ต้องรู้ 5 ข้อต้องเลือกก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

สวัสดีครับเพื่อนๆ จากกระแสน้ำมันแพงจนลามไปถึงข่าวสงครามที่อาจจะเกิดได้ทุกมื่อในช่วงนี้ เพื่อนๆเคยคิดว่าอยากจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้เพื่อลดค่าใช้จ่ายประจำวัน? แล้วเพื่อนๆอยากรู้หรือไม่ว่าปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเอามาใช้นั้นต้องเลือกอะไรบ้าง

*ทั้งนี้ในบทความนี้จะไม่พูดถึงราคา การออกแบบ และสมรรถนะ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ขึ้นกับการใช้งานของแต่ละบุคคล

แบตเตอรี่

หัวใจหลักในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าคือแบตเตอรี่ ที่ต้องใช้งานในการจ่ายไฟเพื่อขับเคลื่อน และชาร์จไฟเพื่อเก็บประจุ ด้วยเซลแบตเตอรี่นับร้อยภายใน ฉะนั้นความทนทาน อีกทั้งประสิทธิภาพการใช้งานจะต้องคุ้มค่า

– ชนิดของแบตเตอรี่แบ่งตามปฏิกริยาเคมี

>>Lithium Ion (Li-Ion) -> ลิเธียมไอออนเป็นที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบันเนื่องจาก มีความเหมาะสมกันระหว่างราคาการผลิต และประสิทธิภาพในการใช้งาน ในแบรนด์ระดับโลกอย่าง Tesla  ยังใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน lithium nickel cobalt aluminium oxide และต่อมาพัฒนาเป็น lithium iron phosphate

>>Nickel Manganese Cobalt (NMC) -> เป็นชนิดแบตเตอรี่ที่ให้ความสมดุลระหว่างด้านการจ่ายพลังงานเป็นชนิดแบตเตอรี่ที่อยู่ใน Chevy Volts

>>Nickel Metal Hydride (Ni-MH) -> เป็นแบตเตอรี่ยุคบุกเบิกของรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าตั้งแต่รถยนต์ Hybrid ตัวอย่างเช่น Toyota Prius แต่ในปัจจุบันเป็นเทคโนโลยีเก่าไปแล้ว ซึ่งทดแทนโดย Lithium Ion (Li-Ion)

>>Lithium Sulphur (Li-S) -> เป็นแบตเตอรี่ที่ให้การเก็บกักพลังงานสูง เป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจในการมาพัฒนารถยนต์ EV แต่มีข้อเสียนั้นคือ Lithium Sulphur (Li-S) จะต้องใช้ความร้อนในการอุ่นแบตเตอรี่ให้ถึงอุณหภูมิทำงาน

>>Lead-Acid -> แบตเตอรี่แบบกรดประเภทที่เราใช้ในปัจจุบันส่วยใหญ่เอามาเป็นขุมพลังงานให้กับรถยนต์ EV ที่ใช้พลังงานน้อยอย่างเช่นรถกอล์ฟ Lead-Acid เป็นประเภทแบตเตอรี่ที่ให้พลังงานต่ำ แต่ก็มีข้อดีคือต้นทุนการบำรุงรักษาต่ำ และเปลี่ยนใหม่ได้ง่าย

ในอนาคตเราอาจจะไดเห็นแบตเตอรี่ที่ทำมาจากเทคโนโลยี solid-state ที่เก็บพลังงานได้ดีกว่า และให้กำลังมากกว่าก็เป็นได้ แต่ในปัจจุบันจนถึงในระยะ 5-10 ปี นี้แบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ EV ที่ใช้ในท้องถนนนั้นควรจะเป็น Lithium Ion (Li-Ion) ถึงเรียกว่าเป็นมาตรฐานในการใช้งาน

 

 

– การเปลี่ยนแบตเตอรี่
การออกแบบแบตเตอรี่นั้นขึ้นยังไม่มีข้อบังคับว่าจะต้องออกแบบเป็นอย่างไร ฉะนั้นก็ขึ้นกับการออกแบบของผู้ผลิต บางเจ้าก็ออกแบบให้เบตเตอรี่เป็นก้อนเดียวไม่สามารถเปลี่ยนแยกยูนิต หรือเซลล์แบตเตอรี่ได้ ฉะนั้นการเลือรถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มเงินควรมองการไกลไปถึงการเปลี่ยนในจุดนี้ด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าแบตเตอรี่ขนาด 40 kWh โดยแยกเป็น 8 โมดุล ในตัวแบตเตอรี่ ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่แยกโมดุลได้โดยไม่ต้องเป็นที่เดียวยกแบต ทำให้ลดต้นทุนการเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เยอะเลยทีเดียว

ระยะทาง

ระยะทางในการเดินทางเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า EV เนื่องจากการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้งนั้น จะใช้เวลาขั้นต่ำในการชาร์จน้อยสุดก็ 15 นาที ฉะนั้นระยะทางในการใช้งานต่อการชาร์จ 1 ครั้งนั้นสำคัญมาก และอีกหนึ่งสิ่งที่เพื่อนๆควรรู้ก่อนจะเลือกซื้อนั้นคือ ระยะทางที่ติดมาข้างรถนั้นเป็นผลการทดสอบที่เกิดจากการขับในสภาพอากาศ และตัวแปลอื่นๆที่ถูกควบคุมในห้องทดสอบ

แต่ในโลกแห่งความจริงนั้นมีตัวแปลที่ส่งผลให้ระดับการลดลงของแบตเตอรี่นั้นเกิดการใช้งานที่มากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น ระดับความเร็ว ,อากาศพลศาสตร์ ,สภาพอากาาศ ,แรงฉุดของยางต่อพื้นถนนแต่ละสภาพ ,น้ำหนักการบรรทุก ,หรือแม้แต่การใช้เครื่องไฟฟ้าในรถยนต์ไฟฟ้า EV ดังนั้นควรคิดไว้ว่าจากระยะจริงที่สามารถขับได้นั้น อาจจะวิ่งได้น้อยกว่าการทดสอบ 10-15% จากระยะทางที่ผู้ผลิตนำเสนอ ดังนั้นก่อนเลือกซื้อควรคำนวนระยะทางการใช้งานต่อวันก่อนที่จะตัดสินใจ

หัวชาร์จ

หัวชาร์จของรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีหลากหลายขนิดตัวอย่างหัวชาร์จที่มีใช้ส่วนใหญ่ในโลก

ที่เราต้องรู้เรื่องหัวชาร์จเนื่องจากในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเราไม่สามารถเลี้ยงการชาร์จไฟนอกสถานที่ได้เลย ในประเทศไทยหัวชาร์จที่สถานีชาร์จส่วนใหญ่จะเป็นการชาร์จด้วยกระแสตรง DC เพื่อความเร็วในการชาร์จ และโดยส่วนใหญ่หัวชาร์จจะเป็นแบบ CCS ComboTYPE 2 และ CHAdeMO ส่วนการชาร์จกระแสสลับ AC จะเป็นแบบ TYPE2 ในส่วนมาก แต่ในรถยนต์ไฟฟ้า EV อย่าง TESLA ก็มีหัวชาร์จในแบบของตัวเองเพื่อประสิทธิภาพการชาร์จ ในบางเจ้าจะแถมหัวแปลงมาให้ด้วยเพื่อการใช้งานได้ในทุกรูปแบบ

ฟังก์ชั่นการชาร์จ

หากรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่เราซื้อนั้นราคาแพงมากก็จริงแต่มีเทคโนโลยีเพิ่มเติมในการช่วยให้ประหยัดไฟบ้าน และช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นก็ถือว่าคุ้มค่า ในปัจจุบันเทคโนโลยีนั้นเปลี่ยนแปลงรถยนต์ไฟฟ้า EV จากการรับไฟไปใช้ในการเดินทางอย่างเดียว ให้เพิ่มฟังก์ชั่นให้เป็นแหล่งจ่ายไฟเคลื่อนที่ได้ด้วย แต่ต้องติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มในบ้านเพื่อเป็นตัวกลางในการจ่ายไฟจากรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปสู่ระบบไฟฟ้าในบ้าน ในกรณีไฟดับ หรือเกิดเหตุไม่คาดคิดเราก็ยังสามารถใช้ไฟได้จากรถยนต์ไฟฟ้า EV ของเรานั้นเอง

แม้กระทั้งช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายของการใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนได้ เมื่อเราไม่ได้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า EV ทำให้ไฟฟ้าที่ถูกชาร์จไว้ในตอนกลางคืนซึ่งค่าไฟถูกกว่าในช่วง Peak Time เราสามารถเอาไฟจากรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่มีมาใช้แทน หรือขายกลับสู่การไฟฟ้าได้

ประกันระบบไฟฟ้า

สิ่งสุดท้ายคือเรื่องของการประกันคุณภาพระบบไฟฟ้าแรงสูงที่ใช้จ่ายไฟในการขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้า EV เนื่องจากการบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า EV นั้นต่ำอยู่แล้วแต่ถ้าหากต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนในระบบการใช้ไฟฟ้าเพื่อขับขี่ต้นทุนจะแพงกว่าชิ้นส่วนเล็กๆของเครื่องยนต์สันดาปแน่นอน ฉะนั้นสิ่งที่จะเสริมความมั่นใจ และความคุ้มค่าในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV นั้นคือการรับรองคุณภาพของ แบตเตอรี่ ,มอเตอร์ไฟฟ้า ,อินเวอร์เตอร์ ,และอื่นๆ โดยเฉพาะการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่มีราคาถูกเรื่องประกันนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้งานอย่างเราๆ มั่นใจในการใช้งาน

ติดตามข่าวสาร และสาระดีๆ ได้ที่ AUTOTIRECHECKING.COM หรือ FACEBOOK AUTOTIRECHECKING