คำเตือน ดูก่อนตัดสินใจซื้อยาง ECO Sticker ยางรถยนต์
สวัสดีครับเพื่อนๆ เพื่อนๆรู้รึปล่าวครับว่ายางรถยนต์ที่เราหาซื้อกันในปัจจุบันนี้มีการทดสอบมาตรฐานจากทางหน่อยงานภาครัฐก่อนส่งถึงมือท่านทุกรุ่น ด้วยการระบุมาตรฐานการทดสอบคุณภาพยางรถยนต์ 3 ด้านหลักๆ นั้นคือ ความประหยัด ปลอดภัย และเสียงรบกวน วันนี้พวกเราทีมงาน Autotirechecking(ATC) จะพาเพื่อนๆมาทำความรู้จัก ECO Sticker กัน
ECO Sticker เริ่มอนุมัติใช้จาก สศอ. ร่วมกับ สมอ. ตาม มอก. 2721-2560 โดย สศอ. ร่วมกับ สมอ. พัฒนาระบบ ECO Sticker ยางรถยนต์ แล้วเสร็จ โดยมี สศอ. เป็นผู้ออกแบบ ตรวจอนุมัติการลงทะเบียนของผู้ประกอบการ รวมถึงบำรุงรักษาระบบ และ สมอ. เป็นผู้ตรวจอนุมัติ ECO Sticker ยางรถยนต์
เรามาดูการความหมายจุดต่างๆ ของ ECO Sticker ของยางรถยนต์กันดีกว่า
จุดที่ 1 ระบุชื่อแบรนด์ยางยี่ห้อผู้ผลิตของยางรถยนต์เส้นนี้
จุดนี้จะบอกถึงบริษัท หรือผู้ผลิตของยางที่ติด ECO Stacker นี้ก่อนซื้อเช็คให้ดีก่อนนะครับว่าเป็นแบรนด์เดียวกันกับตัวยางรถยนต์นั้นๆ
จุดที่ 2 ขื่อรุ่นยางของยางรถยนต์เส้นนี้
ข้อมูลระบุถึงรุ่นของยาง ECO Sticker นี้จะไม่ว่าจะซีรี่ไหนหากเป็นยาง รุ่นเดียวกันจะมีผลการทดสอบเดียวกัน การตวรจเช็คชื่อรุ่นยางให้ตรงกับ ECO Sticker จึงมีความสำคัญมากๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ
จุดที่ 3 การระบุขนาด ความเร็วสูงสุด และการรับน้ำหนักสูงสุดของยางรถยนต์เส้นนี้
ข้อมูลจุดที่ 3 เป็นข้อมูลขนาดของยาง พร้อมข้อมูลพื้นฐานที่จะเปลี่ยนไปตามขนาด นั้นคือการรับน้ำหนัก และความเร็วสูงสุดของยาง ดูได้ดังต่อไปนี้ต
- การดูขนาดของยาง 235/70 R16
เลขตัวหน้า 235 คือ ขนาดของหน้ายางรถยนต์ในหน่วย มิลลิเมตร
ตัวเลข 70 คือ การระบุขนาดของแก้มยางหน่วยเป็นเปอณืเซ็นต่อหน้ายางการอ่านจะเป็นรูปแบบ ดังนี้ ยางเส้นที่ ECO Sticker นี้ระบุมีแก้มยางเป็น 70 เปอร์เซ็นของหน้ายาง ตามตัวอย่าง หน้ายางทีขนาด 235 มิลลิเมตร แก้มยางของยางเส้นนี้จึงมีขนาด 164.5 มิลลิเมตร นั้นเอง
*สูตรการหาแก้มยาง (235 x 70)/100 นั้นคือ หน้ายาง x (เปอร์เซนแก้มยาง/100)
ตัวหนังสือ R เป็นการบ่งบอกชนิดของยางแบบ Radial
*ยาง Radial คือ ยางที่ออกแบบให้มีโครงสร้างประกอบด้วยชั้นผ้าใบพันรอบยางในแบบทำมุม 90 องศากับเส้นรอบวงของยาง ใต้ดอกยางมีชั้นผ้าใบหรือแถบเหล็กเสริมหน้ายาง ทำให้ยาง Radial นี้มีคุณสมบัติที่โดดเด่น และเป็นที่นิยมด้วย คุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่นสูง และแข็งแรง มีการยึดเกาะถนนที่ดี
ตัวเลขส่วนสุดท้าย 16 เป็นตัวเลขที่ระบุรัสมีของยาง หน่วยเป็นนิ้ว
ในส่วนนี้เป็นส่วนที่เราจะใช้ในการดูควบคู่ไปกับล้อที่เราใช้ หากมีรัสมีเท่ากันกับล้อถึงจัสามารถใส่กันได้
- ตัวเลขระบุ การรับน้ำหนัก และความเร็วสูงสุด 109T
ตัวเลข 109 เป็นโค้ดอัตราการบันทุกของยางเส้นนี้ อ้างอิงจากตารางอัตราการรับน้ำหนักมาตรฐาน ในใบ ECO Sticker นี้ระบุว่ามี Load index = 109 ฉะนั้น ยางเส้นนี้สามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 1030 กิโลกรัม
ส่วนตัวอักษร T ที่อยู่ด้านหลัง 109 นั้นจะเป็นโค้ดของความเร็วสูงสุดของยางเส้นนี้ ใน ECO Sticker ใบนี้ระบุว่ายางเส้นนี้มีค่า Speed Symbol = T หรือรับความเร็วได้สูงสุดที่ 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นั้นเอง
- อักษร 2 ตัว หลังสุด XL
XL คือ Extra load จะระบุว่ายางรุ่นนี้สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่าปกติ
สรุปจุดที่ 1-3
OTANI
SA3000
235/70R16 109T XL
ยางรถยนต์แบรนด์ OTANI รุ่น SA3000 ขนาดหน้ากว้าง 235 มิลลิเมตร ขนาดความสูงแก้มยาง 164.5 มิลลิเมตร เป็นยางเรเดียน ที่ใช้กับล้อรถยนต์ขนาด 16 นิ้ว สามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 1030 กิโลกรัม และรองรับความเร็วสูงสุดได้ที่ 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นยางพิเศษเอ็กตร้าโหลดแก้มยางสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่าปกติ
จุดที่ 4 และ 7 ระบุความประหยัดน้ำมันของยางเส้นนี้
จุดที่ 4 นี้เป็นการบ่งบอกความประหยัดน้ำมันของยางรถยนต์เส้นนี้ โดยวัดจากแรงต้านทานการหมุน
จุดที่ 7 จะแสดงค่า C1 ,C2 ,และ C3 เป็นการแสดงว่ายางนี้อยู่ใน Class ไหน เกณฑ์การให้ค่าคะแนนความประหยัดก็จะเปลี่ยนไปตาม Class ของยางนั้นๆ
*รถยนต์นั้งส่วนบุคคล (C1), รถบรรทุกขนาดเล็กเชิงพาณิชย์ (C2),รถบรรทุก (C3).
*RRC = Rolling Resistance Coefficient
สำหรับยาง OTANI SA3000 ตัวนี้เป็นยาง Class 1 ให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านการหมุนที่ 8.8 จึงได้ระดับความประหยัดที่เกรด C นั้นเอง
จุดที่ 5 ความปลอดภัยการยืดเกาะบนถนนเปียก
สำหรับการวัดค่าการยึดเกาะบนถนนเปียกนี้เป็นการวัดค่าจากมาตรฐานอ้างอิงจากมาตรฐานข้อบังคับ UNECE 117 โดยมีการใช้ค่าตัวแปล G ที่แทน wet grip index และจะตัดคะแนนเป็นช่วงๆ เพื่อแบ่งเกรดของคะแนนตั้งแต่ A-G
สำหรับ ECO Sticker ตัวอย่างของ OTANI SA3000 ได้คะแนนค่า G ที่ 1.34 อยู่ในเกรด C ถ้าอยากได้คุณสมบัติการรีดน้ำ หรือการยึดเกาะบนถนนเปียกที่ดี ก็พิจรณาจากเกรดตรงนี้ได้เลย
จุดที่ 6 คุณสมบัติของเสียงรบกวน
สำหรับ จุดที่ 6 การแสดงค่าเสียงรบกวนของยาง เพื่อเลือกยางที่เงียบมากเงียบน้อย จึงใช้ตัวแปล คือ N(Noise) ที่อ้างอิงตามข้อบังคับ UNECE 117 เช่นกัน โดยจะต้องผ่านข้อบังคับ LV หรือ Limit Values ตามมาตรฐาน EC 661/2009 ส่วนการตัดเกรดจะแตกต่างออกไปนิดหน่อย โดยคุณสมบัติของเสียงรบกวนจะให้แทนด้วยรูปแทน
สรุปคือถ้าหากสเกลเสียงเยอะๆ ก็ยิ่งมีเสียงรบกวน N เยอะถ้าอยากได้เงียบละก็เลือกรูปที่มีสเกลน้อยๆ อย่าง OTANI SA3000 มีเสียงรบกวนพอสมควรระดับ 72 dB
จุดที่ 8 ระดับของการทดสอบ
เป็นการระบุระดับการทดสอบแรงต้านการหมุน นั้นคือ S1WR1 , S1WR2 ,S2WR1 , หรือ S2WR2
จุดที่ 9 เลขที่เอกสารอ้างอิงมาตรฐาน
เป็นส่วนที่จะแสดงว่างยางเส้นนี้ผ่านมาตรฐารของ มอก. ฉะบับใดบ้าง อย่าง OTANI SA3000 เส้นนี้สามารถผ่าน มอก. 2 ตัวนั้นคือ
- มอก. 2721-2560 : ลักเกณฑ์เฉพาะในการตรวจสอบเพื่อการอนุญาต สำหรับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อสูบลม
- ข้อกำหนดด้านเสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน
- การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก
- ความต้านทานการหมุน
- มอก. 2718-2560 : ยางล้อแบบสูบลมสำหรับรถยนต์และส่วนพ่วง
*ถ้าเป็นยางรถยนต์เชิงพาณิชย์จะเป็นมาตรฐาน มอก. 2719-2560
ติดตามข้อมูลยางรถยนต์ รถยนต์ พร้อมโปรโมชั่นดีๆ ข้อมูลเด็ดๆ ได้ที่เว็บไซด์ Autotirechecking(ATC) และ Facebook