สรุปเกณฑ์การลดหย่อนภาษี 2565 กับโครงการช้อปดีมีคืน
กลับมาอีกครั้งแล้วครับ กับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในปี 2565 นี้กับโครงการ “ช้อปดีมีคืน”ที่จะมากระตุ้นการใช้เงินในส่วนของผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยไม่รวมห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล และในการนำค่าใช้จ่ายไปหักลดหย่อนนั้นจะสามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีจากค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในประเทศ(ตามนโยบายรัฐ) ได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน โดยจำนวนเงินที่สามารถหักลดหย่อนนั้นจะสามารถรถหย่อนได้ตามขั้นบันไดฐานภาษี โดยมีระยะเวลาการช้อปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2565 เท่านั้น
ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการช้อปดีมีคืน การลดหย่อนภาษี 2565
สามารถเก็บสะสมรายจ่ายที่ได้จากการซื้อสิ้นค้าตามที่ภาครัฐกำหนดได้สูงสุด 30,000 บาท *หากซื้อสินค้าที่ได้รับส่วนลดจะต้องยื่นด้วยค่าใช้จ่ายจริง นั้นคือ หักส่วนลดไปแล้วนั้นเอง การคิดยอดเงิน 30,000 บาท ในการนำมาลดหย่อนนั้น สามารถรวมค่าซื้อขายสิ้นค้าย่อยๆ ให้ครบ 30,000 บาท ได้
เกณฑ์การลดหย่อนในโครงการช้อปดีมีคืน
ในปีนี้ถือว่ารัฐบาลเปิดกว้างด้านสินค้าที่ร่วมรายการอยู่เยอะเลยทีเดียว
สินค้าที่สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนตามโครงการช้อปดีมีคืน การลดหย่อนภาษี 2565
- หนังสือ : หนังสือที่เป็นสิ่งพิมพ์ทุกประเภท **ยกเว้นนิตยสารและหนังสือพิมพ์** รวมทั้ง e-Book โดยต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็ม หรือใบเสร็จรับเงิน ที่มีชื่อ-นามสกุลของผู้ซื้อ
- สินค้าโอทอป (OTOP) : ต้องเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว และมีหมีใบกำกับภาษีแบบเต็ม หรือใบเสร็จรับเงิน ที่มีชื่อ-นามสกุลของผู้ซื้อ
***ทั้งนี้ ใบกำกับภาษีหรือใบเสร็จรับเงิน ต้องมีเครื่องหมายหรือข้อความที่ระบุว่าเป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ เช่น “OTOP”, “โอทอป” หรือ “One Tambon One Product” หรือหากไม่มีข้อความ ผู้ขายอาจประทับตรายางที่มีชื่อการค้า หรือเครื่องหมายการค้าแล้วระบุข้อความว่า “สินค้าทุกรายการเป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์” หรือข้อความอื่นในลักษณะทำนองเดียวกันในใบกำกับภาษี - โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ไอที และเครื่องใช้ไฟฟ้า : ต้องเสียภาษี VAT จึงสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อโทรศัพท์ แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ไปใช้ลดหย่อนภาษีได้
- เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์แต่งบ้าน : ใช้สิทธิ์ได้ถ้ามีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป หรือกรณีเป็นสินค้า OTOP ต้องมีใบเสร็จรับเงิน
- ทองคำ : ลดหย่อนได้เฉพาะค่ากำเหน็จเท่านั้น
- เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง : ถ้าสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปได้ ก็ใช้สิทธิ์ช้อปดีมีคืนได้
- ค่าอาหาร และเครื่องดื่มในร้านอาหาร ร้านกาแฟ : ถ้าสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปได้ ก็ใช้สิทธิ์ช้อปดีมีคืนได้ ***ไม่รวมถึงการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่
- ข้าวสาร ผักผลไม้สด เนื้อสัตว์ ไข่ นม : นมประเภทอื่น ๆ ที่มีการแปรรูปมาแล้วเติมสี เติมกลิ่นเป็นรสชาติต่าง ๆ นมเปรี้ยว นมถั่วเหลือง นมปราศจากแลคโตส
- ของใช้ในครัวเรือน : หากเป็นสินค้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้เลย อย่างเช่น น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก สบู่ แชมพู ครีมนวดผม โฟมล้างหน้า แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ครีมบำรุงผิว ผ้าอนามัย ผ้าอ้อม กระดาษทิชชู สำลี ฯลฯ
- เปลี่ยนยางรถยนต์ เข้าศูนย์เช็กระยะ : การเปลี่ยนยางรถยนต์ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนผ้าเบรค ซื้ออุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ อะไหล่รถยนต์
***การซ่อมรถ เข้าศูนย์ตรวจเช็กสภาพรถ ต้องรับบริการ และซ่อมแล้วเสร็จในช่วงวันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2565 เท่านั้น - ใช้บริการนวดหน้า สปา : หากร้านนั้นสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปได้ ก็นำไปใช้สิทธิ์ได้
- ซื้อบัตรเพื่อแลกรับบริการต่าง ๆ(VOUCHER) : หากซื้อบัตร และนำไปใช้บริการช่วงวันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2565 สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้
- การซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ : หากเป็นร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี และออกใบกำกับภาษีที่ถูกต้อง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการลดหย่อนภาษี ก็สามารถใช้สิทธิ์ได้
- ใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต รูดซื้อสินค้าและบริการ : สามารถใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต รูดซื้อสินค้าและบริการได้ โดยต้องออกใบกำกับภาษีระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2565 สามารถนำใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปมารวมกันหลายใบได้ แต่ใช้สิทธิ์รวมได้ไม่เกิน 30,000 บาท
หลักฐานการใช้สิทธิ์ลดหย่อนตามโครงการช้อปดีมีคืนการลดหย่อนภาษี 2565
- สินค้าทั่วไป : ใบกำกับภาษีแบบเต็ม ได้ทั้งแบบกระดาษ และ แบบ e-Tax Invoice ที่ระบุข้อมูลผู้ขาย และข้อมูลของผู้ซื้อ พร้อมระบุวันที่ รายการ และจำนวนเงินด้วย
- ซื้อหนัง (รวมถึง e-book) : ใบเสร็จรับเงิน ได้ทั้งแบบกระดาษ และ แบบ e-Receipt ที่ระบุข้อมูลผู้ขาย และข้อมูลของผู้ซื้อ พร้อมระบุวันที่ รายการ และจำนวนเงินด้วย
- สินค้า OTOP : ใบกำกับภาษีแบบเต็ม/ใบเสร็จรับเงิน ที่ระบุข้อมูลผู้ขาย และข้อมูลของผู้ซื้อ พร้อมระบุวันที่ รายการ และจำนวนเงินด้วย
อย่างไรก็ตามอย่างลืมการขอใบกำกับภาษีแบบเต็ม ในการช้อป และใช้ในช่วง 1 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2565 นี้ละกันนะครับ แล้วหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ค่อยมาเช็คยอดอีกที