Mercedes-Benz C350 e ยนตรกรรมที่ก้าวล้ำไปอีกระดับ ผ่อนเริ่มต้นเพียง 30,518 บาท
รถยนต์จะไม่ใช้แค่ใช้งานอีกต่อไป แต่รถยนต์ในปัจจุบันนั้นเป็นทั้งความฝัน และความภาคภูมิใจ ของผู้ที่ได้ครอบครอง วันนี้พวกเราทีมงาน Autotirechecking(ATC) อยากจะนำเสนอ Mercedes-Benz C350 ที่รวมเอาความหรูหรากับเทคโนโลยีแห่งความทันสมัยที่จะพาพวกเราก้าวไปสู่ระดับที่เหนือกว่า
ด้วยแนวคิดการออกแบบโครงสร้างให้มีน้ำหนักเบาขึ้น ผสานการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์กับสุดยอดพลังขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยจาก Mercedes-Benz ทำให้ The C-Class Mercedes-Benz C350 เป็นสุดยอดยนตรกรรมที่ก้าวล้ำไปอีกระดับ
Mercedes-Benz C350 รุ่น ราคา และสีต่าง ๆ
Mercedes-Benz C350 e Avantgarde ราคา 2,640,000 บาท
Mercedes-Benz C350 e Exclusive ราคา 2,840,000 บาท
Mercedes-Benz C350 e AMG Dynamic ราคา 3,149,000 บาท
Mercedes-Benz C350 ตารางผ่อนและโปรโมชั่น
ทั้งนี้คุณสามารถกำหนดอัตราการผ่อนชำระต่อเดือนด้วยตัวคุณเอง สำหรับรถยนต์ Mercedes-Benz ที่คุณชื่นชอบโดยได้ในเว็บไซด์ mercedes-benz.co.th
Mercedes-Benz C350 กับรูปลักษณ์ภายนอก
ขึ้นชื่อด้านความหรูหราอยู่แล้วกับค่ายรถยนต์สัญชาติเยอรมันอย่าง Mercedes-Benz ด้วยภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำด้านการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ Mercedes-Benz และในเช่นเดียวกันกับ Mercedes-Benz 350 ที่มาพร้อมการออกแบบลายเส้นที่โดดเด่นเข้ากับความหรูหราของงานออกแบบที่เหมือนปฎิมากรรมเลยทีเดียว
Mercedes-Benz 350 ปล่อยออกมาถึง 3 รุ่น และทั้ง 3 รุ่นนี้ มีการตกแต่งภายนอกที่แตกต่างกัน ตามสไตล์ของ Mercedes-Benz ทำให้ความโดดเด่นในแต่ละรุ่นนั้นดึงดูดคนแต่ละ เพศ และวัย ได้อย่างยอดเยี่ยม
โดยมีลักษณะด้านหน้าออกแบบเป็น 2 แบบ ที่ดูดโดดเด่นหรูหราแนวต้นตำหรับของ Mercedes-Benz และอีกรูปแบบที่เป็นดีไซด์ใหม่ด้วยตราดาวที่ใหญ่พร้อมกระจังหน้าทรงสปอร์ตแต่ก็ไม่ทิ้งความหรูหราแบบ Mercedes-Benz ไปเลยแม้แต่นิดเดียว
Mercedes-Benz C350 มากับไฟหน้าไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System สำหรับรุ่น C 350 e Exclusive และ C 350 e AMG Dynamic หลังคา Mercedes-Benz C350 เป็นแบบพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด – ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า(Electric panoramic sliding glass sunroof) สำหรับรุ่น Mercedes-Benz C350 e AMG Dynamic ทำให้ดูมีความโดดเด่นมากขึ้น และให้ความรู้สึกที่เป็นอิสระในการขับขี่มากขึ้น
ด้านบนเป็นข้อมูลความแตกต่างของอุปกรณ์ภายนอกของทั้ง 3 รุ่น จะเห็นได้ว่าในรุ่น Mercedes-Benz C350 e AMG Dynamic นั้นจะจัดเต็มเพิ่มความหรูหรา และความสปอร์ต ได้อย่างโดดเด่นด้วยหลังคาแบบพาโนรามิคซันรูฟ พร้อมล้อที่เป็นเอกลักษณ์ของ Mercedes-Benz C350 e AMG Dynamic ซึ่งเป็นล้ออัลลอยแบบ Multi-spoke ขนาด 19 นิ้ว ทำให้ดูสปอร์ตมากกว่าทุกรุ่น
Mercedes-Benz C350 กับรูปลักษณ์ภายใน
คอนโซลหน้าที่หรูหรากับการออกแบบที่ร่วมสมัยในแบบ Mercedes-Benz ด้วยช่องแอร์แบบวงกลมที่สามารถปรับได้ทุกทิศทาง พร้อมการออกแบบคอนโซลที่หรูหรา และมีระดับด้วยตำแหน่งการจัดวางหน้าจอ ที่จัดวางด้วยความเรียบง่าย มากับพวงมาลัยสามก้านมัลติฟังค์ชั่นสุดหรูที่เข้ากับทุกองศาการมองเห็นบน Mercedes-Benz C350 คันนี้
Mercedes-Benz C350 สร้างสรรค์การออกแบบที่หรูหราด้วยลวดลายการดีไซด์เบาะให้รองรับการใช้งานด้วยรูปลักษณ์สปอร์ต การลายกราเย็บที่ต่อเนื่องทำให้มีความหรูหรา และโดดเด่น
เบาะหลังที่โดดเด่นด้วยลายเย็บที่สวยงาม เข้ากับการนั้งของศรีระของผู้นั้ง การออกแบบด้านหลังของ Mercedes-Benz C350 ที่พร้อมในการใช้งาน และเพิ่มอารมความสบายได้อย่างยอดเยี่ยม
ในแต่ละรุ่นของ Mercedes-Benz C350 มีสีสันภายในที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ด้วยตัวเอง
เริ่มแรกจาก Mercedes-Benz C350 e Exclusive
ภายในลายไม้หรูหราเพิ่มความรู้สึกเป็นผู้นำ และความภาคภูมิใจในการขับขี่ทุกเส้นทาง
การออกแบบภายในสามารถเลือกได้ 3 สี เป็นโทนสีสว่าง 2 สี และสีดำ
ต่อมาเป็นภายในของ Mercedes-Benz C350 e Avantgarde
คอนโซลของ Mercedes-Benz C350 e Avantgarde ออกแบบให้เป็นสีดำ
Mercedes-Benz C350 e Avantgarde มีภายในให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และสีเบส
สุดท้ายโดดเด่นที่สุดกับ Mercedes-Benz C350 e AMG Dynamic
ภายใน Mercedes-Benz C350 e AMG Dynamic ออกแบบให้เลือ 2 แบบ ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ว่าอยากจะได้อารมการขับขี่แบบหรูหราก็ต้องเลือกลายไม้เงาสีดำ หรืออยากจะได้แนวสปอร์ตก็ต้องลายคาร์บอนไฟเบอร์
Mercedes-Benz C350 e AMG Dynamic โดดเด่นด้วยการเลือกสรรค์สีเบาะสีแดง ที่มีเฉพาะรุ่น Mercedes-Benz C350 e AMG Dynamic เท่านั้นทำให้ภายในของ Mercedes-Benz C350 e AMG Dynamic เป็นเอกลักษณ์ที่สวยงามมากเลยทีเดียว
Mercedes-Benz C350 เครื่องยนต์ ช่วงล้าง และสมรรถนะ
ไม่ว่าจะเป็นลักษณะภายใน หรือภายนอกก็โดดเด่นสู่ สมรรถนะของ Mercedes-Benz C350 ไม่ได้เลยโดยความโดดเด่นที่สุดในรุ่นนี้ผมยกให้เครื่องยนต์ และสมรรถนะความลงตัวที่จะมาตอบโจทย์คนเมืองที่รักความหรูหรา แต่ก็ใส่ใจในการใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นสำคัญ
หมดยุคแล้วกับการขับรถยนต์คันโตแล้วกลัวความสิ้นเปลืองน้ำมันด้วยเทคโนโลยี Hybrid และโดยเฉพาะสำหรับ Mercedes-Benz C350 คันที่ที่มาพร้อมระบบ Plug-in Hybrid พร้อมเครื่องยนต์เบนซิลเทอร์โบที่จะมาสร้างความประหยัดพร้อมสมรรถนะที่เหนื่อกว่า Hybrid เดิมๆที่คุณเคยสัมผัส
รายละเอียดเครื่องยนต์ เกียร์ และมอเตอร์ไฟฟ้า Mercedes-Benz C350
รูปแบบเครื่องยนต์ : เบนซิน 4 สูบ / แถวเรียง / 4 วาล์วตอสูบ อัดอากาศด้วยเทอร์โบ พร้อมระบบอินเตอร์คูลเลอร์
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี) : 1,991
แรงม้าสูงสุด (กิโลวัตต์ (แรงม้า) / รอบต่อนาที) : 155 (211) / 5,500
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร / รอบต่อนาที) : 350 /1,200 – 4,000
กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า (กิโลวัตต์ (แรงม้า)) : 60 (82)
แรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้า (นิวตันเมตร) : 340
อัตราเร่ง 0 – 100 กม. / ชม. (วินาที) : 5.89
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม. / ชม.) : 250
ระบบส่งเกียร์ : เกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G – TRONIC PLUS)
เรียกได้ว่าแค่เครื่องยนต์เบนซิลธรรมดาที่ดึงแรงม้าได้ 221 แรงม้าก็เยอะแยะแล้ว ถ้าทำงานพร้อมกัยมอเตอร์ไฟฟ้าไปอีกละก็ความเร็วสูงๆก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไต่ไม่ถึงละครับ ส่วนเครื่องอัตราเร่งไม่ต้องพูดถึงเลยกับแรงบิดมหาสารของทั้งการรีดบูซจากเทอร์โบ และการรีดแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าระดับอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที หลังแข็งคอเคล็ดกันบ้างหละครับ นอกจากความแรงแล้ว Mercedes-Benz C350 ยังมีโหมดเพื่อตอบสนองการใช้งานถึงโหมด
4 รูปแบบการขับขี่ของระบบ Plug-in Hybrid
Mercedes-Benz C350 HYBRID MODE
เป็นการทำงานของเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าร่วมกัน โดยระบบจะประมวลผลอัตโนมัติถึงปัจจัย และรูปแบบการขับขี่ ณ ขณะนั้นว่าควรจะใช้เครื่องยนต์ หรือมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ในกรณีที่ปรับเกียร์อัตโนมัติเป็นโหมดสปอร์ต S หรือ S+ รถยนต์จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เท่านั้น เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพของรถสูงสุด
Mercedes-Benz C350 E-MODE
สามารถขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ (ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว) ได้จนถึงความเร็วสูงสุดโดย
ประมาณ 130 กม. / ชม. โดยไม่มีการคายไอเสีย (ขึ้นอยู่กับระดับพลังงานของแบตเตอรี่ และความเร็ว ที่ใช้)
ทั้งนี้ การทำงานของระบบนี้สามารถครอบคลุมการใช้งานได้เป็นอย่างดีสำหรับการขับขี่ในเมือง พร้อมด้วยคันเร่งไฟฟ้าแบบ haptic ที่ทำงานเมื่อผู้ขับขี่กดแป้นคันเร่งไม่เกินแรงต้าน หากกดแป้นคันเร่งเกินแรงต้านเมื่อใด เครื่องยนต์จะเข้ามาทำหน้าที่แทนมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนรถยนต์ทันที กรณีที่กระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่เหลือประมาณ 10% ซึ่งไม่เพียงพอที่จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าระบบจะปรับเข้าสู่โหมด HYBRID โดยอัตโนมัติ
Mercedes-Benz C350 E-SAVE MODE
โหมดการรักษาระดับกระแสไฟฟ้าไว้ใช้งานในเวลาที่ต้องการ เมื่อมีการเลือกโหมดนี้ระบบจะบันทึกระดับกระแสไฟฟ้า ณ ขณะนั้นว่ามีกระแสไฟฟ้าอยู่ปริมาณเท่าไหร่ และจะทำการรักษาระดับกระแสไฟฟ้าไว้โดยจะเป็นการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ เป็นหลัก และใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเมื่อจำเป็นทั้งนี้ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมด E – SAVE ได้เมื่อเห็นว่ากระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่ อยู่ในระดับที่ต้องการ เช่น เลือกโหมด E – SAVE เมื่อแบตเตอรี่มีกระแสไฟฟ้า 60% ระบบจะบันทึกระดับกระแสไฟฟ้าไว้ และขับเคลื่อนต่อไปด้วยเครื่องยนต์ โดยกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่จะถูกเก็บไว้ในระดับที่ไม่น้อยกว่าตอนที่ผู้ขับขี่เลือกใช้โหมด E – SAVE หรือไม่น้อยกว่า 60%นั่นเอง ซึ่งเมื่อถึงพื้นที่ที่ผู้ขับขี่ต้องการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนไปใช้โหมด E – MODE ได้ซึ่งขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น
Mercedes-Benz C350 CHARGE MODE
การทำงานในรูปแบบนี้ รถยนต์จะถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว โดยแบตเตอรี่ high – volt จะถูกรักษาระดับการชาร์จให้อยู่ในระดับปานกลางในขณะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ และจะไม่มีการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเลย เพื่อให้เกิดการชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ high – volt อย่างต่อเนื่อง แรงหมุนของเครื่องยนต์จะถูกนำมาแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าไปสะสมไว้ในแบตเตอรี่ และจะมีการแปลงพลังงานจลน์ที่เกิดจากการชะลอความเร็ว หรือการเบรกให้แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า และเก็บสะสมไว้ในแบตเตอรี่อีกด้วย
Mercedes-Benz C350 จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสู่โลกสีเขียวแห่งอนาคตด้วยยานยนต์ที่ให้พละกำลังแรงม้าสูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยระบบ Plug-in Hybrid ใน Mercedes-Benz C350 เป็นการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 211 แรงม้า และจากมอเตอร์ไฟฟ้า 82 แรงม้า โดยกำลังสูงสุดที่สามารถทำได้จากการผสานการทำงานของเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า (System output) อยู่ที่ 279 แรงม้าทำความเร็วสูงสุดโดยใช้ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ประมาณถึง 130 กม. / ชม. พร้อมทั้งยังประหยัดน้ำมันสูงด้วยการผสานการทำงานอย่างยอดเยี่ยมของเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าเมื่อรถยนต์ขับเคลื่อนทุกครั้งที่เบรก หรือชะลอความเร็วตัวมอเตอร์ จะทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟในการดึงพลังงานจลน์ที่เกิดขึ้นเข้าสู่แบตเตอรี่ เพื่อสำรองไว้ใช้ในระบบมอเตอร์ได้ต่อไปซึ่งด้วยความชาญฉลาดนี้ทำให้ได้มาซึ่งความประหยัดสูงสุด
ช่วงล้างระบบกันสะเทือนแบบ AIRMATIC
ด้วยระบบกันสะเทือนแบบ AIRMATIC พร้อมช่วงล่างแบบ variable damper control ตอบสนองการขับขี่ที่ต้องการความนุ่มนวล และการบังคับควบคุมที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพราะปรับการทำงานตามสถานการณ์ และสไตล์การขับขี่ได้หลากหลายรูปแบบ โดยรูปแบบช่วงล่างของระบบ AIRMATIC นั้น จะมีให้เลือกสองรูปแบบคือ Comfort และ Sport ซึ่งสามารถเลือกได้ที่จะเพิ่มความนุ่มนวล หรือจะเน้นสมรรถนะ ของช่วงล่างในการขับขี่เพื่อให้การเดินทางทุกสภาพถนนเป็นไปดั่งใจนึก ผ่านระบบ DYNAMIC SELECT
ระบบ DYNAMIC SELECT ความเพลิดเพลินในการขับขี่เป็นความตั้งใจของเรา
- พลังในการขับเคลื่อนตามที่ต้องการ
การเลือกโหมดการขับขี่ “Comfort” หรือ “Sport” จะได้รับความประทับใจมากขึ้นในบุคลิกการขับขี่จากฟังก์ชันการควบคุมโดยอัตโนมัติด้วย ตัวอย่างเช่น ในโหมด “Sport” อัตราเร่งจะเรียกใช้ได้อย่างรวดเร็วและมีพลังมากขึ้นเมื่อเปลี่ยนช่องทางวิ่ง ความนุ่มนวลสะดวกสบายจะเพิ่มมากขึ้นในโหมด “Comfort”
- รับการสนับสนุนอัตโนมัติเมื่ออยู่บนทางด่วน
การแซงที่ผิดกฎจราจรในช่องทางวิ่งช้าบนทางด่วนและในลักษณะเดียวกันบนถนนสายหลักจะได้รับการปกป้องโดยการจำกัดระยะห่างกับรถยนต์ที่วิ่งอยู่ในช่องทางด่วนอย่างเหมาะสม
PRE-SAFE® Plus ข้อได้เปรียบสำหรับการป้องกันในกรณีที่กำลังจะเกิดการชนปะทะทางด้านหลัง
ระบบ Live Traffic Information ให้คุณถึงที่หมายปลายทางรวดเร็วขึ้น
**เหมาะสำหรับใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบ COMMAMD Online ระบบแผนที่นำทาง Garmin® MAP PILOT หรือ Garmin® MAP PILOT ที่ได้รับการติดตั้งล่วงหน้าเท่านั้น ข้อมูลการจราจรปัจจุบัน Live Traffic Information เหมาะสำหรับการใช้งานในหลายประเทศในทวีปยุโรปแล้วและใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายสำหรับ 3 เดือนแรก เชื่อมต่อรถยนต์ของคุณเข้ากับการบริการ Mercedes me ที่ให้ประโยชน์สูงสุดเป็นเวลา 3 ปีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย คุณสามารถขยายประโยชน์ของการใช้บริการ Mercedes me Portal ได้อีกด้วย
COMAND Online ศูนย์กลางการควบคุมสำหรับงานที่ท้าทายความสามารถมากที่สุด
ประโยชน์โดยสรุป:
- นำคุณสู่จุดหมายปลายทางโดยปราศจากความตึงเครียด : ระบบการนำทางด้วยฮาร์ดไดรฟ์ที่รวดเร็วพร้อมการแสดงแผนที่ภูมิประเทศในแบบเสมือนจริงและการรับข้อมูลการนำทางที่ปรับปรุงล่าสุดเป็นเวลา 3 ปี รวมถึงการรับข้อมูลการจราจรล่าสุด
- เชื่อมต่อยานพาหนะของคุณเข้ากับโลกทั้งใบ : ในการใช้งานร่วมกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เหมาะสมทำให้การเรียกดูหน้าอินเทอร์เน็ตเมื่อรถยนต์จอดอยู่กับที่และการใช้ Mercedes-Benz Apps [1] เช่น การค้นหา POI สภาพอากาศ หรือฟังวิทยุผ่านอินเทอร์เน็ตขณะเดินทางเกิดขึ้นได้ การใช้ฮอตสปอตไว-ไฟที่รวมอยู่ด้วยทำให้สามารถเชื่อมต่อใช้งานคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต PC ได้
- มอบความบันเทิงระดับที่ดีที่สุด : เครื่องเล่น DVD วิทยุ การฟังเพลงจาก audio streaming และช่องสำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกให้ความบันเทิงตามความต้องการได้อย่างเต็มที่
- ฟังทุกคำพูดของคุณ : ระบบการควบคุมด้วยเสียง LINGUATRONIC สามารถเข้าใจคำสั่งในภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวันและทำงานแม้ในขณะที่มีเสียงดังรบกวนจากภายนอก
- เสียสมาธิน้อยที่สุด : ระบบสำหรับการเชื่อมต่อ Bluetooth® พร้อมฟังก์ชัน hands-free และฟังก์ชันการอ่าน-เขียน SMS/email ให้ความมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและการติดต่อสื่อสารที่สะดวกสบายขณะเดินทาง
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติการมองเห็นที่ยาวไกลขึ้นตลอดเวลา