Honda S2000 รถสปอร์ตเปิดประทุนคลาสสิก ขับสนุก เหนือกาลเวลา
เมื่อพูดถึงรถสปอร์ตจากค่ายญี่ปุ่นที่ “ขับสนุกที่สุด” หลายคนจะต้องนึกถึง Honda S2000 อย่างแน่นอน รถโรดสเตอร์ขับเคลื่อนล้อหลังที่เปิดตัวในปี 1999 เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีของ Honda โดยรุ่นนี้กลายเป็นหนึ่งในรถที่มีแฟนพันธุ์แท้มากที่สุด เพราะมันมาพร้อม “สูตรสำเร็จของรถขับสนุก” นั่นคือ น้ำหนักเบา การกระจายน้ำหนัก 50:50 และเครื่องยนต์ VTEC รอบจัดแบบไม่มีเทอร์โบ
แม้จะยุติการผลิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2009 แต่ Honda S2000 ยังคงได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย ทั้งในตลาดรถมือสองและในกลุ่มนักสะสมทั่วโลก
Honda S2000 ราคาเท่าไหร่?
ในปัจจุบัน รถ Honda S2000 มือสอง ในไทยมีราคาอยู่ในช่วง 1.8 – 4.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับปีที่ผลิต รุ่นย่อย (AP1 / AP2) และสภาพของรถ รวมถึงเลขไมล์
-
รุ่น AP1 (ปี 1999 – 2003) ราคาจะอยู่ประมาณ 1.8 – 2.5 ล้านบาท
-
รุ่น AP2 (ปี 2004 – 2009) หรือรุ่นนำเข้าจากญี่ปุ่น / USA ราคาอาจสูงถึง 3.5 – 4.5 ล้านบาท
-
รุ่นพิเศษอย่าง S2000 CR (Club Racer) หายากมาก และราคาพุ่งขึ้นเรื่อย ๆ
ในตลาดต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา Honda S2000 รุ่นปี 2008–2009 ที่มีเลขไมล์ต่ำ อาจมีราคาซื้อขายถึง 70,000 – 90,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.5–3 ล้านบาท)
รูปลักษณ์ภายนอก: เรียบง่ายแต่แฝงความสปอร์ต
Honda S2000 มาในรูปลักษณ์ของรถเปิดประทุน 2 ที่นั่ง สไตล์ Roadster ที่เน้นความกะทัดรัด ตัวถังเรียบไร้เส้นสายฉูดฉาด แต่เต็มไปด้วยความคลาสสิกและแฝงความดุดันในทุกองศา
จุดเด่นดีไซน์:
-
ตัวถังเปิดประทุน (Soft Top) ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
-
ฝากระโปรงหน้ายาว ห้องโดยสารวางใกล้ล้อหลัง (Front-mid engine)
-
ไฟหน้าทรงเรียว พร้อม Daylight (ในรุ่นท้าย ๆ)
-
ล้อแม็กขนาด 16 – 17 นิ้ว แล้วแต่ปีที่ผลิต
-
ท่อไอเสียคู่แบบออกกลางท้ายในรุ่น AP2
แม้ดีไซน์จะผ่านไปกว่า 20 ปี แต่ S2000 ก็ยังดู “ไม่ตกยุค” และยังโดดเด่นบนถนนจนถึงปัจจุบัน
สเปค Honda S2000
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง:
-
เครื่องยนต์: 2.0 ลิตร DOHC VTEC (F20C)
-
กำลังสูงสุด: 240 แรงม้า @ 8,300 รอบ/นาที
-
แรงบิดสูงสุด: 208 นิวตันเมตร @ 7,500 รอบ/นาที
-
รุ่นปีท้าย (F22C1 – 2.2 ลิตร): แรงบิดสูงขึ้นที่ 220 นิวตันเมตร
-
เกียร์: ธรรมดา 6 สปีด (Short Throw Shift)
-
ระบบขับเคลื่อน: ล้อหลัง (RWD) พร้อม Limited Slip Differential (LSD)
สมรรถนะ:
-
0–100 กม./ชม. ทำได้ในประมาณ 5.8 วินาที
-
ความเร็วสูงสุด: มากกว่า 240 กม./ชม.
-
น้ำหนักรถ: ประมาณ 1,250 กก.
-
การกระจายน้ำหนัก: 50:50 หน้า-หลัง
เครื่องยนต์ของ S2000 ถือเป็นจุดขายสำคัญ เพราะสามารถหมุนรอบได้สูงสุดถึง 9,000 รอบ/นาที ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในกลุ่มรถยนต์ไม่มีเทอร์โบในยุคนั้น
ภายในห้องโดยสาร: เน้นคนขับเป็นศูนย์กลาง
-
มาตรวัดแบบดิจิทัลเต็มระบบ
-
เบาะนั่งสปอร์ตแบบ Bucket Seat หุ้มหนัง
-
พวงมาลัย 3 ก้านสไตล์คลาสสิก
-
ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push Start)
-
คอนโซลกลางแบบ Minimal พร้อมแผงควบคุมแอร์
-
วิทยุ + เครื่องเสียงติดรถยนต์ (ในบางรุ่นมี CD Changer)
S2000 ออกแบบภายในให้เรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เน้นลดน้ำหนักโดยไม่ลดความสนุกในการขับ
จุดเด่นอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
-
✅ การบังคับเลี้ยวคม แม่นยำ ด้วยพวงมาลัยแบบไม่มีเพาเวอร์ (ในรุ่นแรก)
-
✅ รองรับการดริฟต์/เข้าโค้งที่ความเร็วสูงอย่างมั่นใจ
-
✅ มี Aftermarket Parts รองรับจำนวนมากจากทั่วโลก
-
✅ ใช้ได้ทั้งขับในเมือง ขับสนุก หรือแม้แต่ลงสนามแข่ง
-
✅ มีโอกาสเพิ่มมูลค่าในอนาคต เพราะเป็น “รถตำนาน” ที่เริ่มหายาก
สรุป: Honda S2000 คือรถที่ “ยังขับได้สนุก” แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 20 ปี
หากคุณกำลังมองหารถสปอร์ตขับหลัง แรงจัด น้ำหนักเบา ขับสนุกทุกย่านรอบ และไม่มีเทคโนโลยีเกินจำเป็น Honda S2000 คือหนึ่งในรถที่คุณควรมีในโรงจอด ไม่ใช่แค่เพราะความคลาสสิก แต่มันคือ “รถขับสนุกจริง” ในระดับที่หาได้ยากในยุคนี้