Honda City 2025 สเปค ราคา และฟีเจอร์ที่โดดเด่น
Honda City 2025 เป็นรถยนต์ซีดานขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย รถรุ่นนี้ได้รับการอัปเกรดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านเครื่องยนต์ เทคโนโลยีความปลอดภัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสาร เพื่อรองรับการใช้งานทั้งในเมืองและทางไกล
Honda City 2025 ถูกออกแบบมาให้เป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ด้วยขุมพลังที่ทรงพลังแต่ยังคงความประหยัดน้ำมัน พร้อมทั้งเทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้น มาดูกันว่ารถรุ่นนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างและเหมาะกับคุณหรือไม่!
Honda City 2025 มีกี่รุ่น และราคาเท่าไหร่?
Honda City 2025 แบ่งออกเป็น 6 รุ่นหลัก ได้แก่ Honda City S, Honda City V, Honda City SV, Honda City RS, Honda City e:HEV SV และ Honda City e:HEV RS แต่ละรุ่นมีฟีเจอร์ที่แตกต่างกันเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่หลากหลาย
| รุ่น | เครื่องยนต์ | ราคา (บาท) |
|---|---|---|
| Honda City S | 1.0L Turbo 122 แรงม้า | 599,000 |
| Honda City V | 1.0L Turbo 122 แรงม้า | 629,000 |
| Honda City SV | 1.0L Turbo 122 แรงม้า | 679,000 |
| Honda City RS | 1.0L Turbo 122 แรงม้า | 749,000 |
| Honda City e:HEV SV | 1.5L e:HEV 109 แรงม้า | 729,000 |
| Honda City e:HEV RS | 1.5L e:HEV 109 แรงม้า | 799,000 |
สีตัวถังที่มีให้เลือก
Honda City 2025 มีสีตัวถังให้เลือกหลากหลาย เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่
- Platinum White Pearl (ขาวมุก) เพิ่มเงิน 10,000 บาท เฉพาะรุ่น e:HEV RS, e:HEV SV, RS และ SV
- Lunar Silver Metallic (เงินเมทัลลิก)
- Modern Steel Metallic (เทาเมทัลลิก)
- Crystal Black Pearl (ดำมุก) เพิ่มเงิน 6,000 บาท
- Ignite Red Metallic (แดงเมทัลลิก) – เฉพาะรุ่น RS และ e:HEV RS
- White Taffeta (ขาวทาฟเฟต้า) – เฉพาะรุ่น V และ S
- Blue obsidian (น้ำเงินออบซิเดียน) เพิ่มเงิน 6,000 บาท – เฉพาะรุ่น RS และ e:HEV RS
สรุป
Honda City 2025 มีให้เลือก 6 รุ่นหลัก โดยรุ่น e:HEV RS เป็นรุ่นท็อปที่มาพร้อมกับขุมพลัง Hybrid และเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน ส่วนรุ่น S เป็นรุ่นเริ่มต้นที่คุ้มค่าที่สุดในแง่ของราคา
Honda City 2025 ตารางผ่อน
ดีไซน์ภายนอกของ Honda City 2025
Honda City 2025 ได้รับการออกแบบให้มีความสปอร์ตและทันสมัยมากขึ้น โดยใช้เส้นสายที่เฉียบคมและเพิ่มความโดดเด่นในทุกมุมมอง
จุดเด่นภายนอก
- กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ที่ดูหรูหราและโฉบเฉี่ยว
- ไฟหน้า LED พร้อม Daytime Running Light (DRL) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยที่ดีขึ้น
- กันชนหน้าและกันชนหลังใหม่ ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตมากขึ้น
- ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ลายใหม่เสริมลุคสปอร์ต
- ไฟท้ายแบบ LED Light Guide เพิ่มความหรูหราให้กับตัวรถ
- สปอยเลอร์ท้าย (เฉพาะรุ่น RS และ e:HEV RS) เสริมความดุดันให้กับตัวรถ
ดีไซน์ภายในของ Honda City 2025
ภายในห้องโดยสารของ Honda City 2025 ถูกออกแบบให้มีพื้นที่กว้างขวางและสะดวกสบายมากขึ้น พร้อมด้วยวัสดุที่มีคุณภาพสูงเพื่อเพิ่มความหรูหรา
ไฮไลท์ภายใน
- หน้าจอสัมผัส Infotainment ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
- มาตรวัดดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว แสดงข้อมูลขับขี่ครบถ้วน
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน พร้อม Paddle Shift (เฉพาะรุ่น RS และ e:HEV RS)
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- เบาะหนังสังเคราะห์ (เฉพาะรุ่น SV, RS และ e:HEV RS)
- เบาะหลังพับได้ 60:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ
ขุมพลังและสมรรถนะ
- เครื่องยนต์ 1.0L Turbo (รุ่น S, V, SV, RS) กำลัง 122 แรงม้า แรงบิด 173 นิวตันเมตร ให้สมรรถนะที่ดีและประหยัดน้ำมัน
- เครื่องยนต์ e:HEV Hybrid (รุ่น e:HEV SV, e:HEV RS) ขนาด 1.5L กำลัง 109 แรงม้า แรงบิด 253 นิวตันเมตร ให้การขับขี่ที่เงียบและประหยัดพลังงาน
- ระบบเกียร์ อัตโนมัติ CVT (รุ่นเครื่องยนต์ Turbo) และ e-CVT (รุ่น Hybrid)
- อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง อยู่ที่ 20-29 กม./ลิตร ตามรุ่นและลักษณะการขับขี่
Connectivity and Infotainment
- หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว (รุ่น SV, RS, e:HEV SV, e:HEV RS) รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
- ระบบเสียงคุณภาพสูง พร้อมลำโพง 4 จุด (รุ่น S, V, SV) และ 8 จุด (รุ่น RS, e:HEV SV, e:HEV RS)
- พอร์ต USB และที่ชาร์จไร้สาย มีเฉพาะในรุ่น RS และ e:HEV RS
เทคโนโลยีและฟีเจอร์
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (รุ่น SV, RS, e:HEV SV, e:HEV RS) พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control – ACC) (เฉพาะรุ่น e:HEV SV, e:HEV RS) เพิ่มความสะดวกในการขับขี่
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันพร้อม Paddle Shift (รุ่น RS และ e:HEV RS) เพิ่มความสนุกในการขับขี่
ระบบความปลอดภัย
- Honda Sensing ครบชุด มีเฉพาะรุ่น RS, e:HEV SV, e:HEV RS ประกอบไปด้วย:
- Collision Mitigation Braking System (CMBS) ระบบช่วยเบรกป้องกันการชน
- Lane Keeping Assist System (LKAS) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
- Adaptive Cruise Control (ACC) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- Road Departure Mitigation System (RDM) ระบบเตือนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน
- Auto High-Beam (AHB) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
- ถุงลมนิรภัย 6 จุด (ทุกรุ่น) พร้อมระบบเบรก ABS, EBD และ VSA ช่วยให้การขับขี่มีความปลอดภัยสูงสุด
เปรียบเทียบกับคู่แข่ง
| คุณสมบัติ | Honda City 2025 | Toyota Yaris Ativ 2025 | Mazda 2 Sedan 2025 |
| เครื่องยนต์ | 1.0L Turbo / 1.5L Hybrid | 1.2L เบนซิน | 1.3L Skyactiv |
| กำลังเครื่องยนต์ | 122 / 109 แรงม้า | 94 แรงม้า | 93 แรงม้า |
| อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง | 20-29 กม./ลิตร | 19-22 กม./ลิตร | 17-22 กม./ลิตร |
| เทคโนโลยีความปลอดภัย | Honda Sensing (เฉพาะบางรุ่น) | Toyota Safety Sense | i-Activsense |
| ราคาเริ่มต้น | 599,000 บาท | 539,000 บาท | 589,000 บาท |
ข้อดีและข้อสังเกต
ข้อดี
- ดีไซน์สปอร์ตและทันสมัย Honda City 2025 มาพร้อมเส้นสายตัวถังที่โฉบเฉี่ยว และรุ่น RS และ e:HEV RS มีสเกิร์ตรอบคันเพิ่มความสปอร์ต
- เทคโนโลยีความปลอดภัย Honda Sensing ครบครันในรุ่น RS และ e:HEV RS ให้ความมั่นใจในการขับขี่
- ขุมพลังแรงและประหยัดน้ำมัน โดยเฉพาะรุ่น e:HEV Hybrid ที่มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุดถึง 29 กม./ลิตร
- ห้องโดยสารกว้างขวาง รองรับการเดินทางระยะไกลได้ดี พร้อมช่องแอร์ด้านหลังในรุ่น SV ขึ้นไป
- Connectivity และ Infotainment ทันสมัย หน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ในรุ่น SV ขึ้นไป
ข้อสังเกต
- ราคาสูงกว่าคู่แข่งบางรุ่น รุ่น e:HEV RS มีราคาสูงกว่า Toyota Yaris Ativ Hybrid และ Mazda 2 รุ่นท็อป
- รุ่นเริ่มต้นขาดบางฟีเจอร์สำคัญ เช่น ระบบ Honda Sensing ไม่มีในรุ่น S, V, และ SV
- ไม่มีเครื่องยนต์ขนาด 1.5L Turbo สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะสูงสุดในการขับขี่
