MG Maxus 9 เปิดตลาด MPV ไฟฟ้าพรีเมียม ราคา 2 ล้านบาท
MG Maxus 9 เน้นเดินเกมเร็ว ชิงเปิดตลาดรถ MPV ไฟฟ้าพรีเมียม 7 ที่นั่ง มีเบาะแถว 2 แบบ VIP ปรับไฟฟ้า หรูหราใกล้เคียง Toyota Alphard ระยะทางวิ่งสูงสุด 540 กม. ในราคาต่ำข่มขวัญรถญี่ปุ่น
โดย MG Maxus 9 จะมีขนาดใหญ่กว่า Toyota Alphard รวมถึง Toyota Velfire เกือบทุกมิติ ยกเว้นความสูง ด้วยความยาว 5,270 มม. กว้าง 2,000 มม. สูง 1,840 มม. ระยะฐานล้อ 3,200 มม. และความสูงใต้ท้องรถ 140 มม. ซึ่งแบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย ดังนี้
- MG Maxus 9 รุ่น X ราคาประมาณ 2.3 ล้านบาท
- MG Maxus 9 รุ่น Y ราคาประมาณ 2.5 ล้านบาท
*เปิดรับจองแล้ว แต่ราคาจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งช่วงเดือนพฤษภาคม
ส่วนดีไซน์ของ MG Maxus 9 สัดส่วนโดยรวมคล้ายรถ MPV ขนาดใหญ่ทั่วไป แต่ฝากระโปรงหน้าค่อนข้างยาวขนานพื้นไม่ลาดเทมากนักเพื่อให้ดูคล้ายรถ SUV โดยมีชุดไฟหน้าฝังอยู่ในมุมกันชน ด้านบนคาดไฟซิกเนเจอร์ กันชนตกแต่งด้วยสีดำแทนกระจังหน้า และมีช่องระบายอากาศชุดแบตเตอรี่
สำหรับโปรไฟล์ด้านข้างค่อนข้างเรียบ และลดความโล่งตาด้วยเส้นสันคม รวมถึงคิ้วโครเมียมกรอบหน้าต่างแบบหักมุมขึ้นไปบนเสา C เพิ่มความหรูให้กับตัวรถ ขณะที่เส้นไฟท้ายคาดยาวปลายแฉกแยกออกเป็นแนวนอนกับแนวตั้ง ส่วนประตูสสไลด์ไฟฟ้า 2 ด้าน ฝาท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า ล้อขนาด 19 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างของ MG Maxus 9 ทั้ง 2 รุ่นย่อย จะอยู่ที่ภายในห้องโดยสาร ซึ่งรุ่น X จะได้เบาะแถว 2 แยก หรือ Captain Seat แบบมาตรฐาน ที่พับแขนพับได้
แต่ MG Maxus 9 รุ่น Y จะได้เบาะ Captain Seat แบบ VIP คือ มีเคาเตอร์เท้าแขนกั้นแบบที่นั่งเครื่องบินชั้น Business Class ซ่อนโต๊ะพับกางออกได้ มีแผงควบคุมมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส รวมถึงเบาะ 2 แถว หน้าจะเป็นเบาะนวดพร้อมระบบระบายอากาศทั้งหมด ต่างจากรุ่น X จะได้เฉพาะเบาะแถว 2 กับลำโพงและอุปกรณ์เล็กน้อยไม่กี่รายการ
MG Maxus 9 กับเบาะแถว 2 ของรุ่น X
นอกเหนือจากนี้ MG Maxus 9 ทั้งสองรุ่นก็แทบไม่มีอะไรต่างกันเลย แม้แต่ระบบความปลอดภัยที่มีระบบช่วยขับขี่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในระดับที่รถญี่ปุ่นในราคาเท่ากันไม่สามารถให้ได้ ยิ่งรถยุโรปไม่ต้องหวัง ส่วนระบบจะทำงานได้สมบูรณ์หรือไม่ก็ต้องรอตอนใช้งานจริงอย่างเดียว
ทางด้านระบบขับเคลื่อน MG Maxus 9 จะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 245 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร จ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 90 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ขับเคลื่อนล้อหน้า ระยะทางวิ่งสูงสุดวัดตามมาตรฐาน NEDC คือ 540 กิโลเมตร/ชาร์จ
โดยสีตัวถัง MG Maxus 9 จะมีให้เลือกเพียง 3 สี โทน Grayscale ได้แก่ สีเทาหลังคาดำ (อันนี้มีเฉพาะรุ่น V ซึ่งต้องเพิ่มเงินด้วย), สีขาว และสีดำ ให้เลือกตามสูตร
ใครชอบก็จัด ราคาประหยัดกว่า Toyota Alphard แถมขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าตามเทรนด์ เหลือแค่ลุ้นว่าคุณภาพและการใช้งานจะสมฐานะ สมราคาขนาดไหน
ที่มา MG
