MG3 2024 เจน 2 มาพร้อมกับขุมพลังไฮบริดไม่เสียบปลั๊ก
MG3 2024 โฉมใหม่ เจนเนอเรชั่น 2 เผยโฉมอย่างเป็นทางการที่งาน Geneva Motor Show 2024 นอกจากดีไซน์ที่เปลี่ยนไปแล้วยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีไฮบริดไม่เสียบปลั๊กครั้งแรกของ MG ส่วนใครอยากขับไฟฟ้าล้วนรอปีหน้า
MG3 2024 เผยโฉมงาน Geneva Motor Show 2024 ก่อนจะเริ่มวางขายใน UK เดือนมีนาคม คาดราคาเริ่มต้นประมาณ 20,000 ปอนด์ หรือประมาณ 900,000 บาท ขณะที่รุ่นปัจจุบันที่มีเฉพาะเครื่องเบนซินตั้งราคาไว้ 14,320 ปอนด์ หรือราว 650,000 บาท
MG3 2024 ดีไซน์ใหม่ คันใหญ่ขึ้นเล็กน้อย
โดย MG3 2024 จะเป็นหนึ่งในรถยนต์กว่า 20 รุ่น ที่ MG เตรียมจะเปิดตัวภายในอีก 3 ปี ข้างหน้าทั่วโลก และจำนวนครึ่งหนึ่งในนั้นจะเป็นยานยนต์พลังงานใหม่ ส่วนงานออกแบบสตูดิโอของ MG ในเซี่ยงไฮ้เป็นผู้รับผิดชอบ และยังเป็นภาษาออกแบบเดียวกับ MG5 รุ่นปัจจุบัน มิติตัวถังมีความยาวและกว้างกว่า MG3 รุ่นแรกเล็กน้อย
MG3 2024 มาพร้อมขุมพลังไฮบริด ไม่ใช่ไฟฟ้าล้วน
รถแฮตช์แบ็กรุ่นเล็กสุดของ MG นี้จะมาพร้อมขุมพลัง Hybrid Plus ถือเป็นครั้งแรกของ MG ที่นำเสนอเทคโนโลยี Hybrid แบบไม่ Plug-in แนวคิดเดียวกับ Toyota
ซึ่งระบบดังกล่าวจะประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แบบ Atkinson Cycle ขนาด 1.5 ลิตร ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดรวม 192 แรงม้า และแรงบิด 424 นิวตันเมตร
สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 8 วินาที แต่ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด ! ซึ่ง MG เคลมว่า 3 จังหวะนี้แหละ เร่งได้เร็ว ตอบสนองดีกว่า CVT ที่ใช้กันทั่วไปในรถไฮบริด
สำหรับการอ้างอิง Yaris ที่ติดตั้ง CVT ต้องใช้เวลา 9.2 วินาทีในการเร่งความเร็ว 0-102 ไมล์ต่อชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีโหมดขับเคลื่อนให้เลือก 5 แบบ คือ
- EV วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้เท่าที่ไฟแบตเตอรี่จะไหว (1.83 kWh)
- Series เครื่องยนต์ทำหน้าที่ปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่เพื่อขับเคลื่อนล้อด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า
- Series and Charge เหมือน Series แต่เพิ่มฟังก์ชันชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ไปพร้อมกันเมื่อรถไม่มีโหลด
- Drive and Charge เครื่องยนต์เป็นตัวขับเคลื่อนล้อและชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่
- Parallel ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนล้อ
MG3 2024 จะเป็นรถจีนฟีลยุโรป
MG ยังเคลมต่ออีกว่า MG3 2024 ใช้ทีมวิศวกรจีนพัฒนาร่วมกับทีมวิศวกรยุโรป เพื่อให้แน่ใจว่าได้ว่าเหมาะกับความต้องการของตลาดโลก
แน่นอนว่ามีแก่นของความเป็น MG ดั้งเดิม คือ Fun to drive ด้วยการบังคับควบคุมที่แม่นยำ จากแชสซีส์ที่แข็งแกร่งทนการบิดตัว รวมถึงระบบกันสะเทือนที่เบาขึ้น และยึดเกาะได้ดี รวมถึงมีห้องโดยสารที่เงียบสงบขึ้นเพื่อความสบายในการเดินทาง
ภายในทันสมัยและกว้างขึ้น
ห้องโดยสารของ MG3 2024 จะแตกต่างไปจากรุ่นก่อนที่เป็นรถโลกเก่าแบบผิดหูผิดตา เริ่มจากการติดตั้งหน้าจอคู่แบบลอยตัว สำหรับคนขับขนาด 7.0 นิ้ว และจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 10.25 นิ้ว แบบสัมผัสที่ตอบสนองได้ดีกว่า
โดยใน UK จะมี 2 ระดับการตกแต่ง โดยรุ่น SE จะมีระบบเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน นำภาพขึ้นจอได้ รุ่น Trophy เพิ่มเบาะหนังเทียมพร้อมระบบทำความร้อนเบาะคู่หน้า รวมถึงกุญแจสมาร์ตคีย์ และกล้องจอดรถ 360 องศา เป็นต้น
ส่วนพื้นที่วางขาเบาะหลังก็จะกว้างกว่าเดิม เพราะความยาวฐานล้อยาวขึ้น 50 มม. ตลอดจนส่วนเก็บสัมภาระท้ายรถก็จะมีความจุเพิ่มขึ้นเป็น 298 ลิตร
รถยนต์ไฟฟ้าล้วนขนาดเล็กจาก MG ต้องรอปีหน้า
อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กไซซ์พอ ๆ กับ MG3 จะมีการเปิดตัวในปีหน้า และอาจแยกไลน์ออกไปเป็นรถรุ่นใหม่อีกหนึ่งรุ่น ส่วนราคาก็น่าจะต่ำกว่า MG4 ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน
ที่มา : mgmotor.eu