Toyota bZ7 2025 ซีดานไฟฟ้าเรือธงจากโตโยต้า พร้อมท้าชน

Toyota bZ7 ไม่ได้เป็นแค่รถซีดานธรรมดา แต่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ภายใต้ความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ระดับประเทศอย่าง GAC Toyota และ Huawei ที่เข้ามาเสริมเรื่องระบบอินโฟเทนเมนต์และระบบช่วยขับขี่ ทำให้ bZ7 มีความน่าสนใจทั้งในแง่ของดีไซน์ สมรรถนะ และเทคโนโลยี

ราคาคาดการณ์ และการวางจำหน่าย

Toyota ยังไม่ได้ประกาศราคาของ bZ7 อย่างเป็นทางการ ณ วันที่เผยแพร่บทความนี้ แต่จากข้อมูลในตลาดจีน คาดว่า Toyota bZ7 จะมีราคาเริ่มต้นราว 170,000 หยวน หรือประมาณ 840,000–950,000 บาทไทย ขึ้นอยู่กับสเปคและรุ่นย่อย ซึ่งถือว่าทำราคาได้ใกล้เคียงกับคู่แข่งโดยตรงอย่าง BYD Han, NIO ET5 และ Xiaomi SU7

ในระยะแรก bZ7 จะวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศจีน โดยมีความเป็นไปได้ว่าในอนาคต Toyota อาจขยายการผลิตเพื่อจำหน่ายในตลาดโลก ทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุโรป และอเมริกาเหนือ หากได้รับผลตอบรับที่ดีจากตลาดต้นทาง

รูปลักษณ์ภายนอก: โฉบเฉี่ยว หรูหรา และอนาคตจ๋า

Toyota bZ7 ถูกออกแบบด้วยแนวทางใหม่ที่ผสมผสานระหว่างรถซีดานหรูและรถไฟฟ้าแนวล้ำยุค เส้นสายตัวถังเน้นความเฉียบคม หลังคาลาดเอียงสไตล์ fastback ที่ดูสปอร์ตและพรีเมียมในเวลาเดียวกัน โดยรวมให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับ Tesla Model S หรือ Mercedes-Benz EQE

จุดเด่นภายนอกที่น่าสนใจ:

• กระจังหน้าแบบปิดทึบ (Solid Grille) ช่วยลดแรงต้านลม

• ไฟหน้า LED Signature ทรงเรียวเฉียบพร้อม Daytime Running Light

• ล้ออัลลอยขนาด 19–21 นิ้ว (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) ลายสปอร์ต

• เส้นหลังคาลาดต่อเนื่องจนถึงฝาท้ายแบบ coupe-style

• มือจับประตูแบบ Pop-Up ช่วยลดแรงต้านลมและเพิ่มความหรู

• ไฟท้าย LED Light Bar ครบแนว ยาวเต็มบั้นท้าย

มิติตัวถังเบื้องต้นคาดว่าจะมีความยาวมากกว่า 5 เมตร ซึ่งใหญ่กว่า Toyota Camry และเทียบเท่ากับรถกลุ่มซีดานพรีเมียมระดับ D-Segment

สเปค Toyota bZ7: เทคโนโลยีใหม่บนพื้นฐานความคุ้มค่า

Toyota bZ7 ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม EV พิเศษ ซึ่งใช้ร่วมกับ GAC และมีความเป็นไปได้ว่าจะใช้แบตเตอรี่ Blade Battery ของ BYD ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและความเสถียรสูง

รายละเอียดสเปคเบื้องต้น (ข้อมูลจากต้นแบบ):

• มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว (RWD) หรือ มอเตอร์คู่ (AWD)

• กำลังสูงสุดคาดว่าอยู่ที่ 220–270 แรงม้า

• แรงบิดสูงสุด 350–450 นิวตันเมตร

• แบตเตอรี่: ขนาด 69–82 kWh (แล้วแต่รุ่น)

• ระยะทางวิ่ง: 550–615 กม. ต่อการชาร์จ (มาตรฐาน CLTC)

• ระบบชาร์จเร็ว: รองรับ DC Fast Charging 150 kW

• ระบบเบรก: ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบ Regenerative Braking

• ระบบช่วงล่าง: แบบอิสระ พร้อมโช้คปรับระดับอัตโนมัติในรุ่นสูงสุด

ภายในห้องโดยสาร: ไฮเทค ล้ำยุค สบายทุกที่นั่ง

ภายในของ Toyota bZ7 ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับแนวคิด “Intelligent Cockpit” โดยมีจุดเด่นที่ความเรียบแต่ทันสมัย ใช้วัสดุคุณภาพสูง เบาะนั่งสไตล์ Zero Gravity พร้อมระบบทำความร้อน-ระบายอากาศ และระบบนวดในบางรุ่น

ไฮไลต์ภายในที่น่าสนใจ:

• หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 15.6 นิ้วแบบลอย (Floating Display)

• หน้าจอ Head-Up Display แบบ AR

• ระบบ HarmonyOS จาก Huawei รองรับแอปในตัวและระบบควบคุมด้วยเสียง

• ระบบควบคุมอุณหภูมิแยก 3 โซน พร้อมฟอกอากาศ Nanoe-X

• พวงมาลัยแบบ Yoke (รุ่นพิเศษ) พร้อมระบบ Steer-by-wire

• จอกลางสำหรับผู้โดยสารหลังขนาด 8 นิ้ว (รุ่นสูงสุด)

• ระบบเสียงพรีเมียม 14 ลำโพง รองรับ Dolby Atmos

อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

• ✅ ระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง ADAS รุ่นล่าสุด (ร่วมพัฒนาโดย Huawei)

• ✅ รองรับอัปเดต OTA (Over The Air Software Update)

• ✅ มีฟังก์ชันจดจำผู้ใช้งานอัตโนมัติผ่านระบบ AI

• ✅ ระบบกล้อง 360° พร้อมระบบจอดอัตโนมัติ

• ✅ ระบบเบรกอัตโนมัติขณะถอย + เตือนจุดอับสายตา

• ✅ หลังคากระจกพาโนรามิค (Panoramic Roof)

เปรียบเทียบ Toyota bZ7 กับคู่แข่ง

bZ7 ชนะในเรื่อง ราคา, ความคุ้มค่า, ระบบภายใน และระยะทางวิ่ง แม้พละกำลังจะไม่แรงเท่าคู่แข่งระดับไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ แต่ก็ชดเชยด้วยความนุ่มนวลในการขับขี่และระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ใช้งานได้จริงจัง

สรุป: Toyota bZ7 ทางเลือกใหม่ของซีดาน EV ระดับพรีเมียม

Toyota bZ7 ไม่ใช่แค่การขยายไลน์รถ EV ของแบรนด์ Toyota แต่คือการประกาศศักดาในตลาดรถไฟฟ้าระดับ D-Segment อย่างแท้จริง ด้วยดีไซน์ที่สวย เทคโนโลยีที่ทันสมัย การขับขี่ที่ประหยัด และราคาที่จับต้องได้

ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟน Toyota อยู่แล้ว หรือกำลังมองหารถซีดานไฟฟ้าคันใหม่ที่ไม่ใช่ Tesla หรือ BYD bZ7 คือชื่อที่คุณควรจับตาไว้ในปี 2025 อย่างแน่นอน