6 ขั้นตอนทำใบขับขี่รถยนต์ประจำปี 2564 – 2565
ก่อนที่พวกเราจะออกไปใช้รถใช้ถนนร่วมกัน การสอบเป็นเหมือนการวัดความสามารถในการขับขี่ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง และเพื่อนร่วมทาง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพูนความเข้าใจกฏจราจร และป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อเตือนการขับขี่ของเราให้ปลอดภัย ในการเดินทาง เรามาดูกันดีกว่าครับว่า ก่อนเราจะได้ใบขับขี่เราจะต้องผ่านการทดสอบอะไรบ้าง
ขั้นที่ 1 จองคิวการเข้าอบรม และทดสอบทำใบขับขี่
หลังจากเกิดการระบาดของโรคโควิท 19 ทำให้การอบรม และสอบภาคทฤษฎี เพื่อขอรับใบขับขี่ก็เปลี่ยนจากการต่อคิวรับใบลำดับการให้บริการ เป็นการจองในแอพพลิเคชั่น DLT Smart Queue ที่ทำโดยกรมขนส่งทางบกเพื่อจองคิวนัดหมายการเข้ารับการอบรม และทดสอบขอรับใบขับขี่ หลังจากเราเข้าจอง และได้ลำดับการเข้ารับอบรมแล้ว อย่าลืมบันทึกหน้าจอที่แสดงลำดับการเข้ารับมดสอบไว้ด้วย เพื่อความสะดวกในการเข้ารับคิวเมื่อถึงวันการเข้ารับอบรม
ขั้นที่ 2 เตรียมเอกสารหลักฐานเพื่อขอรับใบขับขี่
หลังจากที่เราได้รับวันในการอบรม และเข้ารับการทดสอบเพื่อขอรับใบขับขี่แล้ว ถึงขั้นตอนที่จะต้องเตรียมความพร้อมของเอกสารการขอรับใบขับขี่ จะมีอะไรบ้างไปดูกัน
2.1 บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง
2.2 สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด
2.3 ใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
ขั้นที่ 3 เข้าทดสอบสมรรถนะร่างกาย
เมื่อเข้าถึงวันอบรมสิ่งแรกที่เราต้องทกสอบ คือ การทดสอบสมรรถนะร่างกาย 4 อย่าง
3.1 ทดสอบตาบอดสี (เขียว-เหลือง-แดง) : การทดสอบนี้จะเป็นการทดสอบเพื่อเช็คสมรรถนะการแยกแยะสี ด้วยการมองเห็นโดยผู้ทดสอบจะใช้บอร์ดที่มีสีแทรบกันอยู่ตามภาพ และชี้ให้ผู้ทดสอบขานสีที่เห็น เพื่อตรวจสอบสมรรถนะ
3.2 ทดสอบสายตาทางลึก : การทดสอบการมองทางลึกเพื่อวัดความสามารถการมองเห็นในทางลึกของตาทั้งสองข้าง ด้วยการปรับให้หลักที่เคลื่อนที่(หลัก A) หยุดข้างๆหลักที่หยุดนิ่ง(หลัก B) พอดี ด้วยการใช้รีโมทปรับการเคลื่อนที่ของหลัก
3.3 ทอสอบสายตาทางกว้าง : การทดสอบสายตาทางกว้าง เพื่อวัดสมรรถนะการมองเห็นในมุมกว้างสุดที่สายตามองเห็น การทดสอบนี้บางที่จะมีเครื่องทดสอบ โดยผู้คุมสอบจะยื่นป้ายมาที่มุมสายตา และให้ผู้สอบขานสีที่เห็นจากมุมสายตา
3.4 ทดสอบการตอบสนองของเท้า : เป็นการทดสอบปฎิกริยาการตอบสนองของสายตา และปฎิกริยาความไวของเท้า โดยผู้ทดสอบจะต้องเหยีบตำแหน่งคันเร่งจำลอง เพื่อรอสัญญาณการเบรกเมื่อสัญาณเปลี่ยนเป็นสีแดง ให้เปลี่ยนการเหยียบคันเป็นเบรกทันทีผ่านในเวลาที่กำหนด
ขั้นที่ 4 ผ่านการอบรมภาคทฤษฎี
หลังจากผ่านการทดสอบสมรรถนะร่างกายเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้รับคิวเพื่อมาเข้าอบรมภาคทฤษฎี และทำการสอบใบขับขี่ภาคทฤษฎี 50 ข้อ โดยเนื้อหาการอบรม พร้อมทั้งการสอบนั้นจะมีเนื้อครอบคลุมในการใช้รถ และถนน
- กฎหมายว่าด้วยรถยนต์
- กฏหมายว่าด้วยจราจรทางบก
- เครื่องหมายพื้นทาง
- ป้ายบังคับ
- ป้ายเตือน
- ป้ายแนะนำ
- มารยาทและจิตสำนึก
- เทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย
- การบำรุงรักษารถ
- รูปภาพจราจร
- การรับรู้สถานการณ์อันตราย
ขั้นที่ 5 ผ่านการสอบภาคปฏิบัติ
การสอบภาคปฎิบัติเป็นการสอบด้านความสามาตรในการขับขี่ ตามแบบทดสอบของการสอบ 3 อย่าง ดังนี้
- การเดินหน้าถอยหลัง
- การจอดเทียบข้างทางเท้า
- การถอยจอดเข้าที่จอด
ขั้นที่ 6 ชำระค่าธรรมเนียมเพื่อทำใบอนุญาติขับขี่
ค่าธรรมเนียมในการขอใบอนุญาต สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว รวม 205 บาท ดังนี้
- ค่าธรรมเนียมขอมีบัตร 5 บาท
- ค่าทำใบอนุญาต 100 บาท
- ค่าถ่ายรูป 100 บาท
เมื่อจบทั้ง 6 ขั้นตอนนี้ก็จะถือว่าเสร็จสิ้น และได้รับใบขับขี่เพื่อเป็นหลักฐานการผ่านการทดสอบ