เปิดรังศูนย์วิจัย และพัฒนา HANKOOK TECHNODOME
สัวสดีครับเพื่อนๆรู้กันรึป่าวครับงานวิจัย และพัฒนา นั้นเป็นสิ่งสำคัญมากในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทชั่นนำทั่วโลก ในด้านยานยนต์ก็เช่นกัน เราเห็นการพัฒนาของแบลนด์ยางอย่าง HANKOOK กันแแล้ว ด้วยการพัฒนาที่ล้ำหน้าสู่อนาคต วันนี้เราเลยจะมาเปิดรับสถาบันวิจัย และพัฒนาของ HANKOOK กัน
สถาบันวิจัย และพัฒนาของ HANKOOK ตั้งอยู่ที่เมืองแทจอนประเทศเกาหลีใต้ นับตั้งแต่ปี 1982 ในชื่อ “HANKOOK TECHNODOME” และด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่อง HANKOOK ได้สร้างเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาไปทั่วโลกโดยเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาหลายแห่งทั้งในสหรัฐอเมริกาเยอรมนีจีนและญี่ปุ่นซึ่งศูนย์วิจัยต่างๆของ HANKOOK นั้นมีอุปกรณ์การวิจัยที่ทันสมัยเพื่อรับประกันว่าผลิตภัณฑ์ของ HANKOOK จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลก
HANKOOK TECHNODOME มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงบทบาทสู่อนาคตของ HANKOOK เนื่องจากเทคโนโลยียุคใหม่อย่างรถพลังงานไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับเริ่มมีการใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นอุตสาหกรรมยานยนต์จึงเผชิญกับความท้าทาย HANKOOK TECHNODOME จึงเป็นสถานที่สำคัญในการวางแผนที่จะเป็นผู้นำในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยการเสริมสร้างประสิทธิภาพด้านการวิจัยและพัฒนาให้แข็งแกร่ง
HANKOOK TECHNODOME ได้รับการออกแบบโดย Foster + Partners ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมที่ก่อตั้งขึ้นโดย SirNorman Foster เพื่อสะท้อนความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีพันธสัญญาด้านสถาปัตยกรรมไฮเทคของ HANKOOK TECHNODOME ได้รับการนำเสนอเป็นอย่างดีผ่านการผสานรวมเทคโนโลยี และวัสดุใหม่ ด้วยการลงทุนเป็นมูลค่าถึง 266.6 พันล้านวอน (ประมาณ 230 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลักษณะ HANKOOK TECHNODOME เป็นอาคารสูงหกชั้นบนพื้นที่ใช้สอยขนาด 96,328 ตารางเมตรกินเนื้อที่รวมทั้งสิ้น 70,387 ตารางเมตร
นอกจาก HANKOOK TECHNODOME จะเป็นสถานที่ที่จะคิดค้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งอนาคต HANKOOK TECHNODOME ยังถูกออกแบบมาเป็นอาคารที่รักษาสิ่งแวดล้อม
- วัสดุก่อสร้างที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ศูนย์แห่งนี้ไม่เพียงติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ช่วยประหยัดน้ำเท่านั้นแต่ยังมีระบบชาร์จไฟใหม่ที่ใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพ และพลังงานแสงอาทิตย์รวมถึงแหล่งพลังงานทางเลือกอื่นๆ เพื่อช่วยลดการพึ่งพากระแสไฟฟ้าจากพลังงานฟอสซิลอีกด้วย
- ล่ำหน้าด้วยระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ที่ได้รับการออกแบบให้ลดการใช้พลังงานด้วยการใช้แสงสว่างตามธรรมชาติและฉนวนกันความร้อนประสิทธิภาพสูงโดยระบบดังกล่าวจะติดตั้งเซนเซอร์วัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่แจ้งเตือนเมื่อมีปริมาณก๊าซเกินค่ามาตรฐานเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคารให้ดียิ่งขึ้นและควบคุมระบบปรับอากาศให้ทำงานได้ดีอยู่เสมอในส่วนของพื้นที่จอดรถพิเศษก็พร้อมรองรับยนตรกรรมสมรรถนะสูงที่ปล่อยก๊าซไอเสียต่ำโดยบริเวณลานจอดรถตั้งอยู่ที่ชั้นใต้ดินเพื่อลดขั้นตอนในการปูพื้นถนนและเพื่อลดผลกระทบจากปรากฏการณ์เกาะร้อนซึ่งจะเพิ่มอุณหภูมิในพื้นที่ให้สูงขึ้นกว่าบริเวณโดยรอบ
ทำให้ HANKOOK TECHNODOME จึงกลายเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งแรกในประเทศเกาหลีที่จะได้รับประกาศนียบัตรด้านสิ่งแวดล้อมหรือ “LEED (Leadership in Energy and Environmental Design)” ความเป็นผู้นำด้านการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับพลังงานและสิ่งแวดล้อมคือหนึ่งในระบบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในการให้การรับรองอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมบริหารงานโดยองค์กร “USGBC (U.S. Green Building Council)” ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรของสหรัฐอเมริกา LEED สนับสนุนทางเลือกสู่ชีวิตที่ยั่งยืนและแนะนำแนวทางในการออกแบบตลอดจนกำหนดวัตถุประสงค์ของกระบวนการจัดการอาคารที่ดีเยี่ยม HANKOOK TECHNODOME ได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับการรับรองในระดับทอง (Gold certification) เมื่อดำเนินก่อสร้างแล้วเสร็จทันทีที่ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนตามแนวทางการประเมินที่เข้มงวด HANKOOK TECHNODOME มุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตที่ยั่งยืนต่อไปโดยการตระหนักถึงคุณค่าด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
HANKOOK TECHNODOME ศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งนี้ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อช่วยให้ผู้วิจัยสามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างดีเยี่ยมอันจะนำไปสู่วัฒนธรรมในเชิงรุกภายใต้ “แนวคิด One Company” สำนักงานและห้องปฏิบัติการอิสระจำนวน 10 แห่ง จะตั้งอยู่ในอาคารเดียวกันเพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่าสำนักงานทั้งหมดรวมเป็นหนึ่งเดียวกันนอกจากนี้ยังมีการสร้างพื้นที่ส่วนกลางให้พนักงานเพลิดเพลินกับการสื่อสารที่สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพ
สภาพแวดล้อมการทำงานที่สร้างสรรค์จะส่งเสริมให้พนักงานเกิดความภาคภูมิใจและมีสมาธิในการทำงานมากขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ทางศูนย์ได้เปิดตัว “ศูนย์ซ่อมบำรุงยาง” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมด้านการวิจัยที่สนุกสนานโดยไม่จำเป็นต้องนำตัวอย่างยางสำหรับทดสอบขึ้นมาที่โต๊ะทำงาน “Focus Box” ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณสำนักงานช่วยให้พนักงานมุ่งความสนใจไปที่งานและทำงานตามหน้าที่ของแต่ละคนโดยไม่เสียสมาธิ
นอกจากนี้ยังช่วยสร้างสมดุลของชีวิตและการทำงานโดยการให้ความรู้ที่หลากหลายและมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการรักษาพยาบาลและสวัสดิการต่างๆ “The Residence” คือบริเวณที่พักอาศัยสำหรับพนักงานศูนย์วิจัยและพัฒนาที่ยังไม่มีครอบครัวลูกค้าที่มาเยี่ยมชมศูนย์และผู้ฝึกอบรม “Play Lounge” เป็นร้านกาแฟและบริเวณพักผ่อนหย่อนใจและ “Proactive Lounge” เป็นพื้นที่ที่มอบความบันเทิงอาทิการชมภาพยนตร์ “Dongeurami Daycare Center” เป็นศูนย์รับเลี้ยงเด็กสำหรับบุตรของพนักงานและ “ศูนย์ออกกำลังกาย” จะช่วยดูแลพนักงานให้มีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น “Korean Medical Care Room” ให้บริการการรักษาแบบแพทย์แผนตะวันออกและ “ห้องจิตบำบัด” ให้บริการด้านจิตบำบัด
HANKOOK TECHNODOME ศูนย์แห่งนี้มีระบบจำลองการขับขี่รวมถึง SPMM(Suspension Parameter Measuring Machine) หรือเครื่องมือวัดพารามิเตอร์ระบบช่วงล่างเพื่อดำเนินการทดสอบแบบเสมือนจริงและบันทึกผลลัพธ์ในแบบดิจิตอลนอกจากนี้ศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งนี้ยังติดตั้งห้องไร้เสียงสะท้อนซึ่งเป็นห้องที่ใช้ทดสอบเสียงรบกวนจากยางในระดับโลก
นอกจากนั้นศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในการวิจัยและพัฒนาร่วมกับศูนย์เทคนิคต่างๆในทวีปอเมริกายุโรปจีนและญี่ปุ่นฯลฯมีการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยที่สุดและมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อการทำงาน ที่ HANKOOK TECHNODOME แผนการวิจัยและพัฒนาระดับโลกจะค่อยๆพัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือกับศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับโลกแห่งอื่นๆบริษัทHankook Tire มุ่งหวังที่จะให้ความสำคัญกับการพัฒนายาง OE, RE รุ่นใหม่ๆโดยเชื่อมต่อโรงงานผลิตเข้ากับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ขณะที่ HANKOOK TECHNODOME จะทำหน้าที่เป็นทั้งศูนย์กลางสำหรับเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาระดับโลกและเป็นสัญลักษณ์สำหรับนวัตกรรมของ HANKOOK ไปพร้อมกับช่วยพัฒนาทรัพยากรบุคคลอีกด้วย
HANKOOK จึงกำลังก้าวไปอีกขั้นสู่บริษัทชั้นนำที่มีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่งและเพื่อให้เรากลายเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก HANKOOK จึงพัฒนาเทคโนโลยีอันเป็นแบบฉบับด้วยการสร้างงานวิจัยพื้นฐานให้มีความแข็งแกร่งและปรับปรุงกระบวนการสำหรับเทคโนโลยียางแห่งอนาคตให้ดีขึ้น HANKOOK จะเดินหน้าสร้างวัฒนธรรมองค์กรของเราเพื่อเปลี่ยนแปลงแนวทางการทำงานด้วยอาคารที่ก่อสร้างขึ้นใหม่และบรรลุวัตถุประสงค์ในการเป็นบริษัทชั้นนำในระดับโลกในที่สุดความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงนี้จะนำมาซึ่งนวัตกรรมอันเป็นแรงผลักดันให้เราเติบโตขึ้นเป็นบริษัทยางชั้นนำในระดับโลก