FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ราคาและโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0%
FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เป็นรถยนต์ที่ 7 ที่นั่งที่ทาง ฟอร์ด ประเทศไทย มองว่ามันคือ SUV แต่สำหรับสื่อหลาย ๆ สำนักในประเทศไทยเรา มองว่า FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ คือรถยนต์กลุ่ม PPV ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันกับ Fortuner, Pajero Sport และ Mu-X ซึ่ง FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ จะเก็บกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ PPV ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี และ รูปลักษณ์ดูทันสมัย ซึ่งถือว่าเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ หลังจากก่อนหน้านี้ Everest ในเมืองไทยค่อนข้างเงียบมาก และ ตลาด PPV เองก็มีแค่ Fortuner และ Mu-X แข่งกันมา ก่อนที่จะมี Pajero Sport และ Everest เข้ามาเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น
FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นต่าง ๆ พร้อมกับราคา
รุ่น | ราคา |
---|---|
FORD Everest 2018 2.2L Titanium 4×2 AT | 1,369,000 บาท |
FORD Everest 2018 2.2L Titanium+ 4×2 AT | 1,569,000 บาท |
FORD Everest 2018 3.2L Titanium+ 4×4 AT | 1,769,000 บาท |
ต้องบอกว่าราคาของ FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วก็ถือว่าอยู่ในสูงสุด แต่ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับแบรนด์อื่นมากนักครับ
- มูเอ็กซ์เริ่ม 1.09 ล้าน
- ฟอร์จูนเนอร์เริ่มต้น 1.23 ล้าน
- ปเจโรสปอร์ตเริ่ม 1.29 ล้าน
- เอเวอเรสต์เริ่มต้น 1.36 ล้าน
(แต่มันก็เทียบรุ่นต่อรุ่นไม่ได้อยู่ดีครับ เพราะขนาดเครื่องยนต์เอย เทคโนโลยีเอย…)
FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ กับตารางผ่อน
จากข้อเสนอผ่อนดอกเบี้ย 0% นั้นสามารถใช้ได้กับการซื้อ FORD Everest 2018 2.2L Titanium 4×2 AT ในเงื่อนไขที่ดาวน์ 30% ผ่อน 48 เดือน หมายความว่า ดาวน์ 410,700 บาท พร้อมผ่อนเดือนล่ะ 19,965บาท เป็นเวลา 48 เดือนนั้นเองครับ
FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สีต่าง ๆ
FORD Everest 2018 Aluminum Metallic (สีเงิน)
FORD Everest 2018 Black Mica Metallic (สีดำ)
FORD Everest 2018 Cool White (สีขาว)
FORD Everest 2018 Reflex Blue (สีฟ้า)
FORD Everest 2018 Sparkling Gold Metallic (สีทอง)
FORD Everest 2018 Sunset Metallic (สีแดง)
FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รูปลักษณ์ภายนอก
FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ มาพร้อมกับการออกแบบดีไซน์ภายนอกที่ค่อนข้างลงตัวอย่างมาก โดยคอนเซ็ปของ Everest นั้น เป็น SUV ที่ทำออกมาบนพื้นฐานของ PPV ซึ่งต้องมีศักยภาพในการลุย และ คงความเท่ห์และอเนกประสงค์ยามอยู่ในเมือง ซึ่งโจยท์ตรงนี้ Everest ทำออกมาได้ดีเหลือเกิน ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็หล่อดุดันดีเหลือเกินครับ
หน้าด้านของ FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ได้พกพา Grill อลูมีเนียมหน้ามู่พร้อมโลโก้ FORD และไฟหน้าแบบ HID Projector พร้อม running daylight และระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติหรือ Auto High Beam Control (เดี๋ยวเราค่อยไปดูในรายละเอียดกันครับ)
กับการออกแบบให้รถเป็นไปตามแนวทางของหลักการพลศาสตร์ ดีที่สุดในด้านสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศพลศาสตร์สำหรับรถในระดับเดียวกัน จึงทำให้ยึดเกาะถนน และประหยัดน้ำมันได้มากกว่า อีกทั้งยังสามารถแบกรับน้ำหนัการบรรทุกได้กว่า 750 กิโลกรัม รองรับการบรรทุกบนหลังคาได้กว่า 100 กิโลกรัม และยังออกแบบให้สามารถลากจูงสิ่งของที่มีน้ำหนักสูงสุดถึง 3,000 กิโลกรัมอีกด้วยครับ
โดยรวมแล้ว ภายนอกของ FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ทำได้ดีมาก สำหรับผม เอเวอเรสต์ได้ทิ้งคู่แข่งรถอเนกประสงค์ในกลุ่มพื้นฐาน PPV อย่างมากมายครับ ซึ่งถือว่าทำได้ดีกว่า SUV ญี่ปุ่นบางค่ายด้วยซ้ำไป กับการออกแบบที่ได้ความลงตัว ไม่ว่าจะเป็นความดุดัน หรือจะเป็นความหรูหรามีระดับ ส่วนนี้ผมยกให้เป็นจุดเด่นของ FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เลยครับ
FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รูปลักษณ์ภายใน
FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ มาพร้อมกับการออกแบบภายในที่ดูเป็นผู้ใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเยอะ กว้างขวางเหมาะสมกับการเป็นรถ 7 ที่นั่งอย่างสมบูรณ์แบบครับ โดยทุกรุ่นย่อยจะมาพร้อมกับเบาะหนังทั้งนั้น และสีภายในจะมีให้เลือกทั้งที่เป็นสีดำและสีเบจที่เห็นในภาพ
FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างระบบปรับพับเบาะแถวที่ 3 แบบไฟฟ้า ซึ่งจะมีให้ในรุ่น Titanium+ ขึ้นไปครับ
FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังมีระบบปิดประตูท้ายแบบไฟฟ้า รวมไปถึงระบบตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร หรือ Active Noise Cancellation โดยมี Sound Control module ควบคุมระบบทั้งหมดอีกที เรียกได้ว่า ไฮเทคโนโลยีจริง ๆ สำหรับ PPV สุดเท่ห์คันนี้
โดยรวมแล้วนั้นภายในของ FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ทำได้ดีเกินคู่แข่งในกลุ่มตลาดเดียวกันไปเยอะมาก และอย่างที่บอกในภายนอกเช่นกันว่า มันก้าวไปไกลกว่า SUV แท้ ๆ ของญี่ปุ่นบางค่ายด้วยซ้ำไปครับ แบบนี้การออกแบบดีไซน์ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอก FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ตอบโจทย์ออกมาได้ดีสุด ๆ ครับ นับถือ
FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ กับ ระบบขับเคลื่อน และช่วงล่าง
FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ จะมีเครื่องยนต์ให้เลือกอยู่ 2 ประเภทนะครับ
- เครื่องยนต์แบบดีเซล 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว ความจุกระบอกสูบ 2,198 ซี.ซี. เทอร์โบแปรผันพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ (Diesel In-line 4 cylinder 16V VG Turbo with Intercooler) กำลังอัดที่ 15.7 : 1 มม. ให้แรงม้าสูงสุดที่ 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 385 nm ที่ 1,600 – 2,500 รอบต่อนาที จับคู่มากับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์แบบธรรมดา (6-Speed Automatic Transmission with SelectShift) กับระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ (4×2)
- เครื่องยนต์แบบดีเซล 5 สูบแถวเรียง 20 วาล์ว ความจุกระบอกสูบ 3,198 ซี.ซี. เทอร์โบแปรผันพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ (Diesel In-line 5 cylinder 20V VG Turbo with Intercooler) กำลังอัดที่ 15.7 : 1 มม. ให้แรงม้าสูงสุดที่ 200 แรงม้า ที่ 3,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 470 nm ที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที จับคู่มากับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์แบบธรรมดา (6-Speed Automatic Transmission with SelectShift) กับระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อแบบอัตโนมัติพร้อมระบบ Terrain Management (Automatic 4×4 with Terrain Management System)
FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ มาพร้อมกับช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้นพร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง (Double Wishbone with Coil Spring and Anti-Roll Bar) ส่วนช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบคอยล์สปริงพร้อมวัตต์ลิงค์และเหล็กกันโคลง (Coil Spring with Watt’s Link and Anti-Roll Bar)
สำหรับเฟืองท้ายทั้งสองรุ่นเครื่องยนต์จะต่างกันนิดหน่อยครับ สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร จะเป็นเฟืองท้ายแบบมาตรฐานทั่วไป ส่วนตัว 3.2 ลิตรจะเป็นเฟืองท้ายแบบ Electronic Locking Rear Differential
ระบบเบรกทั้ง 2 รุ่น ด้านหน้าจะเป็นแบบ ดิสก์เบรกที่มีช่องระบายความร้อน ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกธรรมดา ซึ่งตัว 2.2 ลิตรจะมาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 18″ พร้อมยางขนาด 265/60 R18 และตัว 3.2 ลิตรจะมาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 20″ พร้อมขนาดยาง 265/50 R20
ฟอร์ดได้เครมว่า FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สามารถลุยน้ำได้ในสภาวะน้ำ 800 มิลลิเมตร ตัวรถมีความสูงกว่าถนน 225 มิลลิเมตร และสามารถใช้งานในมุมองศาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังมีปุ่มหมุนให้ปรับโหมดการขับขี่ในสภาวะถนนที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในทางเรียบ ในทราย ในดินโคลน ก็ปรับได้ได้แค่ปลายนิ้วครับ
FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ กับเทคโนโลยีความปลอดภัย
ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 3
เชื่อมต่อโลกทั้งใบได้ตามใจคุณด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 3 ไม่ว่าจะเป็นการโทรศัพท์หาเพื่อนก็เพียงแค่เรียกชื่อ หรือเล่นเพลงในแบบที่คุณต้องการผ่านแอพพลิเคชั่น JOOX โดยที่คุณไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย หรือจะกดปุ่มผ่านหน้าจอสัมผัสแบบ Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว ก็ยังได้ นอกจากนั้นก็ยังมาพร้อมกับระบบแผนที่นำทาง Navigation System แบบภาษาไทย พร้อมทั้งรองรับ Android Auto และ Apple CarPlay ให้คุณสามารถสื่อสารกับ Siri และเล่นวิทยุทั่วโลกผ่าน Internet ได้ทันที
รองรับ Apple CarPlay
ระบบที่จะช่วยเสมือนเอาหน้าจอมือถือ iPhone ของคุณมาไว้อยู่บนหน้าจอของรถ ให้คุณสามารถสื่อสารกับ Siri และเล่นวิทยุทั่วโลกผ่าน internet ได้ในทันที อีกทั้งยังสามารถเล่น app ต่างๆได้อีกด้วย
ระบบแผนที่นำทาง Navigation
ระบบแผนที่นำทาง Navigation แสดงแผนที่แบบ 3D พร้อมชื่อถนนและสถานที่เป็นภาษาไทย บนหน้าจอ Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบเสียงนำทางภาษาไทยที่จะพาคุณไปสู่ทุกจุดหมายอย่างแม่นยำ
ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
ถึงแม้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะมีขนาดที่ใหญ่ แต่การเข้าจอดขนานกับทางเท้าไม่ใช่ปัญหา เพราะด้วยระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ที่เริ่มการทำงานเพียงแค่กดปุ่ม ระบบจะช่วยคุณหาช่องจอดที่มีพื้นที่เหมาะสมกับขนาดของรถ และยังช่วยคุณจอดได้อีกด้วย คุณสามารถปล่อยมือจากพวงมาลัย และให้ระบบจอดรถให้คุณเอง โดยที่คุณเพียงแค่ควบคุมแค่เกียร์ คันเร่ง และเบรก เท่านั้น
ระบบตรวจจับรถในจุดบอดและระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด
ระบบตรวจจับรถในจุดบอด ใน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะเป็นดวงตาคู่ที่สองของคุณ ในเวลาที่คุณทำการเปลี่ยนเลน ระบบจะเตือนเมื่อมีรถยนต์อยู่ในจุดบอดที่คุณไม่สามารถมองเห็นจากกระจกมองข้าง โดยจะมีไฟเตือนแสดงขึ้น นอกจากนี้ ระบบยังสามารถตรวจจับ และคอยเตือนถึงรถยนต์ที่กำลังมา ในขณะที่คุณกำลังถอยรถออกจากช่องจอด หรือในขณะกำลังขับออกจากช่องจอดรถ
กล้องมองหลังขณะถอยจอด
คุณสามารถถอยรถอย่างมั่นใจ ด้วยกล้องมองหลังที่ช่วยแสดงภาพบนหน้าจอเพื่อให้คุณเห็นมุมมองจากด้านหลังรถอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีเสียงสัญญาณเตือนจากชุดเซ็นเซอร์บนกันชนหลัง ที่คอยช่วยเตือนคุณอีกแรง หากตรวจพบสิ่งกีดขวางที่อยู่ทางด้านหลัง
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
(Lane Keeping System)
ในเหตุการณ์ที่รถของคุณเบี่ยงออกจากเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว ระบบ Lane Keeping System จะช่วยหักพวงมาลัยเล็กน้อยเพื่อช่วยให้รถคุณกลับเข้ามาในเลน หากทิศทางของรถยังคงเบี่ยงออกนอกเลน ระบบจะเตือนโดยการสั่นที่พวงมาลัย
ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ และ ระบบเตือนการชนด้านหน้า
เมื่อกดปุ่ม ระบบจะควบคุมความเร็วตามที่คุณกำหนด และจะรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้อัตโนมัติ โดยระบบจะช่วยเบรกและเร่งความเร็วให้ตามระยะห่างจากรถคันหน้า โดยที่คุณไม่ต้องคอยเหยียบเบรกและคันเร่ง หรือปิด-เปิดระบบควบคุมความเร็วใหม่ ในขณะที่กล้องเรดาร์หน้ารถจะคอยตรวจจับระยะห่างระหว่างรถคันหน้า หากระบบพบความเสี่ยงที่จะเกิดการชน ไฟจะเตือนขึ้นบนกระจกหน้ารถคุณ และถ้ารถเคลื่อนเข้าไปในระยะกระชั้นชิดกว่านั้น ไฟจะกระพริบพร้อมเสียงเตือนและระบบจะเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรคให้พร้อม เพื่อให้รถหยุดได้เร็วขึ้นเมื่อคุณแตะเบรก
ทั้งหมดนี้ก็เป็นพรีวิวสเปคและราคาของ FORD Everest 2018 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์