Nissan Serena e-POWER เตรียมบุกตลาด MPV ในไทยปีหน้า
Nissan Serena e-POWER ยืนยันมาไทยปีหน้า คาดนำรอนำเข้าจากอินโดนีเซีย เพื่อเปิดตลาดรถครอบครัว ประตูสไลด์ 7-8 ที่นั่ง ไซซ์เล็กกว่า Toyota Alphard ซึ่งยังว่างอยู่
หลังจาก Nissan ยุคสยามกลการเคยนำ Nissan Serena เจเนอเรชั่นแรก เครื่องยนต์วางกลางลำ เข้ามาจำหน่ายในไทยช่วงยุค 90 ซึ่งเป็นยุคนำเข้าเสรี ทำยอดขายได้พอเป็นสีสันและไม่ได้ทำตลาดต่อ
ล่าสุดในยุคที่ไม่ (ค่อย) เสรีกับการนำเข้ารถยนต์ Nissan ภายใต้การบริหารโดยบริษัทแม่ลุยเอง เตรียมนำ Nissan Serena กลับมาอีกครั้งพร้อมเทคโนโลยี e-POWER ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน แต่ไม่ต้องชาร์จไฟ
และ Nissan Serena e-POWER จะเป็นรถ MPV ทรงตั้งสูงขนาดกลาง เบาะ 3 แถว 7-8 ที่นั่ง เพียงรุ่นเดียวที่มีวางจำหน่ายในไทย เพราะ Honda Stepwagon ก็เลิกจำหน่ายในไทยเพราะหมดโควตานำเข้าไปแล้ว และ Toyota ก็คงไม่นำเข้า Noah หรือ Voxy มาจำหน่ายให้เสียเวลา ตราบเท่าที่ Demand ยังไม่มากพอ
โดย Nissan Serena e-POWER จะกลายเป็นรถ MPV เซกเมนต์ใหม่ ขนาดใหญ่กว่า Toyota Sienta และเล็กกว่า Toyota Alphard ด้วยมิติตัวถังที่ยาว 4,765 มม. กว้าง 1,715 มม. สูง 1,895 มม. ความยาวฐานล้อ 2,870 มม. ซึ่งจะมีลักษณะแคบ ยาวและสูงโปร่ง
ส่วนดีไซน์ไปในทิศทางของ Nissan รุ่นใหม่ด้วยกระจังหน้า V-Shaped ขนาดใหญ่กลืนไปกับชุดไฟหน้า ขณะที่บานกระจกรอบคันมีขนาดใหญ่และสูงโปร่ง เพื่อชดเชยความกว้างที่ถูกจำกัดด้วยเรื่องของภาษี (ในญี่ปุ่น) บานประตูเป็นสไลด์ 2 ด้าน พร้อม Kick activate และขอบฝาท้ายออกแบบให้อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำ เอื้อต่อการยกของเข้า-ออกได้อย่างสะดวก
แต่ไฮไลต์หลัก ๆ ของ Nissan Serena e-POWER คือ การจัดสรรพื้นที่ภายในห้องโดยสารให้ได้ประโยชน์สูงสุดสมกับความเป็นญี่ปุ่น ซึ่งจะแบ่งเป็นรุ่นเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง และเบาะ 3 แถว 8 ที่นั่ง
โดยรุ่นเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง จะคล้าย ๆ กับรถ MPV ทั่วไป คือ มีเบาะคู่หน้าพร้อมคอนโซลกลางแบบตายตัว เบาะแถวสองแบบ Captain Seat ปรับเลื่อนเดินหน้า-ถอยหลัง รวมถึงปรับเลื่อนด้านข้างให้สองเบาะนั้นชิดกันได้ด้วย ส่วนเบาะแถวสามแบบ Bench Seat 3 ที่นั่ง แยกพับได้ 50:50
แต่รุ่นเบาะ 3 แถว 8 ที่นั่ง ค่อนข้างมีลูกเล่น สามารถเลื่อนเบาะตัวกลางของแถวสองที่เป็นแบบ 3 ที่นั่ง ให้เดินหน้าไปอยู่เบาะแถวหน้าเพื่อเป็นคอนโซลกลางได้ เบาะแถวสองก็จะกลายเป็นเบาะแยกแบบ Captain Seat หรือถ้าไม่เลื่อนไปแถวหน้าและนั่งแถวสองเพียงสองคนก็พับเป็นที่พักแขนได้ด้วยเช่นกัน ส่วนเบาะแถวสามฟังก์ชันเหมือนกับรุ่น 7 ที่นั่ง
นอกจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นรุ่น 7 หรือ 8 ที่นั่ง ก็จะสามารถปรับเปลี่ยนเบาะตามลักษณะการใช้งาน หรือไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันได้หลายรูปแบบ และมีพื้นโดยสารราบเรียบสามารถเดินทะลุถึงกันได้ตามสไตล์ห้องโดยสารแบบ Monospace
สำหรับด้านขุมพลังของ Nissan Serena e-POWER ชัดเจนว่าเป็นเทคโนโลยี e-POWER ที่ Nissan ภูมิใจนำเสนอ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ใช้มานานแล้วกับเรือดำน้ำ หรือรถไฟ และ Nissan ก็เอาแนวคิดนี้มาใช้กับรถยนต์
ซึ่งจะติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.4 ลิตร ทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟ เพื่อจ่ายไฟให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนล้อหน้า โดยมีกำลังสูงสุด 163 แรงม้า และแรงบิด 315 นิวตันเมตร ข้อดีคือไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก แต่การขับขี่เหมือนรถยนต์ไฟฟ้า
อันเป็นจุดขายหลักในมุมมองของ Nissan สำหรับผู้ที่อยากแต่ยังไม่พร้อม หรือไลฟ์สไตล์ไม่เอื้อต่อการใช้รถยนต์ไฟฟ้าล้วนในตอนนี้ด้วยข้อจำกัดหลาย ๆ ด้าน
ทั้งนี้ Nissan Serena e-POWER ที่จะทำตลาดในไทยปีหน้า คาดว่าจะเป็นการนำเข้าจากอินโดนีเซีย ซึ่งตอนนี้ยังคงจำหน่ายโฉมเก่าที่ไม่ e-POWER อยู่ ดังนั้นก็คงต้องรอให้อินโดนีเซียเปิดตัวให้เรียบร้อยกันไปเสียก่อน
ที่มา : Nissan
