BRIDGESTONE ECOPIA EP300 vs YOKOHAMA BluEarth AE-50 ศึกแห่งยางรักษ์โลก
หลังจากก่อนหน้านี้ เราปล่อยบทความให้ยางสปอร์ตรุ่นใหญ่ฟัดกันไปแล้วกับบทความ Pilot Sport 4 vs Potenza RE003 มาวันนี้ก็ถึงคราวรุ่นน้องอย่างยางสายประหยัดพลังงานและรักษ์โลกอย่าง ฺBRIDGESTONE ECOPIA EP300 และ YOKOHAMA BluEarth AE-50 ซึ่งเป็น 2 ค่ายยางยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นที่จะมาวัดกันอีกครั้งนึง
แน่นอนว่า EP300 และ AE-50 เป็นยางมีราคาใกล้เคียงกันและไม่ต่างกันมาก ถ้าจะเทียบกับขนาดต่อขนาดครับ อีกทั้งยางทั้งสองรุ่นนี้ ขายค่อนข้างดีในเมืองไทยเรากับรถเก่งที่นั่งขนาด 1,200 cc – 1,800 cc
แต่ถ้าพูดถึงเรื่อง Range ขนาดของยางนั้น Ecopia EP300 ค่อนข้างจำกัดตัวอยู่ในมุมที่แคบกว่า คือรองรับรถยนต์ยนต์ที่มีล้อช่วงขอบ 15 นิ้ว จนถึง 17 นิ้วเท่านั้น แต่สำหรับ BluEarth AE-50 จะรองรับได้กว้างขวางกว่า จะรองรับตั้งแต่รถยนต์ขอบล้อ 14 นิ้ว จนถึง 20 นิ้วเลยทีเดียวครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งคู่ถือเป็นยางที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประสิทธิภาพการใช้งานและราคาที่จับต้องได้ เดี๋ยวเราจะเจาะกันทีละจุดว่า ทั้งสองรุ่นมีจุดดีจุดด้อยต่างกันอะไรยังไงบ้าง
คอนเซ็ป
พูดถึงคอนเซ็ปก่อนเลยละกันนะครับ Bridgestone Ecopia EP300 เป็นยางใหม่เพิ่งเปิดตัว 2017 เป็นยางรถยนต์นวัตกรรมรักษ์โลก อายุการใช้งานยาวนาน ประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ และ เพิ่มความปลอดภัยการขับขี่ในสภาวะถนนเปียกให้ดียิ่งขึ้น โดยตระกูลยาง Bridgestone Ecopia นั้นเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2010 เริ่มตั้งแต่ Ecopia EP100 ที่ถูกส่งลงมาเล่นตลาดเอเชียแปซิฟิก (APAC Market)
หลังจากนั้นปี 2013 ก็ได้ปล่อย Ecopia EP200 ออกมา ซึ่งนี่เป็นรุ่นที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามชนิดที่ว่าสามารถสร้างชื่อให้คนรู้จัก Ecopia ได้ และล่าสุด ปีนี้มาอีกครั้งกับการปรับปรุงครั้งใหม่ กับ Bridgestone Ecopia EP300
BluEarth AE-50 เปิดตัวมานานแล้วครับเมื่อปี 2015 และเป็นยางรถยนต์ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นภายในเทคโนโลยี BluEarth อันเป็นแนวคิดเพื่อสิ่งแวดล้อมของโลกด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิง และใช้เทคโนโลยีใหม่ๆในการผลิตยาง โดยยาง “BluEarth-A” ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในกลุ่มรถ 1,200 cc – 1,800 cc
รูปลักษณ์
Bridgestone Ecopia EP300 จะมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ดุดัน ร่องยางที่ลึก ขอบยางจะค่อนข้างโค้งมน ช่วยในเรื่องของการเข้าโค้งได้ดี มีร่องระบายน้ำ 4 ช่อง และดอกยางเรียงตัวกันแบบ อะซิงค์เมติก สามารถรองรับการขับขี่ได้ในสภาวะถนนที่หลากหลาย แก้มยางมีสัญญาลักษณ์ ECOPIA ชัดเจน ดูรวม ๆ แล้วมีความเรียบ ดูคงทนแข็งแรง
YOKOHAMA BluEarth AE-50 ถูกออกแบบออกมาได้ค่อนข้างดีครับ มีร่องยางระบายน้ำทั้งหมด 4 ร่อง แต่ค่อนข้างตื้นกว่า EP300 ครับ สำหรับดอกยางเองก็จะนิ่มกว่าตัว EP300 เช่นเดียวกัน แก้มยางก็จะมีสัญญาลักษณ์รักษ์โลกอยู่ด้วย เรื่องการออกแบบ ก็เรียบ ๆ พอกันครับ ไม่ได้ต่างอะไรกันซักเท่าไหร่
ฟีเจอร์และเทคโนโลยีการผลิต
Bridgestone Ecopia EP300 ใช้สูตรการผสมยางแบบใหม่ หรือ New Top Compund Nano Pro-Tech เป็นการจัดเรียงฌมเลกุลซิลิกาในเนื้อยางให้มีระเบียบ ช่วยลดการเสียดสีระหว่างโมเลกุล และการใช้โพลิเมอร์แบบใหม่ที่มีส่วนช่วยให้การยึดเกาะถนนดีเยี่ยมมากขึ้น ยังมีการดีไซน์ดอกยางให้กระจายแรงกดดันของน้ำหนักรถได้อย่างสม่ำเสมอ
จึ่งช่วยให้รถเกาะถนนบนพื้นถนนเปียกได้ดี อีกทั้งยังลดการต้านทานการหมุน และยืดอายุการใช้งาน มีการดีไซน์ปลายดอกยางบริเวณไหล่ Block Pattern ให้โค้งมน ช่วยลดการบิดตัว และทำให้หน้ายางสัมผัสพื้นได้ดี ทั้งในขณะขับขี่และเบรก
YOKOHAMA BluEarth AE-50 มีส่วนประกอบยางชนิดพิเศษที่เสริมด้วย Double Silica , Orange Oil และ BLEND Polymer ส่วนผสมที่ช่วยให้หน้ายางมีความทนทาน และรักษาโครงสร้างของขอบยางร่องยางได้อย่างดี ดอกยางรูปสายฟ้า ทำมาเพื่อการรีดน้ำที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ด้วยส่วนประกอบของเนื้อยางทำให้ยางไม่เสียสภาพหน้ายางเปลี่ยนไปขณะขับขี่
น้ำหนักของยางโดยรวมลดลงแต่ด้วยส่วนประกอบทำให้มีความแข็งแรงมากขึ้น ร่องยางที่กว้างทำให้การเก็บเสียงไม่ดีเท่าที่ควร แต่เรื่องอารมการขับขี่ทำได้ดีด้วยหน้ายางที่ลงตัว นอกจากนั้น Yokohama BluEarth-A AE-50 ยังสามารถทำระยะเบรคบนถนนเปียกให้ลดลงได้ถึง 20% จากรุ่น Earth-1
Review จากผู้ใช้งานจริงจาก tyrereviews.co.uk
Bridgestone Ecopia EP300 นอกจากจะโดนเด่นในเรื่องของการประหยัดน้ำมันแล้ว EP300 ยังทำได้ดีในเรื่องของการเกาะถนนที่ดีเยี่ยมอีกด้วย ด้วยการที่ EP300 จะมีหน้ายางแข็งแรงกว่าเจ้า AE-50 เล็กน้อย ทำให้แน่นอนว่า เวลาลงหลุม หรือ ผ่านทางขรุขระจะมีเสียงตึงตังบ้างเป็นธรรมดาครับ แต่เรื่องการเกาะถนนไม่ต้องห่วงการ EP300 ทำได้ดีในระดับที่พอรับได้เลยครับ ทุกอย่างค่อนข้างอยู่ในเกฑณ์ดี
YOKOHAMA BluEarth AE-50 จะมีดอกยางที่ค่อนข้างนิ่มกว่า EP300 และแน่นอนว่าการที่มันนิ่มกว่า ก็จะทำให้กับขับขี่เป็นไปอย่างนิ่มนวลครับ ที่ดีเป็นพิเศษคือ AE-50 ถึงจะนิ่มนวล แต่ก็ไม่ได้ทิ้งเรื่องการบังคับที่ ทำได้ดีกว่า EP300 ซะอีก ถือว่าเป็นเรื่องน่าเซอไพร้เล็ก ๆ แต่เรื่องการเกาะถนน และ ความคงทน คงสู้ EP300 ไม่ได้ครับ
*เป็นรีวิวจากผู้ใช้งานในต่างประเทศ*
*โดยรวมทั้งสองรุ่นก็มีความโดดเด่นต่างกัน ขึ้นอยู่กับลูกค้าที่จะเลือกใช้ตามการใช้งานของแต่ละบุคคล*