MG Cyberster คันจริงไม่เหมือนต้นแบบ…แต่แซ่บอยู่
MG Cyberster คันจริงปรากฏตัว แม้ดีไซน์จะไม่ตรงปกเมื่อเทียบกับคันต้นแบบที่เคยเอามาโชว์และเปิดรับจองเสียเท่าไรนัก แต่จากสเปกก็ต้องบอกว่า MG Cyberster พอแซ่บได้อยู่
MG Cyberster สปอร์ตโรดสเตอร์ไฟฟ้าเผยโฉมเพื่อยื่นจดทะเบียนกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีนก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ กับการเป็น Halo Car ช่วยเรียกทั้งแขก ทั้งชื่อเสียงจากอดีตที่โด่งดังด้วยรถสปอร์ตน้ำหนักเบาให้กลับมาสู่แบรนด์ MG อีกครั้ง
เพราะตั้งแต่ MG เปลี่ยนมือจาก ตกเป็นของกลุ่มทุนจีนอย่าง SAIC ก็ไม่ได้มีการพัฒนารถสปอร์ตรุ่นใหม่อันเป็น Heritage ของแบรนด์ MG อีกเลย จะมีก็เพียงแต่รถบ้านเน้นการใช้งานทั่วไป
และ MG คงตระหนักได้ว่าคุณค่า หรือจิตวิญญาณของแบรนด์ดั้งเดิมของ Morris Garages ที่เริ่มต้นจากการเป็นอู่ปรับแต่งรถ Morris (ที่มาของชื่อ Morris Garages หรืออู่ของรถ Morris) ซึ่งเป็นรถบ้านราคาประหยัดให้มีสมรรถนะสูง การขับขี่มีความเป็นสปอร์ตมากขึ้นจนมีชื่อเสียง
โปรเจกต์ MG Cyberster จึงถือกำเนิดขึ้นในฐานะรถสปอร์ตโรดสเตอร์ไฟฟ้าต้นแบบดีไซน์เซ็กซี่และมีสัดส่วนแบบรถในอดีต หน้ายาว ท้ายสั้น ซึ่งตระเวนโชว์ตัวไปทั่วรวมถึงประเทศไทย พร้อมเปิดรับจองแบบ Early Bird สำหรับสาวกผู้มีจิตใจกล้าหาญแม้คันจริงยังไม่ถือกำเนิด
แต่ล่าสุด MG Cyberster ดูเหมือนจะพร้อมแล้วสำหรับการผลิต เพราะมีการนำรถคันจริงยื่นจดทะเบียนกับกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีนแล้วเป็นที่เรียบร้อย
โดยดีไซน์ MG Cyberster นั้นต่างจากรถต้นแบบอยู่ไม่น้อยในแง่ของสัดส่วน (Proportion) ท่ายืนของรถ (Stance) รวมถึงตัวถังไม่ได้แขวนต่ำ (Low Slung) เท่าไรนักในฐานะรถที่ต้องใช้งานจริง แต่หลัก ๆ คือ ต้องเอื้อต่อการผลิตที่ง่าย ต้นทุนไม่สูงจนเกินไป
ส่วนรายละเอียดของ MG Cyberster ถือว่าไม่ต่างจากต้นแบบจนรับไม่ได้ (ถ้าไม่โลกสวยเกินไป ก็คงต้องเผื่อใจไว้แล้วบ้างแหละ) เช่น สันฝากระโปรงหน้างุ้มต่ำ ไฟหน้าดูธรรมดาเหมือนรถทั่วไป ขณะที่ชุดไฟท้ายทรงลูกศรชี้ออก ซึ่งเป็นการเอา Motif ส่วนหนึ่งของธง Union Jack มาใช้ในแบบที่ MINI ทำ
ทั้งนี้ MG Cyberster จะมีความยาว 4,535 มม. กว้าง 1,913 มม. สูง 1,329 มม. ซึ่งใหญ่กว่า Mazda MX-5 อยู่หน่อย
สำหรับทางด้านขุมพลังไฟฟ้าระบุว่าจะมี 2 แบบ คือ มอเตอร์เดี่ยว กับมอเตอร์คู่ โดย MG Cyberster รุ่นมอเตอร์เดี่ยว จะมีกำลังสูงสุด 309 แรงม้า และเพิ่มเป็น 536 แรงม้า ในรุ่นมอเตอร์คู่ ก็ถือว่าแซ่บพอตัว
แต่การขับขี่ของ MG Cyberster จะให้บุคลิกแบบรถสปอร์ตเบาได้หรือไม่นั้นตอบยาก โดยเฉพาะเมื่อดูจากน้ำหนัก 1,850 กก. ของรุ่นมอเตอร์เดี่ยว และ 1,985 กก. ในรุ่นมอเตอร์คู่ ไม่ว่ารุ่นไหนก็เกือบ 2 ตัน ทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม กำหนดการเปิดตัวของ MG Cyberster ได้แจ้งไว้ตั้งแต่แรกแล้ว คือ ปี 2024 ซึ่งจะครบรอบ 100 ปี ของการก่อตั้งแบรนด์ Morris Garages พอดี
ส่วน MG Cyberster จะดีพอหรือไม่ภายใต้การครอบครองของจีน ก็น่าจะมีทั้งคนพอใจและไม่พอใจในเวลาเดียวกันเป็นเรื่องปกติ ถ้าชอบก็จัดไปอย่าได้แคร์
ที่มา Autocar