MICHELIN ENERGY XM2+ ดีไหม กับยางสุดคุ้มตลอดระยะการใช้งาน
สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้พวกเราทีมงาน Autotirechecking(ATC) จะพาไปดูยางที่พัฒนาเพื่อการใช้งานที่ยาวนาน และคุณสมบัติความปลอดภัยที่เป็นเลิศกับยาง MICHELIN ENERGY XM2+ ที่ได้รับการพัฒนามาจากยางทนทานที่สุดอีกหนึ่งรุ่น MICHELIN ENERGY XM2 นั้นเอง วันนี้เราไปดูกันดีกว่าครับว่า MICHELIN ENERGY XM2+ จะมีอะไรเพิ่มเติมมากจาก MICHELIN ENERGY XM2 กันบ้าง
MICHELIN ENERGY XM2+ ปล่อยออกสู่ตลาดยางในประเทศไทยอยู่ 24 ขนาด(ขอบ 14 – 16 นิ้ว) มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,290 บาท มากับการออกแบบที่เน้นช่วยด้านความปลอดภัยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกให้เบรกสั้นลง พร้อมคุณสมบัติที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อนด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
MICHELIN ENERGY XM2+ กับการพัฒนาให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
ด้วยคุณสมบัติพิเศษของการเพิ่มเติมส่วนผสมเนื้อยางFull Silica สูตรใหม่ใน MICHELIN ENERGY XM2+ สร้างความมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยการเบรกที่สั้นลงในทุกสภาพถนน และพัฒนาให้ MICHELIN ENERGY XM2+ สามารถคงประสิทธิภาพการเบรกที่ยอดเยี่ยมไว้ไม่ว่าจะเป็น MICHELIN ENERGY XM2+ ใหม่ หรือ MICHELIN ENERGY XM2+ ที่ดอกยางใกล้จะหมด ก็ยังคงประสิทธิภาพการเบรกที่ดีกว่า
จากการทดสอบที่รับรองผลการทดสอบ โดยสถาบัน TÜV Rheinland Thailand Ltd จากการทดสอบระยะเบรก ที่ จ.ชลบุรี ประเทศไทย บนพื้นถนนเปียกที่ความเร็ว 80-0 ก.ม/ช.ม ด้วยรถTOYOTA Altis ติดตั้งยางขนาด 205/55R16 เปรียบเทียบระหว่างยาง MICHELIN ENERGY XM2+ และยางชั้นนำทั่วไป ทั้งสภาพยางใหม่และยางใกล้หมดดอก (ความลึกดอกยางเหลือ 2 มม.)
MICHELIN ENERGY XM2+ ได้ผลลัพธ์การทดสอบที่ดีกว่าทั้งกับดอกยางใหม่ และสภาพดอกยางที่เหลือเพียง 2 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นยางชั้นนำในประเทศไทย
- MICHELIN ENERGY XM2+ ที่เป็นยางใหม่สามารถทำระยะเบรกจาก 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง จนถึงหยุดนิ่งบนถนนแห้งได้สั้นกว่าคู่แข่งถึง 1.5 เมตร
- อีกด้านหนึ่ง MICHELIN ENERGY XM2+ ที่เหลือดอกยางเพียง 2 มม. ซึ่งถือว่าเป็นยางที่มีสภาพดอกยางใกล้หมด สามารถทำระยะเบรกจาก 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง จนถึงหยุดนิ่งบนถนนแห้งได้สั้นกว่าคู่แข่งถึง 2.6 เมตร
จากการทดสอบครั้งนี้แสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่า MICHELIN ENERGY XM2+ นั้นจะทำให้คุณมั่นใจได้อย่างแน่นอน ว่าการเบรกกระทันหันของคุณแม้นบนดอกยางที่เหลือน้อยก็จะมั่นใจได้มากกว่ารุ่นยางอื่นๆ
MICHELIN ENERGY XM2+ กับการพัฒนาให้สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า
ออกตัวก่อนเลยว่าในรุ่น MICHELIN ENERGY XM2 รุ่นเก่าของ MICHELIN ENERGY XM2+ นั้นก็เป็นยางที่คุ้มค่ากับการใช้งานมากๆกับอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ใน MICHELIN ENERGY XM2+ ด้วยการใช้ส่วนผสมยางใหม่สร้างการใช้งานที่ยาวนานกว่าเดิมได้อย่างดี ด้วยการยืนยันจากผลการทดสอบโดยสถาบัน China Automotive Technology And Research Center Co.,Ltd (CATARC) ณ ประเทศจีน เดือน ก.ย 2561 โดยทดสอบการใช้งานบนถนนจริงเป็นระยะทาง 20,000 ก.ม ด้วยรถ VolksWagen GOLF7 ติดตั้งยางขนาด 205/55R16 เปรียบเทียบระหว่างยาง MICHELIN ENERGY XM2+ และยางชั้นนำทั่วไปในสภาพยางใหม
MICHELIN ENERGY XM2+ ได้รับผลการทดสอบที่นานภูมิใจด้วย ผลการใช้งานได้ยาวนานกว่ายางชั้นนำทั่วไปถึง 25% เรียกได้ว่า MICHELIN ENERGY XM2+ เป็นยางที่ทดทานต่อการใช้งาน และสภาพอากาศได้อย่างสมบูรณ์
เทคโนโลยีชูโรง MICHELIN ENERGY XM2+ เนื้อยาง Full-Silica สูตรใหม่
ด้วยคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นมาอย่างโดดเด่นด้านการใช้งานยาวนาน และประสิทธภาพอันโดดเด่นด้านความปลอดภัยของ MICHELIN ENERGY XM2+ ต้องขอบคูณการคิดสูตรเนื้อยางใหม่ Full-Silica ที่ทำให้คุณสมบัติของ MICHELIN ENERGY XM2+ นั้นมีความยืดหยุ่นสูง ช่วยในให้หน้ายางสามารถปรับสภาพ กับการใช้งานบนพื้นถนนได้อย่างเหมาะสมเพิ่มสมรรถนะการยึดเกาะพื้นถนนได้อย่างเต็มที่กว่าที่เคย นอกจากนั้น MICHELIN ENERGY XM2+ กับสูตรเนื่อยาง Full-Silica จะทำให้โมเลกุลของเนื้อยางกระจายตัวได้ดีขึ้น พร้อมยังเพิ่มการยึดเกาะกันอย่างแข็งแรงมากกว่ายางปกติทั่วไป สงผลให้การสึกจากการใช้งานเรียบ ทำให้ยืดอายุการใช้งาน และคุณภาพการใช้งานได้ยาวนานขึ้น
MICHELIN ENERGY XM2+ จึงเป็นยางที่คุ้มค่าไม่ใช้แค่อายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ MICHELIN ENERGY XM2+ ยังคงสมรรถนะด้านความปลอดภัยการยึดเกาะ และการเบรกได้อย่างดี ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า MICHELIN ENERGY XM2+ จะทำให้คุณคุ้มค่าในทุกครั้งที่ใช้งานเลยทีเดียว