Ford Everest 2022 เปิดตัว คาดไทยได้ใช้ดีเซล 2.0 เทอร์โบ
เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ All-new Ford Everest 2022 รถ SUV ที่พัฒนาบนพื้นฐาน All-new Ford Ranger 2022 ต่อจาก All-new Ford Ranger Raptor 2022 ซึ่งในไทยจัดให้มันเป็นรถกลุ่มพิเศษที่เรียกว่า PPV เพื่อเอื้อประโยชน์และดันให้รถ PPV ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมากและขณะเดียวกันก็ทำให้คนไทยบางส่วนพากันสับสนด้วย
โดยในการเปิดตัวครั้งนี้ทาง Ford Motor เคลมว่า All-new Ford Everest 2022 จะเป็นรถ SUV ที่ผสมผสานการใช้งานในทุก ๆ ด้านรวมไว้ในคันเดียว ทั้งความสามารถในการบุกลุย ความสบายในการโดยสาร เทคโนโลยีอำนวยความสะดวก รวมถึงการขับขี่ที่สนุกสนาน
ส่วนดีไซน์ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกตาหรือต้องอธิบายอะไรมากมายนัก เพราะหลัก ๆ ก็พัฒนาต่อยอดจากพื้นฐานของ All-new Ford Ranger 2022 ที่เปิดตัวไปเป็นลำดับแรก จะต่างออกไปก็แค่สไตล์ตัวถัง SUV ที่ออกแบบด้านท้ายเพิ่มเข้าไป ภายใต้ภาษาออกแบบใหม่ของ Ford ที่เน้นเหลี่ยมสันชัดกว่าโฉมที่แล้ว
เช่นเดียวกับดีไซน์ภายในห้องโดยสารของ All-new Ford Everest 2022 แผงหน้าปัดก็แทบไม่ต่างจาก All-new Ford Ranger 2022 ทุกอย่างอยู่บน Lay-out เดิมเกือบทั้งหมด
ยกเว้นในรายละเอียด เช่น เรือนไมล์ดิจิทัลมีตั้งแต่ขนาด 8-12.4 นิ้ว (แล้วแต่เกรด) ติดตั้งจออินโฟเทนเมนต์ขนาดใหญ่ 10.1-12 นิ้ว (แล้วแต่เกรด) แนวตั้งประกบด้วยช่องแอร์ลายรังผึ้ง และที่ Everest ต้องต่างจาก Ranger แน่ ๆ คือการวางเบาะ 3 แถว รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 7 ที่นั่ง
นอกจากนี้ All-new Ford Everest 2022 ยังติดตั้งฟีเจอร์ไฮเทครองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ เช่น ระบบสั่งงานด้วยเสียง รองรับการเชื่อมต่อกับโลกภายนอก
ซึ่งสามารถสั่งงาน ตรวจสอบสถานะของรถจากระยะไกลได้ผ่านแอปพลิเคชัน FordPass บนสมาร์ตโฟน เช่น สตาร์ตรถ ล็อก-ปลดล็อกประตูรถ สั่งเปิดไฟส่องสว่างรอบตัวรถได้
มีติดตั้งกล้องแสดงภาพ 360 องศา รอบคัน และสามารถเลือกแสดงภาพจากกล้องซ้าย-ขวา เพื่อให้สะดวกในการถอยในที่แคบ หรือดูสิ่งกีดขวางข้างตัวรถบนเส้นทางออฟ-โรด
รวมถึงใน All-new Ford Everest 2022 ใหม่ จะมีระบบช่วยขับขี่ติดตั้งมาให้เพื่อลดความเครียดและความผิดพลาดของผู้ขับขี่มาให้ด้วย เช่น
- ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน รักษาระยะห่าง หยุด-เคลื่อนตัวตามรถคันหน้า และช่วยควบคุมให้อยู่ในช่องทางจราจรได้ (โดยจับเส้นจราจรบนพื้นถนน) รวมถึงจำกัดความเร็วอัตโนมัติตามป้ายสัญญาณจราจร
- ระบบรักษาช่องทางจราจร พร้อมป้องกันรถตกถนน
- ระบบช่วยหักหลบรถยนต์คันหน้าที่วิ่งช้าหรือจอดนิ่ง (ด้วยกล้องและเรดาร์) ทั้งในการขับขี่ในเมืองและนอกเมือง
- ระบบเบรกอัตโนมัติขณะถอย เมื่อผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองต่อสิ่งกีดขวาง
- ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาครอบคลุมถึงขณะรถมีการลากจูงวัตถุกว้างสูงสุด 2.4 ม. ยาว 10 ม.
- ระบบหลีกเลี่ยงการชนเวอร์ชั่นใหม่ที่ตรวจจับในทางแยกได้
ส่วนความสามารถในการฝ่าเส้นทางที่เป็นอุปสรรค All-new Ford Everest 2022 ถูกออกแบบให้มีความสูงใต้ท้องรถพิ่มขึ้นอีก 50 มม. ทำให้มองเห็นทัศนวิสัยชัดเจนด้วยตำแหน่งขับขี่สูงขึ้น บุกลุยได้มากขึ้น แต่ยังคงมีระบบขับเคลื่อนให้เลือกทั้งแบบ 4 ล้อ และ 2 ล้อ (สำหรับบางตลาด) และเชื่อว่าไทยจะมีทั้ง 2 แบบ
สำหรับทางด้านขุมพลัง All-new Ford Everest 2022 นั้นจะมีหลายแบบ แต่ขึ้นอยู่กับตลาดที่วางจำหน่าย ได้แก่
- เครื่องยนต์ดีเซล แบบ วี 6 สูบ ขนาดความจุ 3.0 ลิตร เทอร์โบ
- เครื่องยนต์ดีเซล แบบ 4 สูบ ขนาดความจุ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่
- เครื่องยนต์ดีเซล แบบ 4 สูบ ขนาดความจุ 2.0 ลิตร เทอร์โบ
- เครื่องยนต์เบนซิน EcoBoost แบบ 4 สูบ ขนาดความจุ 2.3 ลิตร
แต่ถ้าดูจากความน่าจะเป็น All-new Ford Everest 2022 สำหรับตลาดไทย โอกาสที่จะใช้เครื่องยนต์ดีเซล วี 6 สูบ 3.0 ลิตร และเบนซิน 2.3 ลิตร คงยาก ก็คงเหลือแค่เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ กับเทอร์โบเดี่ยว พอจะมีความเป็นไปได้สูงกว่า
ที่มา : Ford