Rolls-Royce La Rose Noire Droptail ผลิตพิเศษ ราคาพันล้าน
Rolls-Royce La Rose Noire Droptail รถเปิดประทุนสุดเว่อวังแบบสั่งพิเศษเฉพาะรายบุคคลคันใหม่ล่าสุดและโรแมนติกสุดจาก Rolls-Royce ราคาทะลุพันกว่าล้านบาท
ใครที่เหม็นกลิ่นความรักและความร่ำรวยแบบเว่อวังอาจไม่ถูกใจ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail เครื่องแสดงฐานะติดล้อผลงานล่าสุดจากแผนก Bespoke ของ Rolls-Royce ที่รับผลิตพิเศษตามความต้องการของลูกค้าตามขนบดั้งเดิมเมื่อครั้ง รถยนต์ ยังเป็นเรื่องชนชั้นผู้มีอันจะกิน
โดย Rolls-Royce La Rose Noire Droptail ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานที่จัดขึ้นพิเศษแบบส่วนตัวใกล้ Pebble Beach ในแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งต้องการรถเปิดประทุนสักคันที่โรแมนติก เปี่ยมเสน่ห์ และสั่งให้ Rolls-Royce ผลิตมันขึ้นมา
กุหลาบพันธุ์ Black Baccara จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail ซึ่งพัฒนาบนแพลตฟอร์มโมดูลาร์ Rolls-Royce Architecture of Luxury เหมือนรถ Rolls-Royce Cullinan รวมถึง Phantom
แต่ตัวถังของ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail เป็นงานสั่งตัดเฉพาะแบบโอตกูตูร์ชั้นสูงตามวิถีโลกเก่าที่ต้องใช้ดีไซน์เนอร์และช่างฝีมือเพื่อผลิตสินค้าชิ้นเดียวไม่ซ้ำใคร ไม่สนราคา ต่างจากสินค้าระดับอุตสาหกรรมผลิตแบบมวลให้ได้ Economy of scale
รูปทรงของ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail จึงพิเศษ มีคันเดียวในโลก โดยด้านหน้ายังคงสื่อสารถึงความเป็น Rolls-Royce ด้วยกระจังหน้าทรงประตูวิหารแพนธีอัน แต่มีลักษณะแบนกว้างวางระนาบเดียวกับผิวตัวถัง
ส่วนท้ายของ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail ค่อนข้างโมเดิร์น ออกแบบให้มีความลาด กรีดกราย (แต่ไม่รวบแหลมแบบ Sweptail หรือ Boat Tail ผลงานก่อนหน้าที่อิงกับอดีตมากกว่า) และมีหลังคาแข็งถอดได้แยกให้หนึ่งชุด มันจึงเป็นได้ทั้งรถเปิดประทุน รวมถึงรถคูเป้ได้ในคันเดียว
นอกจากนี้ ความพิเศษของ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail คือ การใช้สีตัวถังตามแบบดอกกุหลาบ Black Baccara ที่มีต้นกำเนิดในฝรั่งเศส กลีบดอกสีแดงเข้มจนเกือบดำเนื้อกำมะหยี่เล่นแสงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะได้เหมือนทุกรายละเอียด เพื่อสื่อสารถึงความโดดเด่น แต่ลึกลับ และมีอำนาจซ่อนเร้น รวมถึงที่มาของชื่อ La Rose Noire หรือกุหลาบสีดำ
ซึ่งงานสีของ Rolls-Royce นั้นขึ้นชื่อในเรื่องความประณีตซับซ้อนมานานแล้ว โดย Rolls-Royce เลือกใช้สีแดง 2 เฉด ให้กับ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail คือแดงโทนสว่าง True Red แสดงถึงความโรแมนติกตามที่ลูกค้าต้องการ
ผสมกับสีแดงโทนเข้มชื่อว่า Mystery แสดงถึงแก่นแท้แห่งรัก ลึกลับ น่าดึงดูด และเคลือบแล็กเกอร์ 5 ชั้น โดยมีกระบวนการอันซับซ้อนกว่า 150 ขั้นตอน สีของ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail จึงมีประกายคล้ายกำมะหยี่แปรเปลี่ยนเฉดได้ตามแสงที่ตกกระทบ
ส่วนภายในห้องโดยสาร Rolls-Royce La Rose Noire Droptail จะมีเพียง 2 ที่นั่ง และโชว์ความเป็นช่างฝีมือระดับ Artisan ที่สั่งสมมายาวนานทั้งงานหนัง งานไม้ โดยส่วนของหนังใช้สีย้อม 2 เฉดตามสีตัวถังภายนอก
คือ แดงเข้ม Mystery Leather และแดงสว่าง True Love Leather ตกแต่งด้วยประกายทองแดง ให้ Texture เป็นประกายมุกกำมะหยี่แบบกุหลาบ Black Baccara
นอกจากนี้ ลูกค้าที่ Rolls-Royce ไม่ได้เอ่ยนามยังสั่งติดตั้งนาฬิกาหรู Audemars Piguet แบบถอดออกมาสวมใส่ได้ไว้ที่คอนโซลหน้า ซึ่งประดับด้วยลายไม้จำนวนนับพันชิ้นต่อกันแบบไม้ปาร์เก้ทรงสามเหลี่ยมตัดสีแดงเป็นกลีบกุหลาบ เช่นเดียวกับคอนโซลกลางหุ้มหนังที่ตัดเย็บอย่างประณีตบิดโค้งออกจากกัน
อย่างไรก็ตาม ทางด้านขุมพลังของ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน วี 12 สูบ ขนาด 6.75 ลิตร แต่ได้รับการปรับแต่งพิเศษ มีกำลังสูงสุด 601 แรงม้า และแรงบิด 840 นิวตันเมตร มากว่า Rolls-Royce Phantom ปกติเล็กน้อย สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 5 วินาที
ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศมีการรายงานว่า Rolls-Royce La Rose Noire Droptail ราคาน่าจะเกิน 32 ล้านดอลลาร์ หรือหากคิดเป็นเงินไทยด้วยค่าเงินปัจจุบันก็ตกอยู่ประมาณ 1,130,000,000 บาท ใช่ครับ…หนึ่งพันสามร้อยล้านบาท และไม่รวมภาษีนำเข้า
ที่มา : Rolls-Royce