ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดีสุด ส่อง 27 ยี่ห้อยางรถยนต์ยอดนิยมประจำปี 2019

ยางรถยนต์เป็นอะไหล่รถยนต์เพียงสิ่งเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนน เพราะฉะนั้นมันเป็นสิ่งสำคัญมากและมีอายุการใช้งานของมัน 2-3 ปี แล้วแต่การใช้งาน แน่อนอนว่าสำหรับตลาดยางรถยนต์เมืองไทยมียี่ห้อยางรถยนต์ให้เลือกใช้งานได้อย่างหลากหลาย

ซึ่งแน่นอนว่า Autotirechecking.com เป็นเว็บไซต์ที่ช่วยให้คุณเลือกยางรถยนต์ที่ตรงใจคุณมากที่สุด และเป็นเว็บไซต์ที่มีการค้นหายางรถยนต์มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทย บทความนี้จะเป็นการนำเสนอ Popular Ranking หรือ แบรนด์ยางรถยนต์ยอดนิยมจากการค้นหานั่นเองครับ พร้อมแล้วไปดูกันเลย

ก็เป็นไปตามคาด สำหรับอันดับหนึ่งอย่าง BRIDGESTONE นะครับ แต่อันดับ 2, 3, 4, 5 จะมีการสลับสับเปลี่ยนกันเล็กน้อย โดย MAXIS นั้นมาแรงมาก ๆ แรงถึงขั้นแซง MICHELIN ได้เลย ส่วนที่ดรอปไปจะเป็น DUNLOP ครับ ที่ไม่มีรุ่นใหม่อะไรเข้ามาเท่าไหร่

และเพื่อ detail ของแบรนด์ยอดนิยมเหล่านี้ ATC จะพาไปรู้จักกับ 10 แบรนด์ยางยอดนิยม 10 อันดับแรกกันแล้วกันนะครับ เพราะถ้าจะให้แนะนำทั้ง 27 แบรนด์คงจะเขียนลงไปในบทความเดียว ท่าจะไม่ไหว น่าจะยาวมาก 10 แบรนด์แรกมีจุดเด่นอะไรยัง ไปดูกันเลย

อันดับ 10 GOODYEAR

GOODYEAR แบรนด์ยางจาก แอครอน, รัฐโอไฮโอ, อเมริกา GOODYEAR เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีประวัติยาวนานทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก โดย GOODYEAR สร้างชื่อเสียงจากการค้นพบวิธีการผลิตยาง (วัลคาไนซ์เซชั่น) และการคิดค้นครั้งนี้ทำให้ GOODYEAR เป็นหนึ่งในผู้ผลิตยางรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 100 ปีของการวิจัย GOODYEAR ได้คิดค้นนวัตกรรมทั้งด้านการออกแบบ และการดูแลขั้นตอนการผลิตที่เป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และทุกวันนี้ GOODYEAR ก็ยังไม่หยุดที่จะคิดค้น และพัฒนาต่อไป

การคิดค้นของ GOODYEAR

• ปี ค.ศ 1908 ยาง GOODYEAR ได้เป็นยางติดรถยนต์ รุ่น T ของฟอร์ด ( The Model T Ford)
• GOODYEAR ผลิตยางแบบสูบลมสำหรับเครืองบินเป็นครั้งแรก และปี ค.ศ. 1989
• GOODYEAR ผลิตยางเรเดียลสำหรับเครื่องบินเชิงพาณิชย์
• รถยนต์คันแรกที่ทำลายสถิติ ที่ระดับความเร็วเกิน 600 mph ทำลายสถิติด้วยยาง GOODYEAR
• (ค.ศ.1964) นอกจากนี้ GOODYEAR ยังเป็นส่วนหนึงของประวัติศาสตร์ที่ยาวนานทีมผู้ชนะการแข่งขัน Formula 1
• ยาง GOODYEAR กับการสำรวจดวงจันทร์ ค.ศ. 1970 ยาน Apollo 14 ยานสำรวจดวงจันทร์ใส่ยาง GOODYEAR XLT
• GOODYEAR ผู้ริเริ่มนวัตกรรมเราเป็นผู้คิดค้นยาง Off-road (Rut-Proof, 1921)
• GOODYEAR ออกแบบยางที่สามารถวิ่งได้แม้ลมยางจะรั่ว (Lifeguard, 1934)และ GOODYEAR ยังเป็นเจ้าแรกที่ทำตลาดยางที่มีสมรรถภาพสูงแม้วิ่งบนถนนเปียก (Aquatred, 1991) และนวัตกรรมอื่นๆอีกมากมาย
• GOODYEAR คิดเพื่อสิ่งแวดล้อมค.ศ. 2001 GOODYEAR พัฒนายางที่มีส่วนประกอบของเทคโนโลยีที่ใช้สารสกัดจากเข้าโพดในการทำดอกยาง (BioTred corn-based) และยังคงพัฒนาการใช้ชีวมวลซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในการผลิตยางรถยนต์ (renewable biomass tyres)

นวัตกรรมของ GOODYEAR

• ค.ศ. 2005 เทคโนโลยี รันออนแฟรต (RunOnFlat) ยางที่สามารถได้ถึงที่หมายได้แม้ไม่มีลมยาง
• ค.ศ. 2007 เทคโนโลยี ActiveCornerGrip และ ActiveBraking เทคโนโลยีที่ช่วยให้การเบรกและการเข้าโค้งที่แม่นยำขึ้น
• ค.ศ. 2013 เทคโนโลยี EfficientGrip Performance ที่ช่วยลอดความต้านทานการหมุนจึงช่วยให้ลดการใช้พลังงานและน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉพาะบนถนนเปียก

อันดับ 9 DEESTONE

DEESTONE เป็นแบรนด์ยางรถยนต์สัญชาติไทย อายุกว่า 30 ปี โดยเริ่มต้นที่ธุรกิจยางรถบรรทุก ก่อนขยับเข้ามาในวงการรถยนต์ที่นั่งทั่วไป ซึ่งแน่นอนว่าแบรนด์นี้ก็สามารถผ่านมาตรฐานชั้นนำทั่วโลกจาก E4, CCC, SON, รวมไปถึง มอก. อีกด้วย

การผลิต

DEESTONE ใช้วัตถุดิบยางพาราจากประเทศไทย เพราะประเทศไทยได้รับการยอมรับจากนานาประเทศว่าสามารถผลิตยางพาราที่มีคุณภาพมากที่สุดในโลก โดยมีกระบวนการอยู่ 7 ขั้นตอน

• ขั้นตอนการผสมยาง (Banbury Mixing) เครื่องผสมยางเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการผลิต ยางดิบ (ยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์) และสารเคมีจะถูกนำไปบดผสมกัน ภายในห้องผสมที่มีการควบคุม อุณหภูมิ ความดัน และเวลาตามที่สูตรกำหนดไว้ ทั้งนี้เพื่อให้ได้ยางที่มีคุณสมบัติทั้งทางด้านกายภาพและเคมีตามต้องการ สูตรที่ใช้ในการผสมจะแตกต่างกันไปตามหน้าที่ของส่วนประกอบที่จะนำไปผลิต
• ขั้นตอนการบดยาง (Milling) ยางที่ได้จากขั้นตอนการผสมยาง (Banbury Mixing) จะถูกนำมาผ่านเครื่องบด เพื่อให้ได้ยางที่เป็นแผ่นยาวๆ โดยอาศัยแรงกดของการหมุนลูกกลิ้ง 2 ตัว ที่มีทิศทางการหมุนและความเร็วที่แตกต่างกัน
• ขั้นตอนการกดอัด และการฉาบผ้าใบ(Extruding and Calendering) หลังจากผ่านขั้นตอนการบดยาง (Milling) ยางก็จะถูกนำมาสู่ขั้นตอนการกดอัดให้เรียบ โดยใช้เครื่องฉาบผ้าใบ (Calender Machine)
• ขั้นตอนการขึ้นรูปยาง (Component Assembly) การขึ้นรูปยางต้องใช้กระบวนการที่อาศัยเครื่องจักรอัตโนมัติที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เครื่องจักรนี้จะประกอบด้วยล้อหมุน (Rotating Drum) ซึ่งจะเป็นส่วนที่ใช้ในการขึ้นรูปยาง และส่วนที่เป็นตัวป้อนยางให้กับเครื่องสร้างยาง )
• ขั้นตอนการสร้างยาง (Building) เครื่องสร้างยาง (Tyre Building Machine) นับว่าเป็นเครื่องที่มีความสำคัญมากในขบวนการผลิตยาง เพราะใช้ในการประกอบส่วนต่างๆ ของยางที่กล่าวมาแล้วในข้างต้น ให้เป็นโครงยางดิบ (Green Tyre) เครื่องสร้างยางได้รับการออกแบบให้เหมาะสมและทันสมัยอยู่เสมอ ทั้งนี้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ส่วนประกอบต่างๆ ของยางจะถูกนำมาประกอบกันเข้าตามลำดับทีละชิ้น ตรงตำแหน่งต่างๆ ที่ได้มีการออกแบบไว้อย่างเที่ยงตรง เพื่อให้ได้ขนาดและคุณภาพของยางตามต้องการ
• ขั้นตอนการอบยาง และขบวนการวัลคาไนซ์ (Curing and Vulcanizing) ในขั้นตอนนี้คนงานจะเป็นผู้นำโครงยางดิบ (Green Tyre) เข้าสู่เครื่องอบยาง (Curing Press) ซึ่งการอบยาง และขบวนการวัลคาไนซ์ จะทำให้ยางที่เหนียวและมีความยืดหยุ่นมากเกินไป เปลี่ยนเป็นยางที่มีความแข็ง ลดความยืดหยุ่นให้น้อยลง และให้มีความทนทานมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ในการอบยางจะต้องมีการควบคุมเวลา อุณหภูมิ ความดัน และการไหลของนํ้าร้อนให้พอเหมาะที่จะทำให้เกิดปฏิกิริยาวัลคาไนซ์ที่สมบูรณ์
• ขั้นตอนการตรวจสอบ (Inspection and Finishing) ยางที่อบเสร็จแล้วทุกชนิดจะต้องผ่านการตรวจสอบทุกเส้น ก่อนที่จะส่งเข้าคลังสินค้า (Warehouse) และลูกค้าต่อไป การตรวจสอบจะครอบคลุมถึงรูปลักษณ์ (Appearance) และตำหนิต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวยาง รวมทั้งทำการคัดแยกส่วนที่เป็นยางเสียออกไป

อันดับ 8 CONTINENTAL

CONTINENTAL แบรนด์ยางระดับโลกที่มีต้นกำเหนิดจาก ฮันโนเฟอร์, เยอรมนี CONTINENTAL มีผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับ และอยู่ในตำแหน่งผู้นำของตลาดทั่วโลก โดยมียอดขายอันดับหนึ่ง ในยุโรป และอันดับสี่ของโลก CONTINENTAL โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ด้วยการออกแบบเทคโนโลยีเฉพาะตัวของ CONTINENTAL

• CONTINENTAL พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ยางรถยนต์ที่สามารถพยุงตัวเองได้หลังเหตุการณ์ยางแบน ยางรั่ว ContiSeal ™เป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อปิดผนึกดอกยางรถยนต์ที่เสียหาย
• CONTINENTAL ออกแบบ ContiSilent คือเทคโนโลยีที่พัฒนาโดย CONTINENTAL เพื่อการลดเสียงจากยางรถยนต์
• CONTINENTAL ยังออกแบบระบบการควบคุมความดันยางรถ และระบบข้อมูลยางรถอิเล็กทรอนิกส์ ไว้ในตัวยางอีกด้วย

อันดับ 7 TOYO

TOYO TYRES ยางสายซิ่งที่มีแหล่งกำเหนิดในเอเชีย โอซากะ, จังหวัดโอซากะ, ประเทศญี่ปุ่น เป็นแบรนด์ยางที่เน้นด้านสมรรถนะในการขับขี่ โดยออกแบบจากการใช้งานจากลักษณะการใช้งานจริง TOYO TYRES ถึงจะมีการผลิตในคิดค้นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นก็ตาม ด้วยคุณสมบัติด้านการเเกาะถนน การออกแบบที่ตอบสนองการขับขี่ พร้อมความปลอดภัยในการเบรกจึงทำให้ TOYO TYRES มีการผลิตในหลายประเทศ และในประเทศไทยเอง TOYO TYRES ก็ยังเป็นอีกแบรนด์ยางที่โดดเด่นในกลุ่มคนที่รักความเร็ว และเน้นสมรรถนะการขับขี่

อันดับ 6 NITTO

NITTO TYRE อีกหนึ่งยางสัญชาติญี่ปุ่น ล่าสุดโดน TOYO TYRES ซื้อไปแล้วเรียบร้อย และเป็นยางสายซิ่งที่พร้อมจะดึงสมรรถนะความแรง ออกมาให้อย่างเต็มสมรรถนะ NITTO TYRE เป็นที่ยอมรับในกลุ่มคนเล่นรถยนต์ในประเทศไทย ด้วยสมรรถนะการขับขี่ และควบคุมที่โดดเด่น NITTO TYRE ออกแบบคุณสมบัติของยางด้วยวิศวกรณ์มืออาชีพ วิเคราะห์ และพัฒนาให้ยาง ตอบสนองต่อแรงการเคลื่อนที่ของจุดต่างๆ ที่ยางรับภาระ พร้อมส่วนผสมโพลิเมอร์คุณภาพสูง เพื่อสนองสมรรถนะให้ได้สูงที่สุด และที่สำคัญงานออกแบบในเกือบทุดรุ่นของ NITTO TYRE จะมีลวดลายที่สวยงามเรียกได้ว่าออกแบบด้วยศิลปะที่ใช้งานได้อย่างเต็มสมรรถนะเลยก็ว่าได้

อันดับ 5 DUNLOP

DUNLOP ยางรถยนต์ที่เข้ามาในไทยแล้วประสบความสำเร็จอย่างมากแหล่งกำเหนิดของ DUNLOP มาจาก เบอร์มิ่งแฮม, ประเทศอังกฤษ ยาง DUNLOP มุ่งเน้นการตอบสนองของผู้ใช้รถยนต์ทั่วไป มุ่นเน้นยางเพื่อการใช้งานบรรทุก เป็นยางที่โดดเด่นด้านราคาพร้อมการใช้งานที่คุ้มค่า DUNLOP เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่กำลังมองหายาง เพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวันโดยมุ่งเน้นความคุ้มค่าในการซื้อ

DUNLOP เทคโนโลยี

• Noise Shield Technology : ที่สามารถลดเสียงในห้องโดยสารได้มากกว่า 50% ด้วยการใช้เทคโนโลยีการเรียงตัวกันของพันธของ polyurethane ภายในยาง
• Multi Blade System : ออกแบบลายยางที่เฉียบคมพร้อมลุยในสภาพถนน
• Specific Bead Seat System : ออกแบบมาเพื่อการยึดเกาะที่โดดเด่น และยังทำให้มีการควบคุมที่เป็นเยี่ยม
• RunOnFlat Tyres : เทคโนโลยีที่จะทำให้ DUNLOP ที่จะสามารถวิ่งไปได้อีกถึง 50 ไมล์ ในสภาวะไร้แรงดันลมยาง

อันดับ 4 YOKOHAMA

YOKOHAMA แบรนด์ระดับท๊อปของประเทศญี่ปุ่นก่อตั้งขึ้นที่เมืองโยโกฮามา จังหวัดคานากาวา ด้วยประสอบการณ์ในวงการยางรถยนต์มากว่า 100 ปี ด้วยการเริ่มผลิตยางครั้งแรกที่โรงงานฮิรานุมะ เมืองโยโกฮามา YOKOHAMA เป็นแบรนด์ยางที่เป็นผู้นำในประเทศญี่ปุ่นมาโดยตลอดด้วยสมรรถนะการผลิต ที่ทำการผลิตยางผ้าใบเป็นครั้งแรกของประเทศญี่ปุ่น จำหน่ายยางรถยนต์ แบบไม่มียางใน เป็นครั้งแรกของประเทศญี่ปุ่น เรียกได้ว่าด้วยประสบการณ์การผลิตที่ยาวนาน ทำให้ YOKOHAMA เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก เห็นได้จากการเปิด “Yokohama Store” ที่สนามแข่งรถ Nürburgring racing circuit ในประเทศ เยอรมัน

อันดับ 3 MICHELIN

MICHELIN ยางที่โดดเด่นจากประเทศฝรั่งเศษ โดดเด่นด้วยสมรรถนะยืนยันจากการแข่งขันในหลากหลายสนามไม่ว่าจะเป็น MotorGP หรือ F1 และสนามแข่งอีกหลากหลายทั่วโลก MICHELIN เปิดตัวใน MotorGP ด้วยยางเรเดียน multi-compound และยังสร้างสถิติการชนะถึง 360 ครั้ง ในระยะเวลา 36 ปี นอกจากในศึกความเร็วอย่าง MotorGP และ F1 แล้ว MICHELIN ยังผ่านสนามสุดโหดอย่าง 24 Hours of Le Mans และ the American Le Mans Series ที่เป็นบทพิศูจย์อย่างดีถึงความทนทาน และการดึงสมรรถนะถึงขีดสุดของยางด้วยการวิ่งยางต่อเนื่องด้วยการใช้สมรรถนะที่เต็มเปี่ยม นอกจากสนามแข่งพื้นเรียบแล้ว MICHELIN ยังเข้าร่วมการแข่งขัน World Rally Championship โดยเป็นยางที่ติดรถในการแข่งในหลากหลายรุ่น เรียกได้ว่าประสบการณ์ต่างๆ จากการแข่งในทุกๆการแข่ง ในหลากหลายพื้นผิวจะทำให้ MICHELIN เป็นยางที่ได้รับความเชื่อมั่นด้านสมรรถนะอย่างไม่ต้องสงใสเลยทีเดียว

อันดับ 2 MAXXIS

MAXXIS แบรนด์ยางจาก ไต้หวัน อันดับต้นๆของโลกด้วยการผลิตที่รองรับลูกค้าถึง 180 ประเทศทั่วโลก โดย MAXXIS เริ่มผลิตมาจากยางจักรยานจากประเทศไตหวัน MAXXIS มีรางวัลการยืนยันถึงคุณภาพ และสมรรถนะมากมาย MAXXIS เป็นยางที่โดดเด่นในตลาดประเทศไทยด้วยคุณสมบัติที่ทนทาน และคุ้มค่ากับราคา

รางวัลที่ MAXXIS ได้รับ

• Shanghai GM Best Supplier Award
• Shanghai GM Excellent Supplier Award
• Shanghai GM Gold Key Award
• Ford Motor Company World Excellence Award
• Ford Motor Company Q1 Quality Award
• Excellent Supplier Awards from Jiangling-Ford Auto and Zhengzhou-Nissan
• Yamaha Supplier Excellence Award
• Taiwan Toyota’s Export Excellence Award
• Taiwan’s National Quality Award
• Ranked on Interbrand’s List of Taiwan’s Top Global Brands
• Japan’s TPM Excellence Award

อันดับ 1 BRIDGESTONE

BRIDGESTONE แบรนด์ยางรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่คลองใจ และรักษาความเชื่อมั่นของผู้ใช้รถในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ปีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปีที่ BRIDGESTONE เป็นยางอันดับหนึ่งในการค้นหาของเว็บเราภายในปี 2019 ที่มียอดการค้นหาถึง 1 ล้าน 2 แสนวิว(ข้อมูลจากวันที่ 17 พฤศจิกายน 2019)

BRIDGESTONE สร้างชื่อด้วยการขายยาง Rayon ครั้งแรกของญี่ปุ่น และ BRIDGESTONE ก็ยังเป็นอีกแบรนด์ยางที่มีประสบการณ์การพัฒนามาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น Formula 1, Formula 2, Formula 3, Formula Ford, Formula Opel Lotus1,IndyCar และ karting พร้อมทั้งยังเป็นผู้สนับสนุน และพัฒนายางเพื่อการแข่ง  ทั้งในและนอกสนามแข่งขัน Le Mans ของทีม NISMO จาก NISSAN นอกจากนี้ยังเป็นผู้สนับสนุนหลักของการแข่งระดับโลกที่มีความดุเดือนจนทุกคนต้องจับตามองอย่าง Super GT championship นอกจากในวงการรถยนต์แล้ว BRIDGESTONE  ยังขยายความยิ่งใหญ่ไปถึงอเมริการ และเป็นผู้ผลิตยางให้กับยานอวกาศในนาม Bridgestone Aircraft Tyre (USA) นอกจากในไทยแล้ว BRIDGESTONE ยังได้รับความนอยมอย่างแผร่หลายในระดับโลกด้วยราคา และคุณภาพที่โดดเด่น สมรรถนะที่เข้าใจถึงการใช้งานของรถยนต์ BRIDGESTONE  พร้อมจะให้ยานยนต์ทุกระดับสัมผัสถึงสมรรถนะที่แท้จริงของยานยนต์นั้นๆ อย่างแท้จริง