TOYOTA CHR รีวิว รุ่น HYBRID Hi กับ 10 คำถามตรง ๆ จากลูกค้าผู้ใช้งานจริง
TOYOTA CHR 2018 ถือว่าเป็นรถยนต์แบบ Cross-Over ที่มีกระแสแรงสุดในตอนนี้ กับยอดจองที่มากมาย และผลการเทสการทดสอบจากสื่อสำนักต่าง ๆ ในไทย ไม่ว่าจะเป็นเบอร์หนึ่งอย่าง Headlightmag ที่ยังชื่นชมต่อโปรดักล่าสุดของ Toyota นี้ หรือจะเป็น Autospinn ที่ทำผลการทดสอบออกมาได้อย่างน่าประทับใจ และถึงคราว autotirechecking.com เราจะนำเสนอในมุมมองของลูกค้ากันบ้างครับ ว่าผู้ที่ซื้อไปใช้งานจริง ๆ มี Feedback อะไร อย่างไรกันบ้างครับ
1. ชื่ออะไร เป็นใครและ ตอนนี้ทำอะไรอยู่ครับ และ ทำไมถึงเลือก TOYOTA C-HR 2018 รุ่น HV Hi นี้ครับ
- ชื่อยูครัช อาชีพเป็น Admin ของเว๊บไซท์ Notebookspec.com เว๊บไซท์สายไอที ทำหน้าที่เขียนข่าว รีวิวสินค้า รวมถึงทำ service อื่นๆตามแต่จะมีลูกค้าจ้างครับ ที่เลืิอกเจ้า TOYOTA CHR 2018 รุ่น HV Hi เนื่องจากรถเก่ามีอายุ 5 ปีแล้ว เป็นรถเก๋งยอดฮิตอย่าง Honda City 2013 ผ่อนหมดเลยอยากจะเปลี่ยนรถใหม่ที่ขับได้สบายขึ้น และยกสูงสักหน่อย เผื่อน้ำท่วม เล้งไว้ช่วงปลายปี 2017 ซึ่งตรงกับงาน Motor Show ปลายปีพอดี และจังหวะนั้นมี C-HR เปิดตัวซึ่งเห็นแล้วชอบดีไซน์ และที่สำคัญคือมีไฮบริดให้เลือกด้วย
- รุ่นย่อยที่เลือกตอนแรก HV MID เน้นแค่เป็นไฮบริด ไม่ได้สนออปชั่นไปเท่าไร จองไปแล้วด้วย คือตอนนั้นเน้นที่ราคาถูกกว่า แต่พอมาเทียบออปชั่นจริงๆแล้วเปลี่ยนมาเป็นHV HI ที่ได้ออปชั่นความปลอดภัยมากกว่า ระดับเดียวกับ Camry เลย 555
2. ใช้งานมาแล้วเท่าไหร่ครับ
- ราวๆ 1 เดือน
3. สิ่งที่คาดหวังไว้ก่อนซื้อครับ
- จริงๆไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะแค่เห็นรถโชว์ลองนั่ง ลองส่องก็จองเลยยังไม่ได้ลองขับจริง คาดหวังแค่ให้นั่งสบายเวลาขับระยะยาว แล้วเครื่องแรงขึ้นกว่าคันเก่าหน่อยนึง
4. เป็นอย่างไรบ้างกับ HYBRID ในความรู้สึกของเรา Performance, Engine, Transmission, Fuel Consumption
- ส่วนตัวไม่ค่อยได้ขับรถแรงเท่าไร เคยขับแรงสุดแค่อัลติสตัวก่อนหน้านี้ซึ่งก็จัดว่าแรงอยู่ C-HR ไฮบริดจัดว่าให้อัตราเร่งดีทีเดียว โดยเฉพาะตีนต้น ที่สำคัญคือประหยัดกว่าเดิมที่เคยขับอยู่ราวๆ 20-30% เลยทีเดียว ตีง่ายๆจากเดิม 1 อาทิตย์ขับไปกลับกรุงเทพ-อยุธยา ต้องเติมน้ำมันที่ 400 บาท แต่พอมาขับ C-HR เหลือ 300 บาท (จากเดิมเติมทุกอาทิตย์ ก็ขยับมาเป็น 2 อาทิตยืเติมครั้งนึง) ซึ่งส่วนตัวถือว่าชอบมาก แม้จะไม่ได้แรงมาก แต่ก็แรงพอประมาณแต่ประหยัดน้ำมันมากกว่า
5. เป็นอย่างไรบ้างกับ TNGA ช่วงล่าง
- เป็นอีกสิ่งนึงที่ไม่ได้คาดหวังมากนัก ตามอ่านริวิวเมืองนอกแม้จะบอกว่าดีก็ยังเฉยๆ ไม่ได้คาดหวังมาก เพราะเดิมรถที่ขับไม่ได้มีช่วงล่างที่ดีเท่าไร เพราะสามารถสัมผัสได้ทุกหลุมบ่อที่รถผ่านไปได้ แต่พอได้ลองขับ C-HR จริงๆแล้ว ช่วงล่างดีมาก ซับแรงหลุมบ่อ และเนินได้อย่างนิ่มนวล แม้จะเข้าเนินด้วยความเร็วสูงก็ยังกระแทกไม่แรงมาก (แต่โชคก็ดีดให้รุ้สึกพอประมาณ) แต่ชัดเจนที่สุดคือตอนเข้าโค้ง คันเก่าเข้าโค้งความเร็วสูงได้ แต่ก็โคลงและอาจจะร่อนหน่อยๆ แต่ C-HR เข้าโค้งเนียนกริป แม้ที่ความเร็วระดับ 100kb/h ก็ยังนิ่มแทบไม่รู้สึกถึงอาการเหวี่ยง
6. Toyota Telemetics เป็นอย่างไร อะไรที่ใช้ได้จริง ใช้ไม่ได้จริง
- โฆษณาดูออปชั่นเยอะ แต่เอาเข้าจริงแอบใช้ยากไปหน่อย เพราะตัวแอพไม่จบต้องแยกเป็น 2 แอพ สำหรับตัว T-Connect อันนึง ซึ่งแทบทำไรไม่ได้มาก นอกจากข้อมูลพื้นฐานรถ ระบบนำทางที่ก็ต้องพึ่งมือถือ และที่สำคัญคือถ้าไม่ได้เชื่อมต่อกับรถตัวแอพบนมือถือก็แทบใช้อะไรไม่ได้เลย ส่วนถ้าจะค้นหารถก็ต้องใช้อีกแอพ Find my car (ไม่รู้จะแยกทำไม) ที่ดูเหมือนจะใช้ได้จริงหน่อย เพราะเราสามารถเช็คตำแหน่งรถได้จริง
- โดยแอพจะอัพเดทตำแหน่งรถเป็นช่วงๆไม่ได้เรียลทามตามเวลานั้นจริงๆ สามารถเซ็ตให้เตือนได้หากรถมีการขยับ แต่ต้องเปิดในแอพก่อนถึงจะใช้งานได้ และสามารถตั้งเวลาได้ แต่จริงๆควรจะเปิดให้อัตโนมัติเวลารถจอดหรือดับเครื่อง หรือถ้าไม่ใช้ค่อยปิด เลยเหมือนเอาไว้ส่องมากกว่าว่ารถยังจอดอยู่ที่เดิมไหม 555
7. TOYOTA Safety sense ได้ใช้ไหมครับ ใช้ได้จริงไหม เป็นอย่างไรบ้าง
- เคยใช้กล้องรถที่เตือนการเปลี่ยนเลนได้ พอมาใช้ใน C-HR ที่สามารถเตือนการเปลี่ยนเลนโดยไม่ตั้งใจพร้อมหน่วงพวงมาลัยกลับได้ด้วย ซึ่งทำได้จริง แต่ใหม่ๆอาจจะยังไม่ชินสำหรับบางครั้งที่อาจจะต้องการแค่เบียงหลบรถนิดหน่อย แต่ถึงพวงมาลัยจะหน่วงกลับ คนขับก็ยังดึงออกไปได้ แต่อาจจะไม่ชอบสำหรับคนที่เปลี่ยนเลนไม่เปิดไฟเลี้ยว (ส่วนตัวโอเคมากเพราะเปลียนเลนเปิดไฟเลี้ยวตลอด)
- ระบบเตือนเบรคก็ใช้ได้จริง แต่แทบไม่ได้ใช้ส่วนใหญ่จะกะระยะเผื่อไว้แล้ว แต่มีบางครั้งขับมาเร็วแล้วรถหน้าเบรคกระชั้น ระบบก็เตือนถือว่าโอเคอยู่ ระบบเตือนรถด้านข้างใช้ได้อยู่ และที่สำคัญคือตัวควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ซึ่งชอบมากที่สุด เพราะขับรถต่างจังหวัดไกลๆก็ไม่ต้องมาคอยเบรค แค่เปิดระบบ รถก็เร่ง คุมความเร็ว และชลอให้อัตโนมัติ ซึ่งสะดวกมากๆ ไม่ต้องมาคอยพะวงระยะห่าง และที่สำคัญคือความเร็วคงที่ช่วยให้ชาร์ตแบตไฮบริดไปในตัว
8. ชุดแต่ง ได้ซื้อไหมครับ และเป็นอย่างไรบ้าง
- สั่งเซ็ตใหญ่ไปกับศูนย์ K-Motor ที่ซื้อรถ แต่มีปัญหาไม่สามารถสั่งได้บ้าง ของช้าบ้าง เพิ่งจะได้มาครบรอไปให้ศูนย์แต่ง ส่วนตัวมองว่ายังผลิตของแต่งได้ช้าไปหน่อย ทำให้ร้านข้างนอกได้ส่วนแบ่งไป นอกจากอะไหล่ศูนย์แล้วก็ฝากน้องที่รู้จักสั่งด้วย ได้ของเร็วกว่าด้วย 555
9. สิ่งที่ได้ตามที่คาดหวังไว้ก่อนซื้อ และ สิ่งที่ชอบ กับ สิ่งที่ไม่ชอบ และสิ่งที่อยากตั้งคำถาม
- เนื่องจากไม่ได้คาดหวังไว้มาก ภาพรวมออกมาจึงประทับใจและชอบเกือบทั้งหมด ทั้งตัวรถ พวงมาลัย ช่วงล่าง การออกแบบ ระบบความปลอดภัย และความสะดวกสบายที่มีครบครัน
- ส่วนสิ่งที่ไม่ชอบเลยคือออปชั่นบ่างอย่างที่หายไป เช่นช่องเก็บของที่น้อยไปหน่อย พอร์ตชาร์ต USB ที่แทบไม่มี หรือประตูท้ายที่น่าจะเปิดได้ด้วยรีโมท (เพราะประตูหนักมาก) ส่วนที่อยากตั้งคำถามคงเป็น อนาคตจะมีล้อแม็คแบบรุ่นที่ขายในญี่ปุ่นมาขายไหมชอบลายมาก 555
10. อยากฝากอะไรถึง Toyota Motor Thailand และ เพื่อน ๆ ที่กำลังสนใจ C-HR
- ต้องยอมรับว่าเป็นรถที่ Toyota ออกแบบมาได้ดีมาก แตกต่างจาก Toyota รุ่นอื่อนถือเป็นการคิดใหม่ทำใหม่ที่เยียมมาก แม้แต่ผมเองที่ชอบการออกแบบของ Honda มากกว่า ยังเปลี่ยนใจมาซื้อเลย และที่สำคัญคือช่วงล่างและพวงมาลัยที่จูนมาสำหรับการขับขี่ในบ้านเราดีมาก ลงตัว เป็นรถ Toyota ที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆเปลี่ยนใจจากความน่าเบื่อของ Toyota รุ่นอื่นๆ มาลองจับลองขับดูแล้วจะพบว่านี่ละคือ Toyota ที่คิดใหม่ทำใหม่ ที่ทั้งสวยงามและขับสนุก พร้อมระบบความปลอดภัยและออปชั่นที่มาครบเหมือนรถแพงอย่าง Camry
ขอบพระคุณคุณยู Admin จาก Notebookspec.com เว็บ Notebook เบอร์หนึ่งเมืองไทยด้วยครับ