AVATR 11 รถ SUV ไฟฟ้าเข้าไทยปีหน้า หรูหราเทียบชั้นรถยุโรป
AVATR 11 รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์หรูขนาดกลางจาก Changan เตรียมบุกในไทยปีหน้า โดยซับแบรนด์ AVATR ถูกวางตำแหน่งไว้เหนือกว่า Changan ทั้งไฮเทค ทั้งหรูหรา แต่ราคาเป็นมิตรกว่ารถยุโรป
อาจไม่ใช่แค่รถญี่ปุ่น หรือจีนในฐานะผู้ผลิตรถยนต์หน้าใหม่กำลังจะท้าทายรถยุโรปด้วยการส่ง AVARTR 11 เพื่อค่อย ๆ ยึดครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูในไทยแบบเดียวที่ทำกับรถญี่ปุ่น แต่เป็นเลเวลที่สูงกว่าโดยอาศัยความไฮเทค หรูหรา และราคาเป็นตัวล่อ
แน่นอนว่า AVATR 11 ไม่ใช่รถจีนราคาถูก แต่ราคาเริ่มต้น 300,000 หยวน หรือราว 1,470,000 บาท หากรวมค่าต่าง ๆ เพื่อนำมาจำหน่ายในไทย ราคาอาจอยู่แถวรถเก๋งญี่ปุ่นขนาดกลางรุ่นท็อป ซึ่งยังถูกกว่ารถ SUV ไฟฟ้าขนาดกลางของยุโรปอยู่เท่าตัวเห็นจะได้
ทั้งนี้ แบรนด์ AVATR เป็นการร่วมทุนของ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ ได้แก่ ผู้ผลิตรถยนต์ Changan, ผู้ผลิตแบตเตอรี่ CATL และ Huawei ซึ่ง AVATR 11 คือผลผลิตชิ้นแรกที่ออกสู่สายตาชาวโลกในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าหรูขนาดกลาง
โดย AVATR 11 มาในสไตล์ตัวถังของ SUV ทรงคูเป้ ดีไซน์ค่อนข้างมินิมอล เน้นรายละเอียดบางจุดเพื่อให้เกิดความสะดุดตา เช่น ด้านหน้าแนว Sci-fi แรงบันดาลใจจาก UFO ตลอดจนการเล่นทรีตเมนต์เสา D ที่มี Buttress ครีบเสาเค้ายันแบบซูเปอร์คาร์ ขณะที่ฝาท้ายไม่ได้เป็นแฮตช์แบ็ก และมีห้องเก็บสัมภาระแยกส่วนเหมือนรถซีดาน
สำหรับขนาดตัวของ AVATR 11 จะพอ ๆ กับ BMW X6 และ Mercedes-Benz GLE Coupe ด้วยความยาว 4,880 มม. กว้าง 1,970 มม. สูง 1,601 มม. ความยาวฐานล้อ 2,975 มม.
ส่วนทางด้านภายใน เวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนมีการจัดวางเบาะแบบ 5 และ 4 ที่นั่ง ซึ่งแบบ 4 ที่นั่ง นั้นจะพิเศษน่าตื่นตาตื่นใจกว่าด้วยเบาะหลังแยกสไตล์ First Class มีคอนโซลกลางคั่นกลางพร้อมช่องเก็บของ ที่ชาร์จสมาร์ตโฟน และที่วางขวดน้ำเลื่อนเก็บได้
เบาะทุกตัวเป็นแบบสปอร์ตหุ้มหนัง Nappa งานออกแบบราวกับนั่งในยานอวกาศ มินิมอล แต่ไฮเทค ล้อมรอบด้วยเส้นไฟสร้างบรรยากาศ คอนโซลหน้าฝังหน้าจอสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารแยกกันของใครของมัน
ตรงกลางเป็นจอมัลติฟังก์ชันขนาด 15.6 นิ้ว ซึ่งส่วนนี้ได้ Huawei มาช่วยพัฒนาระบบให้ AVATR 11 กลายเป็น Smart Car รองรับการเชื่อมต่อกับโลกภายนอก สั่งงานได้ด้วยเสียง ท่าทาง และจากระยะไกล มี AI เป็นผู้ช่วยเหลือผู้ขับขี่ ประตูหลังเปิด-ปิดได้ด้วยไฟฟ้า เรียกว่าจัดมาเต็มกราฟ
ทางด้านระบบขับเคลื่อน AVATR 11 จะมีระบบขับเคลื่อนให้เลือก 2 แบบ และแบตเตอรี่ 2 ขนาด คือ
- ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ขนาด 90 kWh เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 6.6 วินาที ระยะทางวิ่ง 600-630 กิโลเมตร (CLTC)
- ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ขนาด 116 kWh เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 6.9 วินาที ระยะทางวิ่ง 705-730 กิโลเมตร (CLTC)
- ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังสูงสุด 578 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ขนาด 90 kWh เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.98 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 555-580 กิโลเมตร (CLTC)
- ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังสูงสุด 578 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ขนาด 116 kWh เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 4.5 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 680-700 กิโลเมตร (CLTC)
ในส่วนสีตัวถังภายนอกของ AVATR 11 จะมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีดำ Glossy Black, สีเทา Glossy Grey, สีขาว Glossy White, สีเขียว Aqua, สีขาวด้าน Matte White และสีเทาด้าน Matte Grey
อย่างไรก็ตาม Changan ประเทศไทย ยังไม่ได้เปิดเผยว่าสเปกไทยจะมีรายละเอียดเป็นแบบใด ทำตลาดด้วยรุ่น 4 หรือ 5 ที่นั่ง จัดเต็มแค่ไหน แต่จะมีการเปิดตัวในปี 2024 ช่วงไหนยังไม่ทราบ รวมถึงราคาที่คาดกันว่าจะเริ่มต้นแถว ๆ 2,000,000 บาท
ซึ่งราคานี้ไม่ถูก แต่ถ้าเทียบกับรถ SUV ไฟฟ้าขนาดเดียวกันจากฝั่งยุโรปก็เรียกว่าไม่แพงเลย จะเหลือก็เพียงการยอมรับจากกลุ่มลุกค้าในเรื่องของภาพลักษณ์เมื่อเทียบกับรถยุโรป แต่ที่แน่ ๆ รถญี่ปุ่นขนาดกลางสะเทือนก่อนเลยถ้าจำหน่ายในราคานี้
ที่มา : AVATR