BYD Seal ราคาเริ่ม 1,325,000 บาท แค่แรงม้าก็คุ้มค่าแล้ว
BYD Seal ราคาอย่างเย้ายวน 1,325,000 บาท สำหรับรุ่นเริ่มต้น กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ระยะทางวิ่ง 510 กิโลเมตร แล้วอย่างนี้ใครจะอยากซื้อ Toyota Camry หรือ Honda Accord
ถ้าเป็นดนตรีก็มีช่วงอินโทรนานมาก กว่าที่ BYD Seal จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ หลังจาก BYD ประเทศไทยนำโชว์แล้วโชว์อีก พร้อมเปิดสเปกก่อน โดยเหลือการประกาศราคาเป็นลำดับสุดท้าย ดังนี้
- รุ่น Dynamic ราคา 1,325,000 บาท
- รุ่น Premium ราคา 1,449,000 บาท
- รุ่น AWD Performance ราคา 1,599,000 บาท
รถราคา 1,599,000 บาท กับพละกำลัง 530 แรงม้า ไม่น่าจะเคยเกิดขึ้นกับรถใหม่ในไทยมาก่อน และ BYD Seal น่าจะเป็นรุ่นแรกที่หากเทียบบาทต่อแรงม้าที่ได้แล้วดูคุ้มค่ามาก โดยสเปกระบบขับเคลื่อนแต่ละรุ่นมี ดังนี้
BYD Seal รุ่น Dynamic มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง จ่ายไฟด้วย Blade battery ขนาด 61.4 kWh ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิด 310 นิวตันเมตร
เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม. ระยะทางวิ่งสูงสุด 510 กม./ชาร์จ (NEDC)
BYD Seal รุ่น Premium มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง จ่ายไฟด้วย Blade battery ขนาด 82.5 kWh ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า และแรงบิด 360 นิวตันเมตร
เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม. ระยะทางวิ่งสูงสุด 650 กม./ชาร์จ (NEDC)
BYD Seal รุ่น AWD Performance มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ จ่ายไฟด้วย Blade battery ขนาด 82.5 kWh ให้กำลังสูงสุด 530 แรงม้า และแรงบิด 670 นิวตันเมตร
เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม. ระยะทางวิ่งสูงสุด 580 กม./ชาร์จ (NEDC)
ส่วนอุปกรณ์ภายนอกให้มาเหนือกว่ารถญี่ปุ่นขนาดกลาง
เช่น หลังคากระจก Panoramic, ฝาท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า, กระจกหน้าต่างแบบ 2 ชั้น ส่วนใครที่ชอบให้ดูล้ำก็มีมือจับประตูแบบ Pop-out นอกนั้นเป็นอุปกรณ์พื้นฐานทั่วไปอย่าง ไฟส่องสว่าง LED รอบคัน กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ ล้ออัลลอยขนาด 18-19 นิ้ว เป็นต้น
ขณะที่ภายในห้องโดยสารเบาะคู่หน้าเป็นไฟฟ้า คนขับปรับ 8 ทิศทาง และผู้โดยสาร 6 ทิศทาง พร้อมระบบระบายอากาศตัวเบาะและอุ่นเบาะ ตัวเบาะหุ้มด้วยวัสดุสังเคราะห์ในรุ่นเริ่มต้น ส่วนรุ่นกลางกับรุ่นท็อปเป็นหนัง เบาะหลังแยกพับได้ 60:40 และตกแต่งห้องโดยสารด้วยไฟ Ambient Light
ระบบแอร์เป็นแบบอัตโนมัติแยกปรับ 2 โซน พร้อมระบบฟอกอากาศ ส่วนมาตรวัดเป็นจอดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว จอมัลติฟังก์ชันกลางขนาด 15.6 นิ้ว ปรับหมุนเป็นแนวตั้ง หรือแนวนอนได้ด้วยไฟฟ้า รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto มีเมนูภาษาไทย สั่งงานได้ด้วยเสียง
ขณะที่ระบบเสียงเลือกใช้ของ Dynaudio ติดตั้งลำโพง 12 ตำแหน่ง สามารถฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งได้ พร้อมที่ชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สาย และช่องเชื่อมต่อ USB หน้าหลัง ส่วนระบบความปลอดภัยจัดเต็มตามสไตล์รถจีน และมีระบบช่วยขับขี่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
สำหรับสีตัวถังของ BYD Seal จะมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สี ขาว Horizon White กับ สีดำ Quantum Black ในรุ่น Dynamic และเพิ่ม สีเทา Space Grey ในรุ่น Premium ส่วนรุ่น AWD Performance มีสีฟ้า Velocity ให้เลือกอีก 1 สี
ที่มา : reverautomotive