แบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนดี ! 5 วิธีการเลือกซื้อ Battery

แบตเตอรี่รถยนต์  เป็นอะไหล่รถยนต์ที่มีความจำเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่เคยสังเกตุไหมครับว่าการซื้อ แบตเตอรี่รถยนต์ ใหม่นั้นจะมีการรับประกันนาน 1 ปี และอายุ ว่าการซื้อ แบตเตอรี่รถยนต์ ส่วนใหญ่ก็มีอายุการใช้งานประมาณ 1-3 ปี นั้นหละครับ ฉะนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าถ้า ว่าการซื้อ แบตเตอรี่รถยนต์ ของเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแล้วเราควรเลือก ว่าการซื้อ แบตเตอรี่รถยนต์ แบบไหนดีที่จะตรงกับการใช้งาน และสไตล์การใช้รถยนต์ของท่าน

ค้นหาแบตเตอรี่ในเว็บไซต์ : https://www.autotirechecking.com/batteryspec/search_batt

1. ประกันการใช้งานว่าการซื้อ แบตเตอรี่รถยนต์ (คุณภาพการผลิต)

Battery แบตเตอรี่รถยนต์ ที่มีมาตรฐาน และมั่นใจในคุณภาพ จะมีประกันการใช้งานตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป หรืออาจจะมีเงื่อนไขตามการใช้งาน ฉะนั้น แบตเตอรี่รถยนต์ ไม่จำเป็นต้องดูแบรนด์ก็ได้ หากมีงบน้อย แล้วจำเป็นต้องเปลี่ยน และคาดหวังว่าต้องใช้แบตเตอรี่ลูกนี้ยาวนานอย่างน้อย 1-1.5 ปี ก็โอเคสำหรับระดับราคา แนะนำว่าดูประกันการใช้งาน แบตเตอรี่รถยนต์ ก็ได้เลยยังไงก็คุ้ม เรามาดูตัวอย่างของการรับประกันการใช้งาน แบตเตอรี่รถยนต์ กัน

• GS Battery แบตเตอรี่รถยนต์ : 1 ปี ตั้งแต่ซื้อ
• YUASA Battery แบตเตอรี่รถยนต์ : 1 ปี ตั้งแต่ซื้อ
• PUMA Battery แบตเตอรี่รถยนต์ : 60,000 กิโลเมตร หรือ 18 เดือน ตั้งแต่ซื้อ
• BOLIDEN Battery แบตเตอรี่รถยนต์ : 12-18 เดือน ตั้งแต่ซื้อ

ทั้งหมดนี้เป็นการรับประกันสิ้นค้าที่เป็นปัญหาการใช้งานเท่านั้นไม่ใช่เกิดจากการใช้งานที่ผิดปกติ หรือการเกิดเสื่อมจากอุบัติเหตุ อีกอย่างที่สำคัญคือสินค่าควรมีมาตรฐานรองรับ เช่น มอก. เป็นต้น

2. ชนิด Battery แบตเตอรี่รถยนต์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์

ทำไมการเลือกใช้แบตเตอรี่ต้องดูไลฟ์สไตล์ของการใช้รถยนต์ของคุณ ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องพิจรณาด้วยเช่นกัน แบตเตอรี่มีให้เลือใช้หลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็น  แบตเตอรี่รถยนต์ แบบเปียก (กรดตะกั่ว) ,แบตเตอรี่รถยนต์ แบบกึ่งแห้ง MF (Maintenance Free Battery) ,และ แบตเตอรี่รถยนต์ แบบแห้ง SMF (Sealed Maintenance Free Car Battery) แล้ว Battery แบตเตอรี่รถยนต์ แบบไหนถึงจะเหมาะกับไลฟ์สไล์ของคุณไปดูกันดีกว่า

• แบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียก (กรดตะกั่ว) : เป็นแบตเตอรี่ที่มีความทนทานสูงที่สุด และราคาถูก แต่ก็ต้องการ การดูแลที่ดีเช่นเดียวกัน แบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียก (กรดตะกั่ว) จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานรถยนต์ทุกวัน ดูแลรักษารถเป็นประจำ ด้วยคุณสมบัติที่เป็น แบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียก (กรดตะกั่ว) จึงทำให้เกิดการเสียปริมาณน้ำกลั่นจากการใช้งานเยอะที่สุด การใช้ แบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียก (กรดตะกั่ว) ให้ได้อายุการใช้งานที่เต็มประสิทธิภาพ จึงต้องหมั่นสังเกตุเติมน้ำกลั่นอย่างน้อยเดือนละครั้ง และรักษาปริมาณน้ำกลั่นให้เหมาะสมด้วยการเติมอย่างสท่ำเสมอ
• แบตเตอรี่รถยนต์ แบบกึ่งแห้ง MF (Maintenance Free Battery) : เหมาะสำหรับการใช้งานรถยนต์ในชีวิตประจำวัน ด้วยการดูแลในระยะที่ไม่บ่อย เรียกได้ว่ากว่าจะเช็คอีกทีก็เข้าศูนย์บริการเรียบร้อย แบตเตอรี่รถยนต์ แบบกึ่งแห้ง MF (Maintenance Free Battery) ที่พัฒนามาจาก แบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียก (กรดตะกั่ว) แต่ออกแบบให้ลดจุดอ่อนด้านการสูญเสียน้ำกลั่นให้น้อยมาก โดยที่หลักการของการเสยน้ำกลั่นจากการใช้งานนั้นจะขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลัก แบตเตอรี่รถยนต์ แบบกึ่งแห้ง MF (Maintenance Free Battery) ออกแบบด้วยการคิดสูตรผสมแผ่นธาตุใหม่ผสมแคลเซียม (Calcium) ทำให้การระเหยของไอกรดต่ำ เป็นจุดเด่นของ แบตเตอรี่รถยนต์ แบบกึ่งแห้ง MF (Maintenance Free Battery) ทำให้ต้องเติมน้ำกลั่นบ้างแต่ไม่ต้องตรวจเช็คบ่อย แบตเตอรี่รถยนต์ แบบกึ่งแห้ง MF (Maintenance Free Battery) ก็ยังควรจะต้องเช็คระดับน้ำกลั่นทุกๆ 6 เดือน เพื่อจะไม่ให้เสียคุณภาพการใช้งาน
• แบตเตอรี่รถยนต์ แบบแห้ง SMF (Sealed Maintenance Free Car Battery) :สำหรับการใช้งานของรถยนต์ที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยเก็บรักษารถไว้ในร้ม เป็นแบตที่มีอายุการใช้งานต่ำที่สุด แต่ก็ไม่ต้องมีการดูแลรักษา แบตเตอรี่รถยนต์ แบบแห้ง SMF (Sealed Maintenance Free Car Battery) เป็นแบบแห้งมีการออกแบบทั้งการใช้เจล หรือซิลิโคนแทนน้ำกรด และ แบตเตอรี่รถยนต์ แบบแห้ง SMF (Sealed Maintenance Free Car Battery) ที่เป็นน้ำกรดบรรจุอยู่ในแบตเตอรี่ โดยส่วนใหญ่ แบตเตอรี่รถยนต์ แบบแห้ง SMF (Sealed Maintenance Free Car Battery) ที่ผลิตในประเทศไทยจะเลือกใช้การบรรุจุน้ำกรด เนื่องด้วยเหตุผลทางภูมิอากาศที่ค่อนข้างร้อน แบตเตอรี่รถยนต์ แบบแห้ง SMF (Sealed Maintenance Free Car Battery) จะถูกซีลปิดไว้ไม่สามารถเติมน้ำกลั่นได้

3. ดูวันผลิต Battery แบตเตอรี่รถยนต์ก่อนซื้อ

Battery แบตเตอรี่รถยนต์ จะมี วัน-เดือน-ปี ผลิตอยู่ทุกลูก การเลือกแบตเตอรี่ถึงแม้จะไม่มีการกระตุ้นจากการไหล่ของกระแสทำให้เกิดการกัดกร่อนแต่การเก็บ Battery แบตเตอรี่รถยนต์ ไว้นานๆโดยไม่ได้ใช้งานอายุของแบตเตอรี่ก็จะลดลงเช่นกัน การเลือกแบตเตอรี่ที่ดีควรเลือกอายุแบตเตอรี่ที่มีการผลิตมาแล้วไม่นานไปกว่า 6-12 เดือน

การดู วัน-เดือน-ปี ผลิต ในแต่ละแบรนด์ของ Battery แบตเตอรี่รถยนต์ จะใช้การระบุตัวเลข หรือแทนด้วยอักษรย่อที่ต่างกันไป แต่ วัน-เดือน-ปี ผลิต ในแต่ละแบรนด์ของ Battery แบตเตอรี่รถยนต์ นั้นสามารถคาดเดาได้เพราะเป็นตัวเลข และอักษรที่ไม่ซับซ้อน

4. เลือกขนาด Battery แบตเตอรี่รถยนต์ที่เหมาะสมกับรถยนต์ของท่าน

การเลือกขนาดความจุของ Battery แบตเตอรี่รถยนต์ สำหรับรถยนต์ใหม่ที่มีอายุ 1-10 ปี ไม่ได้มีการแต่งเครื่องเสียง หรือการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ไฟจาก Battery แบตเตอรี่รถยนต์ มากเกินไป ยังคงสามารถใช้ไฟในความจุมาตรฐานที่ติดมากับรถได้อย่างสบายๆ ส่วนรถยนต์ที่ไปทำเครื่องเสียง หรือระบบไฟฟ้าเพิ่มเติม แนะนำให้ต้องขยับไซด์ของแบตเตอรี่ด้วยเพื่อการใช้งานที่ดี และยาวนาน หากใช้ Battery แบตเตอรี่รถยนต์ ขนาดเก่าอาจทำให้เกิดดารเสื่อมของ Battery แบตเตอรี่รถยนต์ ได้ไวกว่าอายุการใช้งานก็เป็นได้

รถยนต์เก่าที่มีอายุการใช้งาน 11 ปี ขึ้นไปควรเพิ่มขนาดของ Battery แบตเตอรี่รถยนต์ ขึ้นมาอีกนิดด้วยความต้านทางของอุปกรณ์ที่เพิ่มมากขึ้นอาจทำให้การส่งกระแสเป็นไปได้ยาก Battery แบตเตอรี่รถยนต์ จะเป็นการถนอมแบตเตอรี่ที่ใช้ด้วย

รถเก่ง ญีปุ่น เครื่อง 1300cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 45แอมป์ – 60แอมป์
รถเก่ง ญีปุ่น เครื่อง 1600cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 45แอมป์ – 60แอมป์
รถเก่ง ญีปุ่น เครื่อง 1800cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 45แอมป์ – 60แอมป์

รถเก่ง ญีปุ่น เครื่อง 2000cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 60แอมป์ – 75แอมป์
รถเก่ง ญีปุ่น เครื่อง 2200cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 60แอมป์ – 75แอมป์
รถเก่ง ญีปุ่น เครื่อง 2400cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 60แอมป์ – 75แอมป์
รถเก่ง ญีปุ่น เครื่อง 3000cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 60แอมป์ – 75แอมป์

รถกะบะ  เครื่อง 2000cc – 3000cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 70แอมป์ – 90แอมป์

รถเก๋ง ยุโรป  เครื่อง 2000cc – 3000cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด  75แอมป์
รถเก๋ง ยุโรป  เครื่อง 2800cc – 4000cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 100แอมป์

5. ดูขั่ว Battery แบตเตอรี่รถยนต์ที่เหมาะสม

ขั้ว Battery แบตเตอรี่ ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ต้องสังเกตุกันดีๆ เลยสำหรับใครที่จะเลือกซื้อ Battery แบตเตอรี่ ด้วยตัวเอง ควรตรวงเช็คตำแหน่งต่างๆของ Battery แบตเตอรี่ ให้ดีว่าส่วนไหนเป็นอย่างไร ไม่อย่างนั้นการซื้อ Battery แบตเตอรี่ ใช้เองของคุณอาจจะงานงอกได้แบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว

• เช็คตำแหน่งขั่ว Battery แบตเตอรี่ +,- ดูให้ดีว่าอยู่ข้างซ้าย หรือขวา
• เช็คขนาดของขั่ว Battery แบตเตอรี่ +,- ว่า มีขนาดใหญ่ หรือเล็ก
• เช็คชนิดของ Battery แบตเตอรี่ ว่าเป็บแบบขั่วจม หรือลอย

เลือก Battery แบตเตอรี่ ไม่ยากอย่างที่คิดใช้ไหมครับกับการเลือกซื้อ Battery แบตเตอรี่ ด้วยตัวเอง บทความนี้น่าจะทำให้ทุกคนสามารถเลือกซื้อ Battery แบตเตอรี่ ได้ด้วยตัวเอง และสามารถลดการใช้จ่ายจากการซื้อ Battery แบตเตอรี่ จากร้านที่พ่วงบริการได้อีกด้วย ส่วนเรื่องการเปลี่ยน Battery แบตเตอรี่ เองก็ไม่ได้ยากเลย ไม่จำเป็นต้องจ้างใครมาเปลี่ยน ผู้หญิงคนคนเดี๋ยวก็เปลี่ยนได้ ไว้พวกเราทีมงาน Autotirechecking(ATC) จะมาสอนวิธีการเปลี่ยน Battery แบตเตอรี่ แบบง่ายๆให้ทุกท่านทำตามกัน