NISSAN GTR 2018 เตรียมความพร้อม ขายไทยไม่ดูได้ไง
สวัสดีครับเพื่อนๆ หลายคนคงรู้จักกันดีนะครับกับ NISSAN GTR 2018 ตัวแรงของค่ายตำนานอย่าง NISSAN เรียกได้ว่าเป็นสายพันธ์ที่สืบทอดความโดดเด่นของ Skyline ได้อย่างยอดเยี่ยม ในต่างประเทศ NISSAN GTR 2018 ถือว่าเป็นรถยอดนิยมเลยทีเดียวเพราะจัดอยู่ในรถยนต์สปอร์ตที่มีสมรรถนะระดับ Supercar แต่ราคาสัมผัสได้ แต่น่าเสียดายที่นำเข้ามาในไทยแล้วโดนภาษีเรียกได้ว่าเจ็บหนักมาก แต่!! ไม่ต้องรอกันอีกแล้ว เพราะ NISSAN MOTOR THAILAND จะเปิดการขาย NISSAN GTR 2018 ในประเทศไทยด้วยตัวเองจึงจะทำให้ราคาน่าจะน่ารักน่าลุ้นกันมากขึ้น วันนี้เราจะมาดูกันว่า NISSAN GTR 2018 ที่เป็นดีกรีระดับพระเอกหนังจอเงินคันนี้จะโดดเด่นอย่างไรบ้าง
ภาพรวมรูปลักษณ์ NISSAN GTR 2018
ประเภท : รภยนต์สปอร์ต
ลักษณะตัวถัง : 2 ประตู แบบ 2+2 Coupe Premium Midship
การวางเครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อน : เครื่องยนต์วางด้านหน้า และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All-wheel-drive
ฐานล้อ : 2,780 มิลลิเมตร
ความยาว : 4,671 มิลลิเมตร
ความสูง : 1,372 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 1,740 กิโลกรัม
ความโดดเด่นที่สวยงามของ NISSAN GTR 2018 คือ ความสมดุลของถ่ายน้ำหนักในการขับเคลื่อนในทุกท่วงท่า และการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ที่ทรงพลังทำให้ทุกการเร่งกับแรงจี จะดึงคุณสู่อารม แห่งความสปอร์ต พร้อมการเกาะถนนที่ยอดเยี่ยม
NISSAN GTR 2018 ความสวยงามทั้งภายใน และภายนอก
ความสวยงามที่มีองค์ประกอบของตำนาน Skyline ด้วยไฟท้ายวงกลม ที่ทำให้ไม่ว่าใครที่มองตาม NISSAN GTR 2018 ก็จะต้องติดตาด้วยภาพความดุดัน และความสปอร์ตที่ไม่เหมือนใคร นอกจากความสวยงามภายนอกที่จะได้สัมผัสแล้ว NISSAN GTR 2018 ยังออกแบบมาให้ตอบสนองสมรรถนะของอากาศพลศาสตร์ได้อย่างยอดเยี่ยม ทุกลวดลายบนตัวถัง เรียกได้ว่าสมรรถนะลงตัวด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเลยทีเดียว
ภายในออกแบบหรูหราเทียบเท่ารถยนต์ Supercar ออกแบบให้รองรับการขับขี่ที่ต้องใช้ความเร็วสูง และสมรรถนะที่เหนือกว่ารถยนต์ปกติธรรมดาทั่วไป แต่ก็ยังออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานบนชีวิตปกติที่จะให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ พร้อมการเดินทางบนถนนที่สุนทรีย์ด้วยความหรูหรา และสปอร์ตเต็มอารมของห้องโดยสาร
เครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อน NISSAN GTR 2018
เครื่องยนต์รหัส : VR38DETT
ความจุเครื่องยนต์ : 3.8 ลิตร
ประเภทเครื่องยนต์ : เครื่องยนต์แบบวี 6 สูบ พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบคู่
กำลังแรงม้าสูงสุด : 419 kW (570 PS) (NISSAN GT-R) ,441 kW (600 PS) (NISSAN GT-R NISMO)
ระบบเกียร์ : ระบบเกียร์ 6-Speed Dual clutch แบบอัตโนมัติ ที่มาพร้อม Paddle-shift ที่สามารถทำการเปลี่ยนเกียร์โดยการใช้เวลาเพียง 0.15 วินาที (R-MODE)
สมรรถนะแห่งความสปอร์ตระดับ Supercar ด้วยอัตราเร่งที่ทรงพลัง 0-100 ภายใน 2.7 วินาที กับความเร็วสูงสุดที่วัดได้จริง 313.8 km/h เทคโนโลยีแห่งสมรรถนะที่รองรับ กำลัง และแรงบิดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ที่มาของประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่กล่าวมานี้เป็นเพราะส่วนประกอบของเสครื่องยนต์ที่พัฒนามาเพื่อรองรับการทำงานที่หนักหน่วงของเครื่องยนต์ VR38DETT
ด้วยเครื่องยนต์ที่ตอบรับความเป็น Supercar แห่งศตวรรษที่ 21 ด้วยการสร้างสรรค์เครื่องยนต์ VR38 ที่มีสมรรถนะสูง แต่มีน้ำหนักเบากว่า พร้อมการจัดตำแหน่งการวางเครื่องยนต์ที่เหมาะสม และสมบูรณ์แบบ
ระบบ IHI turbocharger ที่จะส่งอากาศที่โดดอัดแล้วลงไปในแต่ละสูบของ เครื่อง VR38 ออกแบบมาให้ลำเลียงอากาศได้อย่างไหลลื่นที่สุด พร้อมมี intercoole ขนาดใหญ่ที่มีคุณสมบัติการหล่อเย็นที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างดี นอกจากนั้น NISSAN GTR 2018 มีระบบการปรับ turbocharger ด้วยไฟฟ้าทำให้ตอบสนองต่อแรงบิดได้ดี ลืมคำว่า turbo lag ไปได้เลย
การเคลือบกระบอกสูบด้วย plasma-spray เทคโนโลยีนี้จะไปเพิ่มการหล่อเย็น ,ลดแรงเสียดทาน ,และลดน้ำหนัก เมื่อเทียบกับกระบอกสูบแบบธรรมดา เป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ NISSAN GTR 2018 มีแรงม้า และเพิ่มประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม
NISSAN GTR 2018 กับระบบช่วงล้างที่เลือกสรรค์มาอย่างดีเพื่อความสนุกเร้าใจ
NISSAN GTR 2018 มีช่วงล้างเป็นหนึ่งในจุดเด่น ด้วยการส่งกำลังลงพื้นที่เต็มสมรรถนะเพราะ NISSAN GTR 2018 คัดเลือชิ้นส่วนแห่งสมรรถนะนี้ด้วยการออกแบบดีไซด์ที่สร้างมาเพื่อความสนุก และรองรับความเร็วได้เป็นพิเศษ
Shock Absorber(โช๊คอัพ) : การเลือกสรรค์ที่โดดเด่นด้วย Bilstein® DampTronic® ที่ได้รับการเซ็ทมาเพื่อ NISSAN GTR 2018 โดยเฉพาะโดย Shock Absorber(โช๊คอัพ) สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการได้รับสิ่งตอบสนอง โดยจะควบคุมแรงสั่นสะเทือนให้เหมาะสม
จานเบรกแบบ MONOBLOCK : ออกแบบมาเพื่อรับแรงมหาสารด้วยจานเบรกที่แข็งแกร่งทั้ง 4 ล้อ โดยด้านหน้าจะมีปั้มเบรก 6 สูบ ส่วนด้านหลังจะมี 4 สูบ ถึงจะเสริมให้มีความแข็งแกร่งสุดยอด แต่ก็มีน้ำหนักที่เบา พร้อมมีโรเตอร์ด้านในที่ออกแบบมาให้ระบายความร้อนได้ดีเพื่อการทำงานที่เต็มประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยีจาก Brembo®
ล้อ RAYS : ล้ออะลูมิเนียนหล่อขึ้นรูปขนาด 20 นิ้ว ที่ทำขึ้นเพื่อ GTR โดยเฉพาะที่ผลิตโดย RAYS ผู้ผลิตล้อซิ่งคุณภาพสนามแข่งระดับโลก
ยางสปอร์ต : ด้วยการดีไซด์ให้ NISSAN GTR 2018 เป็นรถยนต์สปอร์ตจึงเลือกที่จะดึงสมรรถนะด้วยยางสปอร์ตอย่าง Dunlop® SP Sport Maxx® GT 600 DSST CTT ยางแบบ run-flat สมรรถนะสูง สร้างความมั่นใจในทุกเส้นทาง และสร้างความรู้สึกสนุกในการขับขี่พร้อมความสนุกในการควบคุม
โหลดความสนุกแค่ปลายนิ้ว
เรามาดูความสนุกของ NISSAN GTR 2018 กัน กับ 3 โหมด ที่จะปรับเปลี่ยนความรู้สึก และสมรรถนะการขับขี่ด้วยการปรับ ระบบเกียร์ ,ช่วงล้าง ,และระบบการปรับเปลี่ยนการเคลื่อนที่ Vehicle Dynamic Control (VDC)
R-MODE : เป็นโหมดรีดแรงม้า ด้วยการปรับให้ระบบเกียร์เป็นแบบ Quick shift ไต่รอบและใช้อัตราการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว พร้อมเพิ่มสมรรถนะของช่วงล้าง และระบบ Vehicle Dynamic Control (VDC) ให้เหมาะสมกับสมรรถนะ
NORMAL MODE : เป็นโหลดที่จะใช้ในการขับขี่ในทุกวันทำงาน เป็นการปรับระบบทั้งสาม ระบบเกียร์ ,ช่วงล้าง ,และระบบการปรับเปลี่ยนการเคลื่อนที่ Vehicle Dynamic Control (VDC) ให้ลื่นไหลมากที่สุดเพื่อการขับขี่ที่สบายทุกเส้นทาง
SPECIAL MODE : เรียกอีกอย่างว่า SAVE MODE โหลดที่ใช้เพื่อการเดินทางไกล และเป็นโหมดที่จะเพิ่มแรงบิดให้กับ NISSAN GT-R สามารถรักษาเสถียรภาพได้ในถนนลื่น พร้อมทั้งรวมข้อดีในด้านความนุ่มนวลของโช๊คอัพ และความสบายมาด้วย
ความแรงที่มองด้วยตาปล่าวเห็น
NISSAN GTR 2018 จะทำให้คุณเข้าไปอยู่ในโลกของความเร็วด้วยหน้าจอ Multiple customizable displays ที่เป็นนวัตกรรมที่จะส่งข้อมูลแบบ real time ของค่าสมรรถนะได้อย่างละเอียด
หน้าแสดงผลที่ 1
มอนิเตอร์เครื่องยนต์ อย่างเช่น Turbo Boost ,อุณหภูมิน้ำมัน และแรงด้น
หน้าแสดงผลที่ 2
การมอนิเตอร์แรงที่เครื่องยนต์ส่งออกมา ความเร็ว ,Turbo Boost และองศาลิ้นบีกผีเสื้อ
หน้าแสดงผลที่ 3
การตรวจเช็คค่าความประหยัดน้ำมันในการขับขี่ พร้อมโชว์ระดับความประหยัดได้อีกด้วย
หน้าแสดงผลที่ 4
มอนิเตอร์การทำงานของเครื่องยนต์ อุณหภูมิน้ำ ,อุณหภูมิน้ำมัน ,และอุณหภูมิน้ำมันเกียร์
หน้าแสดงผลที่ 5
มอนิเตอร์ความสมดุลของตัวรถ องศาของตัวรถ สำหรับการเข้าโค้ง และการใช้เบรก
หน้าแสดงผลที่ 6
หน้าจอจับเวลาสามารถกดเริ่ม และหยุดได้บนพวงมาลัยสำหรับการทำสถิติใหม่ๆของคุณ
น่าสนใจใช่ไหมละครับกับรถยนต์ระดับท็อปของโลก แล้วก็ลังจะมาเปิดตัวในไทย วันที่ 26/03/2018 นี้ ที่เหลือเราก็มานั้งลุ้นราคากันดีกว่าครับ ว่า NISSAN จะปล่อย NISSAN GTR 2018 ตัวนี้ออกมาในราคาเท่าไหร่ น่าตื่นเต้นจริงๆครับ