[COVID-19] ดูแลรักษารถยนต์อย่างไรให้ห่างไกลจากโควิก-19

สวัสดีครับเพื่อนๆวันนี้พวกเราทีมงาน Autotirechecking(ATC) จะมาชวนเพื่อนๆปรับเปลี่ยนการใช้รถยนต์เพื่อสู้ไวรัสตัวร้ายโควิท 19 รถยนต์ส่วนบุคคลเป็นทางออกที่ดีในการเดินทางปัจจุบันเพื่อไปทำงาน หรือเดินทางไปไหนมาไหน โดยลดความเสี่ยงจากการพบเจอคนมากหน้าหลายตา ซึ่งเป็นทางหนึ่งในการลดโอกาศการติดเชื้อลดนั้นเอง แต่จะดีกว่าหรือไม่ถ้าเราดูแลรถยนต์ของเราคู่ไปด้วย เพื่อความสบายใจทำให้เรามีเซฟโซนสำหรับคนทั้งครอบครัว

โควิท 19 ไม่ใช้สิ่งที่ต้องกลัวที่สุดในชีวิตถ้าเราทำความเข้าใจ และสร้างภูมิคุ้มกันด้วยพฤติกรรมของเราเอง โควิท 19 อาจเป็นแค่ไวรัสที่ได้แต่ซุ้มมองเราอยู่ในมุมมืดเท่านั้น เนื้องจากเชื้อโควิท 19 ติดต่อได้โดยตรงผ่านสารคัดหลั่ง ที่จะสัมผัสได้ง่ายที่สุด คือ น้ำลาย นอกจากนั้นการติดเชื้อจะเกิดได้จากการสัมผัส เชื้อไวรัส และนำเข้าปากจมูกหรือตา ฉะนั้นเมื่อเราใช้รถยนต์ส่วนตัวของเราจึงควรดูแลความสะอาดในรถยนต์ พร้อมทำคู่กับการดูแลความสะอาดของตัวเองด้วย

Autotirechecking(ATC) อยากเสนอ 2 หลักการในการดูแลรถยนต์เพื่อต่อสู้กับสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างไวรัสโควิท 19 นั้นคือ จัดโซน ,และฆ่าเชื้อ ในการใช้รถยนต์ แต่ละวันของทุกท่าน

จัดโซน :จัดโซนการวางของที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และโซนปลอดภัย

ถึงเวลาแล้วที่ใครไม่เคยจัดสัดส่วนของบนรถ หรือใช้รถยนต์เป็นตู้เก็บของ ที่จะปรับเปลี่ยนให้มีระเบียบเพื่อความสะอาด สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลทุกครับจะมีห้องเก็บของอยู่ในรถทุกคัน(กระโปงหลัง) เชื่อไวรัสโควิก 19 ผ่านการวิจัยมาแล้วว่าสามารถอยู่บนพื้นผิวได้ 9 ชั่วโมงในอุณหภูมิปกติ และอยู่ได้นานขึ้นในอุณหภูมิต่ำ และจะมีอายุสั้นลงในอุณหภูมิสูง การที่เราจำกัดพื้นที่สำหรับของที่เสี่ยงจะสัมผัสไวรัส เป็นอีกทางที่เราจะลดความเสี่ยงในการกระจายไปบนพื้นผิวของรถยนต์ พร้อมทั้งยังง่ายในการฆ่าเชื้ออีกด้วย เราไปดูวิธีจัดแยกง่ายๆกัน

1. จัดกล่องสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันหลังรถที่จะต้องนำติดตัวเข้าสังคม เช่น กระเป๋าเป้ เสื้อคลุม เครื่องประดับต่างๆ เมื่อจบภาระกิจให้ใส่กล่องนี้ ไว้ที่เก็บของหลังรถ เพื่อจำกัดพื้นที่เจ้าไวรัสโควิท 19 ไม่ให้กลิ้งไปทั่ว

2. สำหรับสาวๆที่ใช้รถเป็นโชว์รูมรองเท้า ต้องมีกล่องใส่รองเท้าประจำตำแหน่งของรองเท้าสุดรักแต่ละคู่ของท่าน อาจจะต้องตัดใจเอาบางคู่เก็บไว้ที่บ้าน แต่การจัดแยกแบบนี้จะทำให้การทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น แล้วยังสามารถควบคุมความเสี่ยงที่เชื้อไวรัสจะกลิ้งกระจายไปทั่วบนพรมหลังรถ หรือไปติดกับสิ่งของอื่นๆ เพราะรองเท้าเป็นอีกหนึ่งจุดเสี่ยงหากเราไปเหยียบน้ำลายหรือเข้าห้องน้ำที่มีไวรัสโควิท 19 ก็อาจจะเอากลับมาใส่รถได้

3. ในห้องโดยสารหากมีสิ่งของสัมภาระที่จำเป็นต้องไว้ในรถไม่ควรวางบนเบาะ เป็นไปได้ให้ว่างบนพื้น หรือมีกล่องใส่ แล้วรีบฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ให้ทั่วทั้งกล่อง สิ่งของ และมือ ก่อนที่จะออกรถเพื่อจำกัดพื้นที่เลี้ยงโอกาสการสัมผัสด้วยมือ (พึงระวังการฉีกแอลกอฮอล์ในรถอาจเกิดเพลิงไหม้ได้หากเจอประกายไฟ)

การฆ่าเชื้อ :หลังจากจัดโซนเรียบร้อยจะง่ายขึ้นมากกับการกำจัดเชื้อโควิท 19 ด้วยแอลกอฮอล์ หรือการให้เชื้อจายเองตามระยะวลา

ไวรัสโควิท 19 หากไม่ได้เข้าไปในร่างกายเราสามารถกำจัดมันได้หลายวิธี ไม่ว่าจะล้างมือ หรือฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ การฉีดแอลกอฮอล์ทุกครั้งบนรถให้เปิดกระจกเพื่อระบายไอละเหย และกลิ่งที่อาจเป็นอันตรายเมื่อสูดเข้าไปโดยตรง นอกจากนั้นในการฉีดแอลกอฮอล์ ควรสังเกตุอย่างอยู่ใกล้เปรวไฟเป็นอันขาด

A green car, take care of the environment, go green, down the road, movement, environmental values, politics, co2-neutral, transport

1. สำหรับครอบครัวทุกคนก่อนขึ้นรถให้ล้างมือให้สะอาดก่อน ล้างอีกครับหลังขึ้นรถและแยกโซนของที่เสี่ยงติดเชื่อ เพื่อป้องกันไวรัสจากที่จับประตู และป้องกันการสัมผัสด้านในของรถ

2. หลังจากฆ่าเชื้อที่มือเราแล้วให้ฉีดฆ่าเชื้อในกล่องคัดแยก ในห้องโดยสารด้วยเพื่อการหยิบจับครั้งต่อไปจะได้ไม่ต้องกังวลถึงเชื้อที่ยังติดอยู่

3. เนื่องจากเชื้อไวรัสโควิท 19 นั้นสามารถอยู่ได้ถึง 9 ชั่วโมง ในพื้นผิวปกติการที่เราจอดรถลงไปทำงานอาจจะได้สัก 5-7 ชั่วโมง แต่ด้วยสภาพอากาศประเทศไทยที่ร้อนก็อาจจะเพียงพอต่อการฆ่าเชื้อได้ ฉะนั้นช่วงนี้จอดในที่แจ้งจะดีที่สุด

4. หมั่นทำความสะอาดพื้นที่ที่ต้องใช้มือจับอยู่บ่อยๆ ที่วางแขนข้างประตู พวงมาลัย เกียร์ เบรกมือ ปุ่มต่างๆบนคอนโซล เบาะนั่ง และกระจกมองหลัง เป็นต้น เพื่อรักษาความสะอาดให้ความสบายใจกับคุณและคนในครอบครัว

ทั้งนี้เป็วิธีการส่วนตัวในการรักษาความสะอาดในช่วงวิกฤตของโควิท 19 หากเพื่อนๆมีวิธีการแนะนำมาแชร์กันเยอะๆนะครับ อย่าลืมหากเป็นหวัดมีอาการไอ หรือจาม ให้ใส่หน้ากากแม้ขับรถคนเดียว ถึงแม้ในรถจะมีเครื่องกรองอากาศแต่เราไม่รู้หรอกว่า น้ำลายเราจะพุ่งไปติดตรงไหนของรถบ้าง ล้างมือบ่อยๆ ถ้ามีความเสี่ยงเก็บตัว 14 วัน ด้วยความรัก และห่วงใยจากใจทีมงาน Autotirechecking(ATC) เราจะรอดต้องรอดไปด้วยกัน