแดงแท้เพื่อมาทำไส้ในตัวนำของสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ ฉะนั้นการเลือกซื้อสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ ควรเลือกซื้อสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ ที่มีสายทองแดงแท้ และเป็นทองแดงเต็ม 100% นอกจากสายที่เป็นทองแดง 100% แล้วหัวคีบขั่วแบตเตอรี่เองก็ต้องเป็นทองแดง 100% เช่นกัน เพื่อรักษาสภาพตัวนำกระแสไฟฟ้าได้ดีที่สุด
   
2. ดูขนาดตัวนำไฟฟ้าของสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์
   ทองแดงยิ่งใหญ่ –> กระแสไฟยิ่งวิ่งดี
   กระแสไฟฟ้านั้นเปลี่ยนเสมือนน้ำที่ต้องการพื้นที่ในการไหล่ที่ใหญ่ เพื่อสามารถไหลผ่านจากแรงดันไฟฟ้าที่สูงไปยังแรงดันไฟฟ้าต่ำได้ สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ที่ดีจึงต้องมีขนาดตัวนำที่ใหญ่ แต่สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ที่มีสายขนาดใหญ่นั้นจะมองแต่ภายนอกไม่ได้ สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ที่มีขนาดใหญ่หลายๆ แบบในร้านขายอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์นั้น ถึงสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์จะมีขนาดใหญ่ แต่สายทองแดงด้านใน ของสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์นั้น มีขนาดเล็กนิดเดียวก็เป็นได้ ซึ่งสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์จะถ่ายเทกระแสไฟฟ้าได้ดีนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของตัวนำเท่านั้น ฉะนั้นการจะดูสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ แบบไหนที่เหมาะสมที่สุดควรจะพิจรณาขนาดเส้นทองแดงด้านในฉนวนเท่านั้น
   
3. ดูคุณภาพหัวคีบสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์
   หัวคีบดี –> ใช้งานสะดวก
   การใช้งานของสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ แน่นอนจะต้องใช้ในการคีบขั่วแบต เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นการ และจุดจบถ่ายเทกระแส การเลือกสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ที่ก็ต้องคำนึงถึงคุณภาพของหัวคีบด้วยต้องเป็นหัวคีบที่มีแรงหนีบที่ดี ก็จะสามารถใช้งานได้ดีสามารถยึดเกาะขั่วแบตเตอรี่ได้ดีทำให้สามารถลากสายสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ เพื่อทำการถ่ายเทกระแสได้อย่างดี นอกจากนั้นก้านของตัวคีบขั่วแบตเตอรี่ของสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ ต้องมีความหนาสามารถทนแรงการใช้งานได้ดี เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน
   
4. เลือกความยาวสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ที่เหมาะสม
   ยาวพอดี –> ใช้ง่ายไม่เปลืองที่
   สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ต้องมีความยาวที่เหมาะสม เพื่อทำการพ่วงสำหรับรถยนต์ 2 คัน ได้อย่างสะดวก แต่ก็ไม่ควรจะยาวเกินก็จะทำให้ความต้านทานในสายไฟสูงขึ้นหากยิ่งมีทองแดงเล็กอยู่แล้ว สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ก็ยิ่งถ่ายเทประจุยากไปอีก ถ้าสั้นเกินไปก็จะทำให้ลำบากในการพ่วงเพราะต้องจัดท่าในการพ่วงของรถ 2 คัน โดยส่วนใหญ่สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ มีจำหน่ายในความยาว 2 – 4 เมตร ระยะที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 2.5-3.0 เมตร สำหรับรถยนต์
   
5. ความทนกระแสของสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ที่เหมาะสม
   แอมป์เหมาะสม –> ปลอดภัยกว่า
   ความทนกระแสของสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์นั้นจะระบุอยู่เสมอในหน่วย “แอมป์” ประโยชน์ คือ จะบอกได้ถึงความสามารถสูงสุดในการนำกระแสปริมาณการไหลของกระแส ตัวอย่างเช่น เคยสงใสกันไหมครับ ว่าทำไมเวลาเราทำการพ่วงแบตเตอรี่กับรถยนต์อีกคันหนึ่งแล้วรู้สึกว่าสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ร้อนมาก หรือบางครั้งถึงกับมีควันขี้นที่สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ เหตุผลสำคัญที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ไม่สามารถทานกระแสไฟที่ไหลผ่านไปได้ กระแสไฟมีปริมาณมากเกินที่ขนาดของสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์รับได้ โดยกระแสที่จะถูกถ่ายเทไปที่มอเตอร์สตาร์ท มรรถเก๋งประมาณ 150 – 250 แอมป์ และ สำหรับรถกระบะ 250 – 700 แอมป์  ดังนั้นหากสเป็คของสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ไม่สามารถรองรับกระแสไฟในปริมาณนี้ได้ ก็จะเกินความร้อนสูงขณะที่เราทำการพ่วงแบตเตอรี่