NISSAN KICK e-POWER vs TOYOTA C-HR HYBRID ศึกความประหยัด

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้พวกเราทีมงาน Autotirechecking(ATC) จะพาเพื่อนไปดูรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารูปแบบ Hybrid รถยนต์ที่ใช้พลังงาน 2 รูปแบบ ทั้งระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน และระบบมอเตอร์ไฟฟ้า วันนี้เราจะพาไปดูความโดดเด่นของ NEW NISSAN KICK e-POWER และ TOYOTA C-HR HYBRID กันว่ารุ่นไหนจะโดดเด่น มีสไตล์อย่างไร

NEW NISSAN KICK e-POWER และ TOYOTA C-HR HYBRID ออกแบบด้วยคอนเซ็ปการออกแบบที่แตกต่าง NEW NISSAN KICK e-POWER ออกแบบด้วยการใช้งานด้วยระบบไฟฟ้าเป็นหลัก เรียกได้ว่าสมรรถนะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า Electric vehicle เลยก็ว่าได้ เพียงปรับให้เข้ากับการใช้พลังงานของประเทศไทย ด้วยการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นตัวชาร์จไฟ ฉะนั้น NEW NISSAN KICK e-POWER จะยังคงต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการใช้งานอยู่เช่นเดิม

ด้าน TOYOTA C-HR HYBRID มากับระบบเครื่องยนต์พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าตามรูปแบบของรถยนต์ Hybrid ทั่วไป พร้อมการทำงานที่ตอบสนองเชื่อมกันระหว่าง มอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ทำให้ TOYOTA C-HR HYBRID ที่การทำงานเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในมากกว่า มอเตอร์ไฟฟ้าหลายเท่า

ขุมพลังที่แตกต่าง NEW NISSAN KICK e-POWER และ TOYOTA C-HR HYBRID

NEW NISSAN KICK e-POWER กับขุมพลังรูปแบบใหม่ e-POWER ขุมพลังเทคโนโลยีเฉพาะจากนิสสัน ที่ใช้อธิบายเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าที่มีเครื่องยนต์ปั่นไฟฟ้าเปลี่ยนจากน้ำมันเป็นพลังงานไฟฟ้า 100% เนื่องจากระบบขับเคลื่อนขุมพลังหลักในการทำให้ NEW NISSAN KICK e-POWER วิ่งไปข้างหน้านั้นคือมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 95 กิโลวัตต์ NEW NISSAN KICK e-POWER จึงเป็นรถยนต์สมรรถนะเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ด้วยอัตราเร่งที่มีแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 100% ความลื่นไหลในการขับขี่แบบรถยนต์ไฟฟ้า 100% เพียงแต่ใช้ระบบชาร์จไฟเป็นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แทนที่จะชาร์จกระแสไฟฟ้าจากไฟบ้านหรือสถานีชาร์จ แต่ NEW NISSAN KICK e-POWER จะใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรคล้ายเครื่องปั่นไฟ เข้าสูงแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เพื่อกักเก็บ และจ่ายกระแสสู่การขับเคลื่อนเหมือนระบบรถยนต์ไฟฟ้า NEW NISSAN KICK e-POWER สำหรับขุมพลังใหม่ของ NEW NISSAN KICK e-POWER ด้วยเทคโนโลยี e-POWER ที่กล่าวมา NEW NISSAN KICK e-POWER จะให้ความสนุก และการขับขี่ที่เร้าใจในอัตราเร่งแบบรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมความสะดวกสบายยิ่งกว่าด้วยการเติมน้ำมันทำให้ตอบโจทย์กับคนรักเทคโนโลยีใหม่ๆ และสังคมการใช้พลังงานในประเทศไทยมากๆ ข้อดีที่สุดของ NEW NISSAN KICK e-POWER คือการปล่อยมลภาวะที่ต่ำกว่ารถยนต์ Hybrid ทั่วไปมากในการขับในเมือง ของเสียก็คือยังคงเป็นเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องใช้น้ำมัน แต่สำหรับการได้รับสมรรถนะที่ดีของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งอัตราเร่ง และความลื่นไหล คว่มประหยัดในการขับในเมือง เทียบกับการใช้น้ำมันที่ประหยัดกว่ารถยนต์ 1.2 NEW NISSAN KICK e-POWER ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนามาได้ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

ด้าน TOYOTA C-HR HYBRID มากับเครื่องยนต์ 2ZR-FXE เบนซิน 1.8 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI  มากับมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ มีกำลังสูงสุดเมื่อเครื่องยนต์ทำงานพร้อมกับมอเตอร์เต็มกำลัง 90 (122) กิโลวัตต์ (PS) ใช้แบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮดราย 28 โมดูล 168 เซลล์ TOYOTA C-HR HYBRID มีสมรรถนะส่วนใหญ่เป็นเครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานในความเร็วต่ำ และทำงานเมื่อต้องการอัตราเร่ง ทำให้เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี e-POWER ของนิสสันแล้ว TOYOTA C-HR HYBRID จะให้สมรรถนะการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าได้ไม่เต็มที่ และความจุแบตเตอรี TOYOTA C-HR HYBRID ที่มีขนาดเล็กกว่าทำให้การใช้เครื่องยนต์มากกว่า ด้วยหลักการทำงานที่เครื่องยนต์ยังคงทำงานตามอัตราความต้องการของอัตราเร่ง และการขับเคลื่อน ต้องเร่งมากเครื่องก็ยิ่งทำงานหนัก ส่งผลให้ความประหยัดน้ำมันนั้นจะขึ้นกับลักษณะการขับเป็นส่วนใหญ่ ถึงขับในเมืองแต่ใช้อัตราเร่งมากก็สามารถทำให้เครื่องยนต์ทำงาน TOYOTA C-HR HYBRID จึงมีข้อด้อยด้านการขับขี่ในโหมดไฟฟ้าที่ใช้งานได้ไม่แน่นอน แต่ก็ได้ความสนุกในการขับขี่ด้วย เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ทำให้การขับขี่นอกเมืองมีสมรรถนะในการขับขี่ด้วยความเร็วที่สูงกว่าเครื่องยนต์ e-POWER

จากข้อมูลข้างต้น NEW NISSAN KICK e-POWER และ TOYOTA C-HR HYBRID ต่างก็เป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงาน 2 รูปแบบนั้นคือ พลังงานไฟฟ้า และเชื้อเพลิง NEW NISSAN KICK e-POWER และ TOYOTA C-HR HYBRID จะแตกต่างหลักการทำงานที่ให้ความสำคัญกับมอเตอร์ไฟฟ้าต่างกัน ทีมงาน Autotirechecking(ATC) ให้คะแนน NEW NISSAN KICK e-POWER : 9/10 ด้วยเทคโนโลยีความแปลกใหม่และการให้ความสำคัญในการใช้งาน และสมรรถนะที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า TOYOTA C-HR HYBRID : 5/10 เป็นสมรรถนะที่ดีในระดับ Hybrid แต่เทียบหลายๆด้าน เทคโนโลยี e-POWER สามารถลบจุดอ่อนของ Hybrid ได้

ระบบส่งกำลัง และช่วงล้าง NEW NISSAN KICK e-POWER และ TOYOTA C-HR HYBRID

สำหรับสมรรถนะของช่วงล้าง และระบบส่งกำลัง NEW NISSAN KICK e-POWER และ TOYOTA C-HR HYBRID นั้นมีความแตกต่างกันที่ NEW NISSAN KICK e-POWER ไม่มีระบบเกียร์แบบปกติอย่างรถยนต์ทั่วไป แต่ NEW NISSAN KICK e-POWER ใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นการกำหนดการส่งกำลังทำให้การตอบสนองของ NEW NISSAN KICK e-POWER ทำได้รวดเร็วทันใจตามแบบฉบับของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

NEW NISSAN KICK e-POWER มากับการขับเคลื่อน และส่งกำลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจึงไม่จำเป็นต้องใช้ระบบเกียร์เพื่อส่งกำลัง ทำให้กำลังที่จะส่งลงพื้นของ NEW NISSAN KICK e-POWER ส่งได้โดยได้ต้องเสียพลังงานสู่กลไกอย่างระบบเกียร์ เพิ่มการใช้พลังงานที่คุ้มค่ามากขึ้น พร้อมทั้งยังไม่ทำให้เกิดการรอรอบการเร่งเหมือนรถยนต์ทั่วไป ส่วนด้านช่วงล้าง NEW NISSAN KICK e-POWER น่าจะออกแบบไม่ต่างจาก NISSAN KICK ตัวเดิม กับช่วงล้างด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล้างด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง ทำให้ NEW NISSAN KICK e-POWER มีมีการบรรทุกที่ดี พร้อมการยึดเกาะ และส่งกำลังลงพื้นที่ยอดเยี่ยม ถึงแม้จะมีน้ำหนักมากกว่า NISSAN KICK เครื่องยนต์ปกติ ด้วยการแบกน้ำหนักแบตเตอรี่ และระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ก็ยังทำให้ช่วงล่างสามารถดึงสมรรถนะออกมาได้อย่างดี

ด้าน TOYOTA C-HR HYBRID มากับระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock ส่วนช่วงล้าง TOYOTA C-HR HYBRID ออกแบบด้วยช่วงล้างด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล้างด้านหน้าเป็นอิสระแบบปีกนกคู่ (Double Wishbone) พร้อมเหล็กกันโคลง แต่ต่างจาก NEW NISSAN KICK e-POWER ด้วยการเน้นการทรงตัวที่ยอดเยี่ยม และสมรรถนะการตอบสนองการขับที่อิสระทั้ง 4 ล้อ ทำให้ TOYOTA C-HR HYBRID สร้างอารมการขับขี่ที่มั่นใจ และมีความนุ่มสบาย แต่ในรุ่น TOYOTA C-HR HYBRID

ด้านช่วงล้างการออกแบบ พวกเราทีมงานได้เฉลี่ยนะคะแนนให้ NEW NISSAN KICK e-POWER : 6/10 คะแนน TOYOTA C-HR HYBRID  : 8/10 คะแนนด้วยสมรรถนะของช่วงล้างแบบแบบทอร์ชั่นบีมคอยล์สปริง สามารถระบน้ำหนักได้ดีก็จริงแต่จะทำให้การความคุมแรงในแต่ละล้อทั้นซ้าย และขวา ได้ไม่ดีเท่าช่วงล้านอิสระของ TOYOTA C-HR HYBRID

เทคโนโลยี ระบบอำนวยความสะดวก NEW NISSAN KICK e-POWER และ TOYOTA C-HR HYBRID

TOYOTA C-HR HYBRID มากับเทคโนโลยี 4 อย่าง นั้นคือ เทคโนโลยีการขับขี่ TNGA , เทคโนโลยีขุมพลังแบบ Hybrid , เทคโนโลยี ความปลอดภัย Toyota safety Sense และ เทคโนโลยี T-connect Telematics อีกด้านหนึ่ง NEW NISSAN KICK e-POWER ยังไม่มีการเปิดเผยว่า NEW NISSAN KICK e-POWER ที่จะลงขายไทยนั้นจะให้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอะไรมาบ้าง แต่ที่แน่ไปต้องไม่น้อยกว่า All-new Nissan Almere 2020 อย่างแน่นอน พร้อมเทคโนโลยีขุมพลัง e-POWER ที่สามารถให้โหมดการขับขี่ที่หลากหลายมากกว่า

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกให้ทั้ง NEW NISSAN KICK e-POWER และ TOYOTA C-HR HYBRID มีคะแนนเท่ากันด้วยการใช้งานที่เน้นด้านความทันสมัยแล้วการใช้งานระหว่างการเดินทางที่โดดเด่น

ส่วนด้านเทคโนโลยี NEW NISSAN KICK e-POWER ให้ความแปลกใหม่ทีโดดเด่นกว่าด้วยระบบการขับขี่แบบ 1 คันเร่ง การขับขี่ที่ไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรก สามารถควบคุมการขับขี่ได้เพียงใช้การควบคุมคันเร่ง พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ Muti-Infomation Display และมาตรวัดหน้าจอที่เชื่อมต่อผลการขับขี่ แบบ Digital จอ TFT ขนาด 7 นิ้ว ขนาดใหญ่ และชัดเจน

เนื่องด้วย NEW NISSAN KICK e-POWER ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนออกมา NEW NISSAN KICK e-POWER และ TOYOTA C-HR HYBRID ทางทีมงานเราจึงยังไม่มีการให้คะแนนทั้งสองรุ่นนี้

ระบบความปลอดภัย NEW NISSAN KICK e-POWER และ TOYOTA C-HR HYBRID

ระบบความปลอดภัยทั้ง NEW NISSAN KICK e-POWER และ TOYOTA C-HR HYBRID ให้มาแบบไม่น้อยหน้ากันเลย ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์ป้องกันการชนด้านหน้า เซ็นเซอร์การแจ้งเตือนรอบคัน พร้อมระบบความปลอดภัยในการขับขี่การควบคุม ที่ครบทุกระบบ NEW NISSAN KICK e-POWER และ TOYOTA C-HR HYBRID เรียกได้ว่าคะแนน 10/10 ทั้งคู่

จนกว่า NISSAN KICK e-POWER เราคงจะได้รู้กันว่าเทคโนโลยีใหม่นี้จะมีความโดดเด่น เอาชนะความสปอร์ตหรูของ TOYOTA C-HR HYBRID ได้ หรือไม่