MG3 Hybrid+ โฉมใหม่ เตรียมเปิดตัวในไทยสิงหาคมนี้
MG3 Hybrid+ เจนเนอเรชั่น 2 ของ MG3 รถยนต์ขนาดเล็กคันเก่งจาก MG เตรียมเปิดตัวในไทยเดือนสิงหาคมนี้ กำลัง 194 แรงม้า เหลือแค่ลุ้นราคา แต่น่าจะจุดขายเรื่องความคุ้มค่าตามสไตล์จีน
หลังจากที่ MG3 Hybrid+ เผยโฉมในงาน Geneva Motor Show 2024 และเริ่มวางจำหน่ายในสหราชอาณาจักรไปเมื่อต้นปี ล่าสุดพร้อมเปิดตัวในไทยเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีราคาใกล้เคียงอีโคคาร์ แต่แรงม้าทำเกิน เพราะมีกำลังสูงถึง 194 แรงม้า ส่วนการเปลี่ยนแปลงมีอะไรบ้างไปชมกัน
MG3 Hybrid+ มาพร้อมความสปอร์ตและมีขนาดใหญ่ขึ้น
MG3 Hybrid+ เป็นผลงานออกแบบของสตูดิโอของ MG ในเซี่ยงไฮ้ โดยใช้ภาษาออกแบบแนวทางเดียวกับ MG5 ซึ่งเน้นความสปอร์ตผ่านเส้นสายที่สื่อถึงการเคลื่อนไหวภายใต้ขนาดตัวที่กะทัดรัด แต่ยาวและกว้างกว่า MG3 รุ่นแรกด้วยมิติตัวถัง 4,113 มม. กว้าง 1,797 มม. สูง 1,502 มม. ความยจาวฐานล้อ 2,570 มม.
MG3 Hybrid+ มีกำลังมากถึง 194 แรงม้า
MG3 Hybrid+ เป็นรถยนต์รุ่นแรกของ MG ที่นำเสนอเทคโนโลยี Hybrid แบบไม่เสียบปลั๊ก โดยประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดรวม 194 แรงม้า และแรงบิด 424 นิวตันเมตร
ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด ที่ MG เคลมว่าตอบสนองได้เริ่ดกว่าเกียร์ CVT ที่ใช้กันทั่วไปในรถไฮบริด สามารถเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 8 วินาที โดยมีโหมดขับเคลื่อนให้เลือก 5 แบบ คือ
- EV : วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน จากแบตเตอรี่ขนาด 1.83 kWh
- Series : เครื่องยนต์ทำหน้าที่ปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่สำหรับขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า
- Series and Charge : เหมือน Series แต่เพิ่มฟังก์ชันชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่เมื่อรถไม่มีโหลด
- Drive and Charge : ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์พร้อมชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่
- Parallel : เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกัน
MG3 Hybrid+ เป็นรถจีนที่ให้การขับขี่สไตล์ยุโรป
MG3 Hybrid+ จะเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่ Fun to drive ตามเจตนารมณ์ของ MG จากการบังคับควบคุมที่แม่นยำ ซึ่งแชสซีส์ออกแบบมาให้มีความแข็งแกร่งทนต่อการบิดตัว อีกทั้งยังมีระบบกันสะเทือนที่เบาขึ้น นอกจากนี้ เสียงรบกวนภายในห้องโดยสารจะน้อยลง เดินทางสบายมากขึ้น
ภายในกว้างและทันสมัย
ห้องโดยสารของ MG3 Hybrid+ จะติดตั้งหน้าจอดิจิทัลแยกกัน 2 จุด โดยจอผู้ขับขี่เป็นแบบลอยตัวขนาด 7.0 นิ้ว ส่วนจออินโฟเทนเมนต์กลางขนาด 10.25 นิ้ว ฝังลงบนแผงตอนโซล รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน พื้นที่สำหรับผู้โดยสารด้านหลังกว้างขวาง นั่งสบายกว่าเดิม และส่วนเก็บสัมภาระท้ายรถก็มีความจุเพิ่มขึ้นเป็น 298 ลิตร
ราคายังต้องรอลุ้น แต่คาดว่าอยู่ในระดับเดียวกับอีโคคาร์
สำหรับราคาของ MG3 Hybrid+ จะมีการประกาศในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ แต่คาดว่าจะไม่แพงไปกว่าอีโคคาร์ฝั่งญี่ปุ่น เพราะตามสไตล์จีนมักจะนำเสนอความคุ้มค่าด้านพละกำลัง อุปกรณ์ ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า แต่จะเท่าไหร่นั้นอดใจรอไม่นาน
ที่มา : mgmotor.eu