Honda CR-V e:FCEV เปิดตัวสหรัฐฯ เติมได้ทั้งไฟฟ้าและไฮโดรเจน
Honda CR-V e:FCEV ไลน์อัพใหม่ของ Honda CR-V เปิดตัวในสหรัฐฯ เป็นทางเลือกใหม่สำหรับยานยนต์ไร้มลพิษ สามารถชาร์จได้ทั้งไฟฟ้าสำหรับใช้งานในเมือง ส่วนไฮโดรเจนมีไว้สำหรับกรณีเดินทางระยะไกลด้วยระยะทางวิ่ง 435 กิโลเมตร ซึ่งเติมได้รวดเร็วกว่าการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่
Honda CR-V e:FCEV เป็นทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและเซลล์เชื้อเพลิง
ถึงหน้าตาจะดูคล้าย Honda CR-V แต่ก็เป็น CR-V ที่ค่อนข้างพิเศษกว่า เพราะมันถือเป็นยานยนต์ไร้มลพิษที่แตกต่างจากรถอื่น ๆ ด้วยเทคโนโลยี e:FCEV ซึ่งขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน แต่สามารถใช้พลังงานได้ 2 รูปแบบ ไม่ว่าจะด้วยการชาร์จไฟเหมือนรถยนต์ไฟฟ้า BEV ทั่วไป และเติมไฮเดรเจนได้เพื่อนำไปเปลี่ยนเป็นกระแสไฟสำหรับมอเตอร์ขับเคลื่อน
Honda CR-V e:FCEV ทำงานอย่างไร
บนแพลตฟอร์มและตัวถังเดียวกับ Honda CR-V เครื่องยนต์ไฮบริด จะติดตั้งมอเตอร์ขับเคลื่อนที่เพลาหน้า ให้กำลังสูงสุด 174 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร และมีถังไฮโดรเจนวางอยู่ส่วนใต้เบาะนั่งกับท้ายรถขนาดความจุ 4.3 กิโลกรัม ซึ่งจะถูกแปลงเป็นไฟฟ้า
นั่นเพียงพอสำหรับระยะทางวิ่ง 435 กิโลเมตร ต่อการเติม 1 ครั้ง ซึ่งใช้เวลาเติมน้อยกว่าการชาร์จไฟแบตเตอรี่ให้เต็มเมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้า BEV ที่วิ่งได้ในระยะทางพอ ๆ กัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้งานในเมือง Honda CR-V e:FCEV สามารถใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนได้แบบรถ BEV โดยไม่ต้องเติมไฮโดรเจน สามารถชาร์จไฟได้โดยอาศัยแบตเตอรี่ขนาดเล็ก ความจุ 17.7 กิโลวัตต์-ชั่วโมง พอสำหรับระยะทาง 47 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐานการทดสอบ EPA ของสหรัฐ
แม้ใช้แพลตฟอร์มร่วมกันแต่ปรับปรุงระบบกันสะเทือนใหม่
เนื่องจากการกระจายน้ำหนักของ Honda CR-V e:FCEV แตกต่างจาก Honda CR-V ปกติ จึงจำเป็นต้องปรับแต่งระบบกันสะเทือนให้มีความแข็งแกร่งขึ้น 10% ถาดพื้นตัวถังด้านหลังทนการบิดตัวได้ดีกว่าเดิม 9% นอกจากนี้ยังมีเปลี่ยนเหล็กกันโคลง โช้คอัพแดมเปอร์ และสปริงแบบใหม่เพื่อรองรับน้ำหนักถังไฮโดรเจน
ดีไซน์ของรุ่น e:FCEV จะต่างจาก CR-V ปกติเล็กน้อย
Honda CR-V e:FCEV ได้รับการออกแบบรายละเอียดด้านหน้า บังโคลนหน้า และกันชนใหม่ ได้รับการเปลี่ยนแปลง ฝาท้ายตกแต่งส่วนขอบกระจกด้วยสีดำ ไฟท้ายเป็นแบบใส และให้ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว ลาย 10 ก้าน ส่วนใต้ท้องรถเก็บเรียบ ปิดสนิท เพื่อลดการต้านลม
ภายในไม่ต่างจากรุ่นปกติมากนัก
จจุบัน Honda CR-V ในสหรัฐฯ จะแบ่งการตกแต่งเป็น 6 เกรด โดยรุ่น e:FCEV ที่จะวางจำหน่ายในปี 2025 จะมีแค่ในเกรด Touring หรือรุ่นท็อป ที่ให้อุปกรณ์ครบ เช่น เบาะนั่งคู่หน้าไฟฟ้า ระบบเสียง Bose ลำโพง 12 จุด แอร์อัตโนมัติแยกปรับ 2 โซน ฝาท้ายไฟฟ้า และที่ชาร์จไร้สาย จออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ส่วนมาตรวัดดิจิตอลมีขนาด 10.2 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เป็นต้น
ที่มา : Honda USA