Ford Everest 2025 สเปค ราคา และฟีเจอร์ที่โดดเด่น
Ford Everest 2025 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2025 เป็นรถยนต์ SUV ที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราและความสามารถในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม มาพร้อมกับการปรับปรุงอุปกรณ์และการออกแบบที่ทันสมัย
Ford Everest 2025 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2025 รุ่น และราคา
| รุ่น | ราคา (บาท) |
|---|---|
| 2.0L Turbo Trend 4×2 6AT | 1,392,000 |
| 2.0L Turbo Sport 4×2 6AT | 1,522,000 |
| 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4×2 10AT | 1,762,000 |
| 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4×4 10AT | 1,912,000 |
| 2.0L Bi-Turbo Wildtrak 4×4 10AT | 1,937,000 |
| 3.0L V6 Turbo Platinum 4WD 10AT | 2,279,000 |
Fore Everest Wildtrak สีดำ Absolute Black
Fore Everest Wildtrak สีเทา Meteor Grey
Fore Everest Wildtrak สีขาวมุก Snow Flake White Pearl
Fore Everest Wildtrak สีเหลือง Luxe Yellow
Fore Everest Wildtrak สีเงิน Aluminum Metallic
Fore Everest Sport สีน้ำเงิน Blue Lightning
Fore Everest Sport สีบรอนซ์ Equinox Bronze
Ford Everest 2025 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2025 โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ผสมผสานความแข็งแกร่งและความหรูหราอย่างลงตัว ด้านหน้าเน้นไฟหน้ารูปทรง C-Clamp ที่เป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด เสริมด้วยกระจังหน้าโฉมใหม่ที่เชื่อมต่อกับไฟหน้าอย่างลงตัว ด้านหลังมาพร้อมไฟท้าย LED ทรงเรียวยาว เพิ่มความกว้างและความมั่นคงให้กับรถ ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เสริมความแกร่งและความคล่องตัวให้กับรถ
ด้านข้างของรถมีเส้นสายที่เชื่อมต่อไปยังซุ้มล้ออย่างโดดเด่น เสริมความรู้สึกมั่นคงและแข็งแกร่ง ส่วนด้านหลังได้รับการออกแบบให้สอดรับกับด้านหน้า สร้างความสมดุลและความลงตัวในทุกมุมมอง
ล้อและยางของ Ford Everest 2025 ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งในเมืองและการขับขี่ลุย ๆ พร้อมความทนทานสูง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรถอเนกประสงค์พร้อมสมรรถนะในการลุยทางแบบเต็มที่
ล้อยางของ Ford Everest 2025 รุ่นมาตรฐาน: ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว รุ่น Wildtrak/Platinum: ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ที่เพิ่มความพรีเมียมและความโดดเด่นล้ออัลลอยได้รับการออกแบบใหม่ ให้มีลวดลายที่สวยงามและแข็งแรง ช่วยเสริมบุคลิกของตัวรถให้ดูบึกบึนและทันสมัย นอกจากนั้นล้อผลิตจากวัสดุอัลลอยน้ำหนักเบา เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ พร้อมความทนทานในทุกสภาพการใช้งาน
โดยรวมแล้ว การออกแบบของฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2025 ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความหรูหรา ทำให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นและน่าสนใจอย่างยิ่ง ตัวถังของ Ford Everest 2025 ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความโดดเด่น ทันสมัย และตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและความสวยงามในลุคที่แข็งแกร่ง
บทสรุปความโดดเด่นภายนอก
ไฟหน้า C-Clamp LED: ดีไซน์ไฟหน้ารูปทรงตัว C ที่เป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด เพิ่มความโดดเด่นและความดุดัน โดยไฟหน้าแบบ LED ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและทัศนวิสัยในการขับขี่
กระจังหน้าโฉมใหม่: กระจังหน้ามีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมลวดลายใหม่ที่เพิ่มความพรีเมียม เชื่อมต่อกับไฟหน้าได้อย่างลงตัว
กันชนหน้า: ออกแบบให้ดูแข็งแรง พร้อมช่องระบายอากาศที่ช่วยให้ระบบเครื่องยนต์ทำงานได้ดีขึ้น
เส้นสายตัวถังที่คมชัด: เส้นสายบนตัวถังเน้นการออกแบบที่ให้ความรู้สึกปราดเปรียวและแข็งแกร่ง ผสมผสานความหรูหรา
ซุ้มล้อที่แข็งแรง: ดีไซน์ซุ้มล้อที่ใหญ่ขึ้น พร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วที่ออกแบบพิเศษ ช่วยเสริมบุคลิกให้ดูบึกบึน
เสาและหลังคา: มีความลาดเอียงเล็กน้อยเพื่อให้ดูโฉบเฉี่ยว แต่ยังคงพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางภายใน
ไฟท้าย LED ทรงเรียวยาว: ไฟท้าย LED ถูกออกแบบให้เชื่อมต่อกับตัวถังได้อย่างลงตัว เพิ่มมิติให้ตัวรถ
กันชนหลัง: ออกแบบให้ทนทาน พร้อมช่องติดตั้งชุดลากจูง (Towing) สำหรับการใช้งานอเนกประสงค์
ฝากระโปรงท้ายแบบไฟฟ้า: สามารถเปิด-ปิดด้วยระบบอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกสบาย
Ford Everest 2025 มีจุดเด่นที่ผสมผสานระหว่างความหรูหรา ความทันสมัย และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน เหมาะสำหรับทั้งครอบครัวและการเดินทางระยะไกล โดยเฉพาะผู้ที่มองหารถที่ให้ความสบายพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยในทุกการขับขี่ ที่ตอบโจทย์ในด้านการออกแบบทุกจุดได้ตามสไตล์ของผู้ขับขี่
- วัสดุระดับพรีเมียม: ใช้วัสดุหนังแท้และวัสดุซอฟต์ทัชในบริเวณแผงคอนโซลและเบาะนั่ง ทำให้รู้สึกถึงความประณีตและพรีเมียม
- สีสันและดีไซน์ภายใน: มีให้เลือกหลายโทนสีที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เช่น สีโทนอ่อนสำหรับความหรูหรา หรือโทนเข้มสำหรับความสปอร์ต
- ไฟสร้างบรรยากาศ (Ambient Lighting): เพิ่มความอบอุ่นและทันสมัยด้วยแสงไฟที่ปรับระดับและสีได้
- พื้นที่ภายใน: ห้องโดยสารมีพื้นที่กว้างขวาง รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 7 คน พร้อมพื้นที่วางขาที่กว้างทั้งแถวหน้าและแถวหลัง ทำให้การเดินทางไกลสะดวกสบายมากขึ้น
- หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ: เพิ่มแสงธรรมชาติและทำให้ภายในดูโปร่งโล่งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเวลากลางวัน
- เบาะแถวที่ 3: รองรับผู้โดยสารแถวหลังด้วยพื้นที่นั่งสบาย ซึ่งสามารถพับเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ
Ford Everest 2025 มอบประสบการณ์การขับขี่ที่โดดเด่นและตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมือง การเดินทางไกล และการผจญภัยในเส้นทางออฟโรด ด้วยฟังก์ชันที่เด่นกว่า และตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว เป็นรถที่เหมาะสำหรับทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง เดินทางไกล หรือการผจญภัยในเส้นทางออฟโรด ด้วยห้องโดยสารที่สะดวกสบาย เทคโนโลยีทันสมัย และสมรรถนะที่เหนือชั้น มันเป็นรถที่สามารถพาคุณไปได้ทุกที่ด้วยความมั่นใจและความสะดวกสบายสูงสุด ด้วยการออกแบบสัดส่วนบน Ford Everest 2025
- พื้นที่เก็บสัมภาระ:
- เบาะแถวที่ 3 และแถวที่ 2 พับแบนได้ เพิ่มพื้นที่เก็บของได้ถึง 1,818 ลิตร
- มีช่องเก็บของหลายตำแหน่ง เช่น คอนโซลกลาง ที่ประตู และใต้พื้นรถ
- ระบบเปิด-ปิดฝาท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี: สามารถเปิดฝากระโปรงท้ายโดยใช้เท้าแตะที่เซนเซอร์ใต้กันชน สะดวกเมื่อต้องถือของหนัก
- การเก็บเสียงยอดเยี่ยม: ด้วยการติดตั้งวัสดุซับเสียงในตัวถัง ทำให้เสียงรบกวนจากภายนอกแทบจะไม่ได้ยิน
- กระจก Acoustic Laminated Glass: ช่วยลดเสียงลมและเสียงจากถนน ทำให้การสนทนาในห้องโดยสารง่ายขึ้นและฟังเพลงได้ชัดเจนขึ้น
- ระบบปรับอากาศ 3 โซน: สามารถปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมตามแต่ละโซนของผู้โดยสาร ทำให้ทุกคนรู้สึกสบายในแบบของตัวเอง
- หน้าจอทันสมัย: หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่และจอดิจิทัลบนแผงหน้าปัดช่วยให้การใช้งานและการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ เป็นเรื่องง่าย
- ระบบเสียงระดับพรีเมียม B&O: ให้เสียงรอบทิศทางที่คมชัดและทรงพลัง เหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ส่วนตัว
- มุมมองกว้าง: ด้วยการออกแบบเบาะนั่งสูงและเสา A ที่บางลง ทำให้ผู้ขับรู้สึกมั่นใจในการมองเห็นสภาพถนนรอบตัว
- ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ: เช่น ระบบ Adaptive Cruise Control และ Lane-Keeping Assist ช่วยให้การขับขี่รู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้น
- กล้องมองรอบคัน 360 องศา: เพิ่มความมั่นใจในการจอดและขับในพื้นที่แคบ
- พื้นที่เก็บของ: มีช่องเก็บของหลากหลายตำแหน่ง ทั้งในคอนโซลกลาง ประตู และที่นั่ง เพิ่มความสะดวกในการเดินทาง
- ชาร์จไฟสะดวก: มีช่องชาร์จ USB และระบบชาร์จไร้สายในหลายจุด ทำให้ทุกคนสามารถใช้งานอุปกรณ์ส่วนตัวได้อย่างต่อเนื่อง
Ford Everest 2025 ได้รับการปรับปรุงเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม พร้อมความสามารถในการลุยทุกเส้นทาง โดยยังคงเน้นทั้งพละกำลัง ประสิทธิภาพ และความประหยัดน้ำมัน
- เครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo 2.0L (Twin-Turbo):
- กำลังสูงสุด: 210 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด: 500 นิวตันเมตร
- ระบบเทอร์โบคู่ ช่วยเพิ่มการตอบสนองได้อย่างรวดเร็วในทุกช่วงความเร็วรอบ
- รองรับการขับขี่ในเส้นทางท้าทาย เช่น ทางชันและออฟโรด
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะสูงควบคู่ไปกับความประหยัดน้ำมัน
- เครื่องยนต์ดีเซล V6 3.0L Turbo :
- กำลังสูงสุด: 250 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด: 600 นิวตันเมตร
- ให้กำลังขับเคลื่อนเต็มพลัง เหมาะสำหรับการลากจูงและการเดินทางระยะไกลที่ต้องการแรงบิดสูง
- เครื่องยนต์ V6 นี้ทำให้ Everest มีศักยภาพในการลุยเส้นทางออฟโรดที่หนักหน่วงยิ่งขึ้น
ระบบเกียร์ของ Ford Everest 2025 ถูกออกแบบมาเพื่อมอบการขับขี่ที่ลื่นไหล ตอบสนองรวดเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน เกียร์อัตโนมัติแบบ 10 สปีด ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหลและรวดเร็ว เพิ่มความประหยัดน้ำมันในรอบเครื่องยนต์ต่ำ โดยไม่ลดทอนสมรรถนะ และ รองรับการลากจูงหนักและการขับขี่ในเส้นทางขรุขระได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อม เทคโนโลยี Adaptive Shift Scheduling ระบบจะปรับการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสมตามพฤติกรรมการขับขี่และสภาพถนน ช่วยให้การขับขี่ในเส้นทางขรุขระหรือออฟโรดราบรื่นและมั่นใจ
- ระบบเกียร์ไฟฟ้า (Electronic Shifter):
- ใช้งานง่ายและแม่นยำ ช่วยเพิ่มพื้นที่บริเวณคอนโซลกลาง
- ดีไซน์ทันสมัยและใช้งานได้สะดวก
- ระบบ Manual Override: สามารถเปลี่ยนเกียร์แบบแมนนวลได้ด้วยปุ่ม +/- บนเกียร์ เพื่อการควบคุมที่แม่นยำในสถานการณ์เฉพาะ เช่น การลงเขาหรือการลากจูง
Ford Everest 2025 ยังมีโหมดการขับขี่หลากหลาย (Selectable Drive Modes) เพื่อปรับระบบเกียร์ทำงานร่วมกับโหมดการขับขี่ที่ปรับได้ตามสภาพถนน:
- Normal Mode: สำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน
- Eco Mode: ช่วยลดการใช้พลังงานและประหยัดน้ำมัน
- Sport Mode: เพิ่มความเร้าใจในอัตราเร่งและการเปลี่ยนเกียร์
- Tow/Haul Mode: สำหรับการลากจูงหรือบรรทุกของหนัก โดยระบบเกียร์จะล็อกไว้ในเกียร์ต่ำเพื่อเพิ่มแรงบิด
- Off-Road Modes (Mud/Ruts และ Sand): ปรับจูนการทำงานของเกียร์และระบบส่งกำลังเพื่อให้เหมาะกับการขับขี่ในเส้นทางลื่นหรือทราย
ตอบสนองทุกโหมดการขับด้วยการทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ระบบเกียร์ปรับสมดุลแรงขับระหว่างล้อหน้าและล้อหลังอย่างอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มการยึดเกาะในสภาพถนนลื่นหรือขรุขระ พร้อมการทำงานคู่กับ ระบบล็อกเฟืองท้าย ใช้งานได้ง่ายเพียงกดปุ่ม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ในเส้นทางที่มีพื้นผิวลื่น เช่น โคลนหรือหิน
Ford Everest 2025 ถูกออกแบบมาเพื่อมอบความมั่นใจสูงสุดแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยเทคโนโลยีและฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ทันสมัยและหลากหลาย Ford Everest 2025 มาพร้อมกับเทคโนโลยีและฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ครบครัน ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมีความมั่นใจในการเดินทางทั้งในเมืองและเส้นทางออฟโรด
Ford Everest 2025 เหมาะสำหรับ:
- ครอบครัว: ที่ต้องการรถที่สามารถรองรับทั้งการขับขี่ในเมือง การเดินทางไกล และการผจญภัยในธรรมชาติ
- ผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย: ด้วยสมรรถนะออฟโรดที่ยอดเยี่ยม การขับขี่ในเส้นทางที่ท้าทายจึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับ Ford Everest 2025
- ผู้ที่ต้องการความคุ้มค่า: ระบบขับเคลื่อนที่ประหยัดน้ำมัน ระบบความปลอดภัยที่ครบครัน และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้การลงทุนในรถรุ่นนี้คุ้มค่าในระยะยาว
Ford Everest 2025 จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการความหลากหลายในการใช้งาน ทั้งในเมืองและนอกเมือง รวมถึงการใช้งานที่เน้นความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และสมรรถนะสูงในทุกสถานการณ์
