10 อันดับ ยางออฟโรด All TERRAIN ยอดนิยม ประจำปี 2019
สวัสดีครับเพื่อนๆ Autotirechecking(ATC) ทุกท่านวันนี้เราจะมาแนะนำ และจัดอันดับยางออฟโรด All Terrain หรือ ยาง AT ยอดนิยม 10 อันดับ ประจำเว็บไซด์ Autotirechecking(ATC) กัน ยาง All Terrain หรือ ยาง AT เป็นยางกึ่งออฟโรด มีการออกแบบให้สามารถใช้ได้ทั้งบนถนนเรียบ และการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด ที่มีลักษณะเป็น หิน ดิน กรวด ทำให้ ยาง All Terrain หรือ ยาง AT นั้นเป็นที่นิยมในรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยการออกแบบที่สวยงามดุดันของดอกยาง และลักษณะการใช้งานที่ครอบคลุมของมันนั้นเอง
อันดับที่ 10 ยางออฟโรด All Terrain HANKOOK DYNAPRO AT-M (RF10)
HANKOOK DYNAPRO AT-M (RF10) ยางที่หลายคนชื่นชอบกับความสวยงาม และดุดันของการออกแบบ แต่ใต้ความสวยงาม HANKOOK DYNAPRO AT-M (RF10) ถือเป็นยางออฟโรด All Terrain ระดับต้นๆที่หลายคนชื่นชอบเลยทีเดียว ด้วยการออกแบบที่ทนทาน หน้ายาง HANKOOK DYNAPRO AT-M (RF10) ที่มีลักษณะวนรอบ ทำให้ยางมีพื้นผิวที่ขรุขระ และป้องกันการตัด การขีดข่วน และการกระทบ มีแรงลากที่โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขับขี่ท่ามกลางหิมะและโคลนตม พร้อมการออกแบบด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของ HANKOOK กับร่องเปลือกหอย ใช่ครับ “ร่องเปลือกหอย” ที่อยู่ระหว่างบล็อคหน้ายางจะเพิ่ม “รอยกัด”ให้แก่ขอบยาง HANKOOK DYNAPRO AT-M (RF10) เพื่อเพิ่มสมรรถนะแรงลาก เมื่อดอกยางจมลงในพื้นดิน พร้อมการออกแบบดอกยางที่มีเสถียรภาพสูงกับ เพิ่มสมรรถนะในการเข้าโค้งที่แม่นยำ ด้วยชั้นร่องบล็อคดอกยางแบบขั้นบันได ทำให้องศาการเคลื่อนไหวของหน้ายางเล็กกว่าเวลาเข้าโค้ง เมื่อเปรียบเทียบกับยางธรรมดาที่ไม่มีชั้ร่องด้านข้าง
>>>คลิกเพื่อค้นหาไซด์ของยาง HANKOOK DYNAPRO AT-M (RF10) ของท่าน<<<
อันดับที่ 9 ยางออฟโรด All Terrain TOYO OPEN COUNTRY AT II
TOYO OPEN COUNTRY AT II เป็นยางที่ออกแบบด้วยสมดุลการถ่ายเทน้ำหนัก TOYO OPEN COUNTRY AT II ออกแบบบล็อกดอกยาง กระจายด้วยความสมดุลบนหน้ายางของ TOYO OPEN COUNTRY AT II ช่วยลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ TOYO OPEN COUNTRY AT II ยังมีร่องดอกยางลักษณะฟันปลาช่วยเพิ่มแรงตะกลุยขณะวิ่งบนถนนขรุขระหรือโคลน TOYO OPEN COUNTRY AT II การออกแบบโดยรวมนั้นเน้นด้านการตะกลุยดิน กรวด หิน บนเส้นทางออฟโรด ทำให้เป็ยอีกหนึ่งยาง All Terrain หรือ ยาง AT โดดเด่นด้านสมรรถนะทางลุย
>>>คลิกเพื่อค้นหาไซด์ของยาง TOYO OPEN COUNTRY AT II ของท่าน<<<
อันดับที่ 8 ยางออฟโรด All Terrain YOKOHAMA GEOLANDAR AT-S G012
YOKOHAMA GEOLANDAR AT-S G012 เป็นยาง All Terrain หรือ ยาง AT ที่จัดว่าสามารถใช้งานบนความเร็วที่สูงในทั้งสองพื้นผิว ไม่ว่าจะบนทางเรียบ หรือบนทางออฟโรด ความโดดเด่นของ YOKOHAMA GEOLANDAR AT-S G012 คือ คุณสมบุติของดอกยางที่ถูกพัฒนามาเพื่อลดเสียงดังในขณะวิ่งบนท้องถนน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น YOKOHAMA GEOLANDAR AT-S G012 ยังมีแก้มยางที่ถูกออกแบบมาให้แข็งแกร่งเพื่อป้องกันจากการถูกกระทบจากของมีคม พร้อมช่วยเพิ่มแรงตะกลุยขณะวิ่งบนเส้นทางออฟโรด ตัวยาง YOKOHAMA GEOLANDAR AT-S G012 ยังสามารถรับน้ำหนัก และแรงฉุดได้ด้วยโครงสร้าง และเนื้อยางที่ได้รับการออกแบบ พร้อมผ่านการทดสอบมาแล้วทั่วโลก
>>>คลิกเพื่อค้นหาไซด์ของยาง YOKOHAMA GEOLANDAR AT-S G012 ของท่าน<<<
อันดับที่ 7 ยางออฟโรด All Terrain MICHELIN LTX FORCE
MICHELIN LTX FORCE อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีระดับสูงของ MICHELIN เลยทีเดียว MICHELIN LTX FORCE ถูกออกแบบเพื่อการใช้งานในเมือง และการใช้งานออฟโรดในระดับปานกลาง เป็นยางที่ตอบโจทย์ค่อนข้างสมดุลที่สุดในหมวดยาง All Terrain หรือ ยาง AT เลยทีเดียว
บนทางเรียบ MICHELIN LTX FORCE ตอบโจทย์ด้วยเทคโนโลยี CushionGuard ที่พร้อมช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากการใช้งาน ลดแรงกระแทกจากพื้นถนนสู่ช่วงล้าง ด้วยการออกแบบชั้นเนื้อยางใต้ฐานดอกยางที่มีความหนาเพิ่มขึ้น สงผลถึงความนุ่มสบายตลอดการขับขี่ และ BevelTread เทคโนโลยีที่จะช่วยลดเสียงรบกวนจากการใช้งานไม่ให้ส่งเข้าไปยังห้องโดยสาร ด้วยการออกแบบขอบลายดอกยางแบบหลบมุม ทำให้ตัด และกระจายความถี่ของเสียง ให้ลดลงกว่าปกติ
บนทางลุย MICHELIN LTX FORCE ตอบโจทย์ด้วยเทคโนโลยี RallyForce เทคโนโลยีจากการออกแบบเนื้อยางที่พัฒนาจากสนาม เวิลด์ แรลลี่ แชมเปี้ยนชิพ จะทำให้เกาะถนนเป็นเยี่ยม มีความทนทานเป็นพิเศษ ทั้งยังช่วยลดความเสียหายจากการบาดตำขณะใช้งานบนทางออฟโรด , Shoulder traction design เทคโนโลยีการออกแบบร่องที่ไหล่แบบเปิด และลึก เพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะมากขึ้นบนสภาพพื้นผิวที่เป็นดิน หรืออ่อนนุ่ม , Extend sidewall biting edge เทคโนโลยีการออกแบบมุมองศาของดอกยางเพื่อช่วยในการจิกตะกุย เพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะด้านข้างบนสภาพพื้นผิวที่เป็นดินหรืออ่อนนุ่ม ด้วยการออกแบบแก้มยางที่หนาขึ้น 1.5 มิลลิเมตร
อันดับที่ 6 ยางออฟโรด All Terrain DUNLOP GRANDTREK AT3
DUNLOP GRANDTREK AT3 เป็นการออกแบบดอกยางที่ทาง DUNLOP ภูมิใจเสนอด้วย การออกแบบ DIGI TYRE4X4 โดยเทคโนโลยี DRS II ที่เป็นกุนแจสำคัญของ DUNLOP GRANDTREK AT3 ทำให้เหมาะสำหรับรถยนต์ออฟโรด 4×4/SUV ที่ใช้งานทั้งบน ไฮเวย์และทางทุรกันดาร DUNLOP GRANDTREK AT3 มีคุณสมบัติเฉพาะตัวการออกแบบลายดอกยางที่ให้ระดับสม่ำเสมอ(Flat Tread Profile) เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนสร้างการยึดเกาะที่เหนือกว่า และสร้างแรงกดที่สม่ำเสมอลักษณะจุดกดจากการทดสอบเป็นตามแนวสี่เหลี่ยมจตุรัสของหน้ายาง DUNLOP GRANDTREK AT3 ออกแบบร่องดอกยางที่แปลกตาเป็นร่องดอกยางเฉียงด้านข้างมีหน้าที่ต้านอาการเหินน้ำของ ในการออกแบบโดยรวมของ DUNLOP GRANDTREK AT3 จะรองรับการขับขี่บนถนนเรียบซะมากกว่าแต่เพิ่มเติมจะเป็ความแข็งแกร่งของโครงสร้าง การรับน้ำหนัก และการกระแทกที่เหนือกว่า
อันดับที่ 5 ยางออฟโรด All Terrain DUNLOP GRANDTREK AT22
DUNLOP GRANDTREK AT22 รุ่นนี้อาจจะไม่โดนใจสายลุยมากนักด้วยลายดอกยางที่เอนไปทางยาง HT แต่ DUNLOP GRANDTREK AT22 จะตอบโจทย์ผู้ใช้รถยนต์ที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัดที่ต้องใช้รถยนต์คันเดียวเดินทางกลับบ้าน แล้วต้องเจอกับทางดินแดงเบาๆ หรือเส้นทางที่มีสภาพถนนไม่อำนวย แต่ไม่ถึงขันวิบากด้วยกรวด หรือหิน DUNLOP GRANDTREK AT22 มีเนื้อยาง และโครงสร้างที่แข็งแรงกว่ายาง HT แต่ก็มีลายดอกยางที่บางกว่ายาง All Terrain หรือ ยาง AT ปกติ ทำให้ DUNLOP GRANDTREK AT22 มีเสียงรบกวนต่ำสมรรถนะการรีดน้ำ และการเกาะถนนทางเรียบจะทำได้ดี แต่ด้วยลายดอกยางที่ต่อเนื่องมีเพียงลายดอกยางเล็ก จะทำให้สร้างแรงฉุดได้น้อยไม่เหมาะกันสายลุยสักเท่าไหร่
>>>คลิกเพื่อค้นหาไซด์ของยาง DUNLOP GRANDTREK AT22 ของท่าน<<<
อันดับที่ 4 ยางออฟโรด All Terrain MAXXIS AT980
MAXXIS AT980 มีการออกแบบลายยางลักษณะซิกแซกสร้างคุณสมบัติการตะกลุยที่โดดเด่น พร้อมด้วยเนื้อยางที่แข็งแกร่งกับคุณสมบัติลายดอกยางที่สามารถทำความสะอาดตัวเองได้ในขณะใช้งาน MAXXIS AT980 จะค่อยๆดีดเอาเศษกรวด หรือสิ่งสกปรกออกจากดอกยางเอง การออกแบบของ MAXXIS AT980 จะเน้นไปด้านการขับขี่บนทางเรียบซะมากกว่า เพราะแก้มยางไม่ได้มีการเสริมความหนาของดอกยางเพิ่มขึ้น MAXXIS AT980 จะตอบโจทย์กับถนนดินที่ไม่ต้องลุยมากนัก แต่ต้องการแรงตะกลุย MAXXIS AT980 น่าจะตอบโจทย์ได้อย่างดี
อันดับที่ 3 ยางออฟโรด All Terrain YOKOHAMA GEOLANDER AT G015
YOKOHAMA GEOLANDER AT G015 จุดขาย คือการลดเสียงรบกวนบนถนนเรียบ เหมาะสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ รถยนต์ SUV ที่ชอบความสวยงามของ ยาง All Terrain หรือ ยาง AT แต่ไม่ค่อยได้ออกไปวิ่งบนถนนออฟโรดมากนัก YOKOHAMA GEOLANDER AT G015 ออกแบบได้ดีด้วยเนื้อยางคุณสมบัติพิเศษของ YOKOHAMA ที่โดดเด่นด้วย Triple Polymer ,Silica ,และ Orange Oil ที่จะตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมบนถนนแห้ง และเปียก YOKOHAMA GEOLANDER AT G015 ยังมีลายดอกยางที่แก้มยางที่ดุดันนอกจากไว้ตะกลุยโคลน แล้วลายดอกยางยังหล่อไม่เบาเลยทีเดียว YOKOHAMA GEOLANDER AT G015 ออกแบบให้มัการสัมผัสถนนแบบเต็มหน้าป้องกันการสึกหรออย่างผิดปกติช่วยเพิ่มอายุการใช้งาน ร่องดอกยาง YOKOHAMA GEOLANDER AT G015 ยังเพิ่มสมรรถนะด้านการเกาะถนนเปียกบนถนนเรียบ และสร้างแรงฉุดบนเส้นทางออฟโรดได้ดี แต่ด้วย
>>>คลิกเพื่อค้นหาไซด์ของยาง YOKOHAMA GEOLANDER AT G015 ของท่าน<<<
อันดับที่ 2 ยางออฟโรด All Terrain BRIDGESTONE DUELER AT 697
ยังคงแรงไม่ตกสำหรับยางมาตรฐานระดับโลกอย่าง BRIDGESTONE DUELER AT 697 ยางที่ออกแบบได้ลงตัวทั้งความสวยงาม และคุณภาพการใช้งาน ด้วยการออกแบบเนื้อยางตามเทคโนโลยีเนื้อยาง และการออกแบบจากประสบการณ์อันยาวนาน พร้อมการพัฒนาจากวิศวกรณ์ที่ดึงใจผู้ใช้งานและออฟโรดที่ยังคงหนีไม่พ้นชีวิตในเมืองได้อย่างตอบโจทย์ BRIDGESTONE DUELER AT 697 อีกหนึ่งตัวแทนตระกูล DUELER มากับการออกแบบดอกยางแบบ 2 in 1 ใช้การออกแบบไหลยาง และดอกยางแบบต่อเนื่อง ทำให้ประสิทธิภาพการรีดน้ำดีกว่าเดิม พร้อมเสริมจุดด้อยของยาง All Terrain หรือ ยาง AT ร่องยางเสริม Semi Stealth และการออกแบบให้แก้มยางแข็งแรงมากขึ้น เรียกได้ว่า BRIDGESTONE DUELER AT 697 เป็นยางที่ออกแบบเพื่อการขับขี่บนถนนเรียบที่ให้คุณสมบัติการรีดน้ำได้ดี พร้อมให้ความแข็งแกร่งบนเส้นทางออฟโรด กระจายแรงกระทำต่อยางอย่างทั่วถึง ลดความเสียหายจากการบิดตัวของยาง การสึกหรอ และการถูกของแหลมตำทะลุได้ดียิ่งขึ้น ดอกบั้งบริเวณไหล่ยางออกแบบให้มีระดับสูง ต่ำต่างกัน ลดเสียงรบกวน และลดการสึกหรอของดอกยาง
>>>คลิกเพื่อค้นหาไซด์ของยาง BRIDGESTONE DUELER AT 697 ของท่าน<<<
อันดับที่ 1 ยางออฟโรด All Terrain MAXXIS AT700
ยางสายลุยราคาเข้าถึงง่ายคือคำตอบของที่สุดความนิยมของยาง All Terrain หรือ ยาง AT ด้วยความนิยมของการใช้งานที่ไม่ได้เน้นความนุ่มนวล หรือการจำกัดเรื่องมลภาวะทางเสียง มากนักของยาง All Terrain หรือ ยาง AT MAXXIS AT700 จึงเป็นยางที่คุ้มค่าด้วยความทนทาน และสมรรถนะการใช้งานที่ตอบโจทย์อย่างตรงจุด ด้วยลักษณะดอกยางที่พร้อมตะกลุยในทุกเส้นทาง เนื้อยางที่ทนทาน และ คุณสมบัติของการเบรกด้วยด้วยโครงสร้างยางแบบเข็มขัดรัดหน้ายางไร้รอยต่อ 2 ชิ้น ทำให้ยางความแข็งแกร่งในการทรงตัว พร้อมสัมผัสพื้นถนนอย่างเต็มที่ทำให้ระยะเบรกถือว่าทำได้ดีระดับต้นๆของยาง All Terrain หรือ ยาง AT เลยทีเดียว
