6 สุดยอด EV trucks รถกระบะพลังงานไฟฟ้า แรงดุทันสมัย
สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้พวกเราทีมงาน Autotirechecking(ATC) จะพาเพื่อนๆมาชมรถยนต์กระบะไฟฟ้า 6 รุ่นที่น่าสนใจมากๆ ในตอนนี้ เรียกได้ว่าพัฒนาขึ้นเพื่อโลก และสมรรถนะแบบกระบะที่ล้ำหน้า
Ford F-150 lightning
F-150 lightning , ชื่อที่ได้มาจากช่วงปลายยุค 90s ของรถ F-series ผลิตโดย ford ผสานสมรรถนะพร้อมกับการขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ให้กำลังมากถึง 563 bhp (420 kW) แรงบิด 775 lb.ft (1050 Nm) ทำให้ยนตกรรมนี้ถือเป็น ที่สุดแห่งเครื่องจักรสร้างแรงบิดของกลุ่มรถกระบะ ในสไตล์ ฟอร์ด (Ford) ที่ออกตัวได้แรงตามใจสั่ง ด้วยอัตราเร่งจาก 0-60 กม/ชม ในเพียง 4 วินาที , สามารถลากจูงของใหญ่ ได้มากถึง 4.5 ตัน หรือโหลดของท้ายกระบะได้ถึง 900 กก มีพื้นที่ใส่ของหน้ารถปริมาตรกว่า 400 ลิตร (Frunk = Front + trunk), นี้ไม่ใช่อะไรที่เว่อร์จนเกินไป แต่เป็นนวตกรรมยานยนต์ ที่นำเสนอโดย ฟอร์ด อเมริกา F-150 lightning ทำการเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2021 ที่ผ่านมา และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ F-150 lightning เป็นรถกะบะไฟฟ้า
F-150 lighting เป็นรถกระบะไฟฟ้าถูกออกแบบเพื่อพร้อมจะเป็นทุกอย่างในชีวิตของคุณ ทั้งเพื่อนร่วมเดินทางที่ไว้ใจได้ ด้วยระบบโปรแกรมที่มีการอัพเดตตลอกเวลา , แหล่งจ่ายไฟนอกสถานที่ ,หรือแม้กระทั้งแหล่งกำเนิดไฟฟ้าให้กับบ้านเรือนในยามเกิดภัยพิบัติ หรือ ไฟดับก็ได้ การันตีด้วยยอดขายสูงสุดในอเมริกาตลอด 44 ปีที่ผ่านมา , ฟอร์ด เป็นยานยนต์ที่มีจิตวิญญาณความเป็นอเมริกัน และเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นใจที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
ความทันสมัยและล้ำไปก่อนใครในสายรถกระบะ คือการเชื่อมต่อรถและมือถือ คุณจะสามารถตรวจสอบสถานะรถได้ตลอดเวลา ว่ามีแบตเท่าไหร่ ใส่น้ำหนักเพิ่มได้อีกไหม
วิ่งบนถนนว่าดีแล้ว ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อก็เป็นทีเด็ดประจำตัวของฟอร์ดเขาแหละ สำหรับการวิ่งบนเส้นทางออฟโรดที่ทรงสมรรถนะ
ประธานบริษัทฟอร์ม ได้กล่าวในงานเปิดตัวว่า “ทั้งฟอร์ดและสถาบันยานยนต์ สามารถกล่าวได้เต็มปากว่า F-150 lighting เป็นตัวผู้นำด้านรถกะบะไฟฟ้าที่ส่งเสริมนโยบาย Zero emission หรือ ยานยนต์ไร้มลพิษ “Zero emission, digitally connected future” และในปีถัดๆไปทางฟอร์ดก็พร้อมจะเดินหน้าอุตสาหกรรมยานยต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องด้วยโมเดลรถไฟฟ้าที่จะออกมาในอนาคต
เพิ่มเติม
- ข่าวดีที่มีการเริ่มพัฒนาระบบไร้คนขับ autonomous เพิ่มด้วยนะ
- Ford F-150 lighting จะเริ่มประกอบอย่างเป็นทางการในปี 2022 ที่โรงงานในดีทรอยซ์ สหรัฐอเมริกา ที่มีการนำระบบการทำงานอย่างยั่งยืน “Sustainable development Practice”
- F-150 ที่ทาง ฟอร์ด ได้เคาะราคาออกมานั้นเริ่มต้นที่ 39,974 ดอล์ล่า หรือประมาณ 1.26 ล้าน (ถ้าเข้าไทยมาจะเท่าไหร่กันหน่ออออออ) สามารถสั่งจองล่วงหน้าได้เพียงแค่วางเงินมัดจำ 100 ดอล์ล่า (3พันกว่าบาท)
Rivan R1T
มันคงไม่เว่อร์ไปใช่ไหมที่จะบอกว่า Rivian R1T รถกระบะ พื้นฐานเดียวกับ R1S SUV 7 ที่นั่งที่เพิ่งเปิดตัวมาก่อนหน้านี้……….มันเจ๋งมาก มีอะไรบ้าง ไปดูกัน
รถกะบะไฟฟ้าที่เป็นที่พูดถึงมากในสหรัฐอเมริกา Rivian R1T รถกระบะที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อบนถนน และเส้นทางออฟโรดอย่างแท้จริง นิยามการออกแบบจาก Rivian กล่าวว่าอะไรที่ล้อหมุนไปได้ ที่เป็นเส้นทาง จัดได้หมด) และยังรักษ์โลกด้วยความเป็นรถไฟฟ้าอีกด้วย
ว่าด้วยรถกระบะไฟฟ้า สิ่งที่วัดความเจ๋งของรถกระบะไฟฟ้าคือระยะทางวิ่ง และอัตราเร่ง 0-60 ที่สำคัญคือความเหมาะสมของราคา ซึ่ง Rivian R1T ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแต่อย่างใด ด้วยราคาเปิดตัวมาเริ่มต้นที่ 2.1ล้าน กับระยะที่พาคุณไปได้ไกลกว่า 300 ไมล์ หรือ 482 กิโลเมตร (มีเศษตามพฤติกรรมการขับขี่ของคนขับ) และอัตราเร่งที่ขิงกันในทุกค่าย จาก 0-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Rivian R1T ก็สามารถทำได้ที่ 3.xx วินาที (คำตอบจริงต้องวัดจากการขับจริงแล้วหล่ะสิ) เพิ่มเติม Rivian เคลมว่าลุยได้ 900 มม ได้ด้วย พร้อมกับกำลังการลากจูงได้สูงสุด 5 ตัน
จากความร่วมมือลงทุนร่วมกันของ Amazon และ ford เพื่อสร้าง แบรนด์ Rivian ขึ้นมา ตั้งแต่ปี 2009 พร้อมกับการขยายองค์กรอย่างต่อเนื่องจนนำไปสู่บริษัทยานยนต์สัญชาติอเมริกัน กว่า 5,000 คน ที่มีฐานการผลิตอยู่แคลิฟอเนีย นอกจากผลิตรถไฟฟ้าแล้วนั้น สิ่งที่ต้องมองภาพถัดไปคือสถานีชาร์จไฟ ซึ่งRivian ก็ไม่ทำให้ผิดหวังอีกเหมือนกันเพราะว่าได้มีการวางแผนสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ให้มีจำนวน 3500 ที่ช๊าต ใน 600 สถานี ภายในปี 2023
Tesla Cybertruck
ขึ้นชื่อว่าแบรนด์ Tesla แล้วมันคงจะไม่มีอะไรที่ดูธรรมดาแล้วแหละ Tesla เขาก็ลงมาจอยตลาดรถกระบะไฟฟ้าด้วยนะ จากแรงบันดาลใจของผู้บริหาร อีลอน มัสก์ มันจะต้องออกมาแบบล้ำๆๆกันสักหน่อย
เปิดมาด้วยรถกระบะที่มีตัวถังแบบไร้โครง monocoqe คือ 1 คัน 1เหล็กกล้า 1 ชิ้น ไม่มีการเชื่อมต่อ แต่โชว์สีโครงรถกันแบบดิบๆๆเลยทีเดียว
เทสล่าเปิดตัว tesla cybertruck มาด้วยกันถึง 3 เวอร์ชั่น :
Single motor (Base)
Dual motor (Mid)
Tri-motor (High)
0-60 กม/ชม Tesla ทำได้ที่ 2.9X วินาที (มันขิงกันตรงนี้ครัฟท่านผู้ชม) (แต่*****เฉพาะเวอร์ชั่น 3 มอเตอร์นะ 1 มอเตอร์กับ 2 มอเตอร์ ระยะเวลาในการเร่งก็จะเพิ่มขึ้น จาก 4.5วินาที สำหรับ 2 มอเตอร์ และ 6.5 วินาทีสำหรับ 1 มอเตอร์ ) และขนาดแบตเตอร์รี่ก็เล็กใหญ่ไม่เท่ากันในแต่ละรุ่นด้วยนะ สิ่งที่ทาง tesla ชูโรงของตัว top ก็คือ ระยะทางที่สามารถทำได้ถึง 500 ไมล์หรือ 804 กิโลมเตร (มีเศษตามพฤติกรรมการขับขี่ของคนขับ..เช่นกัน) และสามารถลากจูงของได้มากกว่า6 ตัน( 6,350 กก) เอาใจสายบรรทุกกันสุดๆๆ มาพร้อมกับราคาเริ่มต้นที่ จับต้องได้ไม่ยากนะ(สำหรับพี่กัน) 1.2 ล้าน นิดๆๆๆ ถ้าเพิ่มเงิน 300,000 บาทก็จะได้ตัวรองท๊อป และ อีก 600,000 ก็จะได้ตัวท๊อปมาครอบครอง สุดๆๆกันไปเลยกับ Tesla ที่ราคา 1.2-1.8 ล้าน
ปล. ถ้าจะเพิ่มระบบขับขี่อัตโนมัติด้วย +อีก 300,000 จบๆ
ด้วยราคาที่บวกรวมสุทธิ 2 ล้านต้นๆ คุณจะได้รถกระบะไฟฟ้า 6 ที่นั่ง ยกสูง 40 เซนติเมตร ภายในตกแต่งแบบล้ำสมัย built-in full-furniture และยังไม่หมดกับความสามารถสามารถใส่ของท้ายกระบะได้ถึง 2800 ลิตร กระจกกันกระสุน! , ระบบ Autopilot, งานช่วงล่างที่ปรับได้ตามรูปแบบการขับขี่
Lordstown Endurance
ดีไซน์ดุดัน กับกระบะไฟฟ้า จากบริษัท Lordstown motors ใน OHIO ที่สร้างโรงงานมาจากการเข้าซื้อโรงงานผลิตรถของ General motor ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตอย่างจริงจังก่อนสิ้นปี รูปลักษณ์ อยากกจะไม่ทิ้ง Rivian R1T สักเท่าไหร่เพราะว่าเน้นการใช้งาน การขับเคลื่อนแบบ 4WD ด้วยกำลังแบตเตอร์รี่ 109 kWh ที่สามารถวิ่งได้ 250 ไมล์ หรือ 400 กม ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และราคาเริ่มต้นที่ 1.6 ล้าน บาท แต่ถึงกระนั้น เราก็เป็นกำลังใจให้ทาง lordstown Endurance ได้ เดินหน้าธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าต่อไป การเจรจาด้านธุรกิจอาจจะเป็นเรื่องยากในยุคโควิด และสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน แต่ก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ อย่างไรก็ตามรถกระบะไฟฟ้ารุ่นนี้เราคงต้องจับตาดูการเปิดตัวกันต่อไป
Bollinger B2
Bollinger เป็น บริษัท start-up ที่มีแนวคิดด้านการนำรถยนต์มาต่อเอง (งงละสิ) เหมือนซื้อของจากอิเกียแล้วดูคู่มือ และก็ลงมือประกอบ แล้วคุณก็จะได้ Bollinger B2 ด้วยตัวคุณเอง 
ราคาเริ่มต้นอาจจะไม่สะดุ้งขนหน้าแข้ง ที่ราคารถล้ำๆนี้จะเริ่มต้นด้วย 3.9 ล้าน กับรถกระบะบรรทุกได้ 2 ตัน และ ขนของที่มีขนาดยาวมาก ได้ด้วยระบบ dual motor ที่ให้กำลังถึง 614bhp พร้อมขนาดแบตเตอรี่ 142kwh และเวลาในการเร่งความเร็วจาก 0-60 กม/ชม อยู่ที่ 4.5 วินาที พร้อมทั้งระยะทางที่สามารถวิ่งได้ 321 กม (มีเศษตามพฤติกรรมการขับขี่ของคนขับ)
บอกเลยว่ารูปโฉมตัวจริงแล้วให้ความรู้สึกเหมือนของเล่นขนาดใหญ่ที่คุณ และคุณสามารถเล่นไปพร้อมๆกันได้ทั้งครอบครัว
Hummer EV
รถกระบะไฟฟ้า อีกหนึ่งยนตรกรรมที่น่าจับตามองของค่าย GMC รถกระบะที่มาพร้อมกับแบตเตอร์รี่ “Ultium” และมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุดถึง 3 ตัว เรื่องกำลังไม่ต้องพูดถึง Hummer EV ได้กำลังมาจากมอเตอร์ถึง 1000 bhp เทียบเท่า 11,500 ปอนด์ ฟุต หรือ 5,592 นิวตัน-เมตร
เรื่องอัตราเร่งและระยะที่ทำได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง Hummer EV ก็ตอบสนองความเร่งได้ด้วย อัตราเร่ง 0-60 กม/ชม ภายในระยะเวลาแค่ 3 วินาที (หายใจหนึ่งทีโดยประมาณ) ขิงกันไป ส่วนระยะทางที่วิ่งได้บอกเลยว่า Hummer EV ทำได้ถึง 350 ไมล์ หรือ 563 กิโลเมตร
และที่สำคัญ ชาร์จไว 10 นาที วิ่งได้ 100 ไมล์ (160 กิโลเมตร) (ชาร์จไฟกำลัง 350 kW DC)
Hummer EV มาพร้อมกับระบบ Adaptive air suspension เมื่ในโหมดขับแบบ “Extract Mode” จะยกตัวรถให้ขึ้นสูงเพื่อความเสียหายบนทางลุยป้องกันแบตเตอร์รี่อีกด้วย
กล้องรอบคันแบบให้หมด 18 มุม ทั้งด้านล่าง และด้านข้าง โดยทาง GM ได้การันตีว่ากล้องสามารถทำงานได้ในขณะที่รถลุยน้ำ (ระดับน้ำประมาณ 60 ซม ขึ้นไป)
เพิ่มเติมเรื่องของล้อ
- ทางGM ได้ออกมาอธิบายการพัฒนาการขับเคลื่อนของล้อให้อยู่ในรูปแบบเดียวกับการเดินของปู “Crabwalk” ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นสำหรับเมื่อเจอสิ่งกีดขวางตอนขับออฟโร้ด
- ภายในก็เรียบหรู ดูแพง กับหน้าจอ ทัชสกรีน 13.4 นิ้ว และคนขับก็มีจอเฉพาะอีก 12 .3 นิ้ว
- หลังคาเปิดได้ และที่ใส่ของด้านหน้าแทนห้องเครื่อง (Frunk =Front + Trunk)
เกร็ดความรู้ท้ายบทความ
ประวัติศาสตร์ของ Humvee
Humvee เป็นรถที่ใช้ในกองทัพอเมริกาตั้งแต่กลางยุค 80s และเริ่มมีการผลิตรถเพื่อขายแก่ชาวอเมริกันในปี 1992 (2535) หลังจากที่ GM เข้าถือครองในปี 1999 (2542) 2 ปีให้หลังก็ออกรถ Humvee H2 ออกมา และ ตามมาด้วย H3 ในกลายปีถัดมา แต่ก็น่าเศร้าที่ไม่ใช่แนวทางของตลาดในตอนนั้น ทำให้ยอดขายถดทอยและเลิกผลิตตั้งแต่ 2010 (2553) และอย่างที่รู้กัน GM ก็ล้มละลายในเวลาถัดมา TT_TT
ราคาเริ่มต้นของ Hummer EV อยู่ที่ $112,595 หรือราวๆ 3.6 – 3.9 ล้านบาท จับตาดู Hummer EV H2 ตัวจริง 2024 ไม่นานเกินรอ
และนี้คือเหล่ากระบะไฟฟ้าที่ยังคงความดุดัน ทรงพลัง และกล้าแกร่ง อยู่ทั้งจากค่ายรถอเมริกัน อยากเห็นมาวิ่งในไทยเหมือนกันนะ
