MICHELIN RFID เทคโนโลยีตรวจบำรุงยางอัตโนมัติ

สวัสดีครับเพื่อนๆวันนี้พวกเราทีมงาน Autotirechecking(ATC) จะพาเพื่อนๆ มารู้จักเทคโนโลยีการดูแลรักษายางจาก MICHELIN กับเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า RFID หรือชื่อเต็มๆคือ Radio Frequency Identification technology เทคโนโลยีที่ MICHELIN ได้พัฒนาเพื่อรถยนต์พานิชรูปแบบรถบรรทุกเพื่อรองรับการตรวจจับ และเปลี่ยนยางที่ดอกใกล้จะหมด เพื่อการควบคุมให้รถบรรทุกในธุระกิจการขนส่งได้รับการดูแลความปลอดภัย ด้านการดูแลรักษาสภาพยางได้อย่างสะดวกสบาย และทั่วถึง

สำหรับเทคโนโลยี RFID นั้น MICHELIN ถือว่าเป็นเจ้าแรกที่นำมาใช้เต็มตัวกับระบบการขนส่งของการประกอบการของรถบรรทุกขนส่ง เพื่อเป็นการบรรทึกการใช้งานประวัติของยางของรถบรรทุกนั้นๆ เพื่อเข้ามาเปลี่ยนแปลง และปรับปรุงประสิทธิภาพของการตรวจเช็คจำนวนมากของรถบรรทุกในระดับบริษัทขนส่ง พร้อมเพิ่มความคุ้มค่าในการดูแลรักษายางให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่จะอยู่ในหน่วยงาน Michelin Tire Care service ที่รองรับการดูแลรักษายางเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทขนส่ง

เรามาทำความรู้จักMichelin Tire Care service กันก่อนดีกว่า MICHELIN เปิดหน่วยงาน Michelin Tire Care service แรกในปี 2015 ด้วยการมุ่งเน้นการพัฒนาด้านการลดระยะเวลาของการหยุดขนส่งเนื่องจากความเสียหายของยาง ,การแจ้งการใช้งานเช่นการใช้งานระยะทางขั้นต่ำ ,และการยกระดับความปลอดภัย สำหรับการบริหารรถบรรทุกจำนวนมาก จากการใช้งานของรถบรรทุก 20 เปอร์เซ็นที่เกิดการแจ้งเหตุฉุกเฉินร้ายแรง และ อีก 65 เปอร์เซ็น เป็นปัญหาด้านต้นทุนระยะยาวด้านการดูแลรักษา หลักจากดำเนินหน่วยงาน Michelin Tire Care service สามารถเพิ่มระยะการใช้งานของยาง และลดค่าใช้จ่ายสำหรับบริษัทขนส่งที่เข้ารวมได้จากผลการทำงาน

ด้วยการยืนยันจากการบรรทึกการแจ้งเหตุฉุกเฉินในนิวยอร์ก Michelin Tire Care service สามารถลดอัตราการแจ้งเหตุได้จาก 5.5 เหตุต่อเดือน เหลือเพียง 2.5 เหตุต่อเดือนเท่านั้น หรืออีกนัยหนึ่งคือการลดค่าใช้จ่ายไปกว่า 2,000 ดอลล่าต่อเดือน เลยทีเดียว

Radio Frequency Identification technology (RFID) เป็นหัวใจหลักของการพัฒนาอัพเกรดให้ Michelin Tire Care service พัฒนาขึ้นอีกขั้นกับการพัฒนาชิป Radio Frequency Identification technology (RFID) ติดกับเสาส่งสัญญาณขนาดเล็ก ชิป Radio Frequency Identification technology (RFID) นี้จะถูกติดตั้งไว้ด้านในของเนื้อยาง การทำงานของชิป Radio Frequency Identification technology (RFID) คือการปลอยคลื่นความถี่เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสภาพยาง และส่งสัญญาณออกมาเพื่อส่งข้อมูลผ่านเสาขนาดเล็กสู่เครื่องรับข้อมูลด้านนอก ทำให้การตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของยางนั้นเป็นไปได้ง่าย และฉับไวด้วยการส่งสัญญาณต่อเนื่องได้ถึง 300 ข้อมูลต่อวินาที และเครื่องรับสัญญาณยังสามารถรับข้อมูลเป็นกลุ่มได้มาถึง 150 กลุ่มข้อมูล หรือสแกนครั้งเดียวเช็คได้ 150 เส้นเลยทีเดียว

สำหรับ Radio Frequency Identification technology (RFID) ทาง Michelin จะมาเผลการพัฒนาล่าสุดในงาน Tire Technology Expo 2020 พร้อมการตั้งเป้าหมายการใช้งานจริงใน ปี 2023 ถ้าเทคโนโลยีนี้เข้ามาน่าจะเปลี่ยนระบบการบำรุงรักษายาง ของบริษัทขนส่งโดยรถบรรทุกในต่างประเทศอย่างมากเลยทีเดียว