Volkswagen ID.Buzz เผยโฉม สานต่อตำนาน Bulli รถตู้ผู้ยิ่งใหญ่

Volkswagen ID.Buzz เผยโฉมแล้ว มีทั้งแบบโดยสารและตู้ทึบ พร้อมเปิด Pre-sale ในยุโรปเดือนพฤษภาคมก่อนเป็นอันดับแรก และจะเริ่มวางจำหน่ายจริงช่วงปลายปี

ปล่อยให้สาวกโฟล์คตู้รอนานเกือบ 21 ปี ถ้านับตั้งแต่ Volkswagen ได้นำ Microbus Concept ออกมาโชว์ใน 2001 และอีก 10 ปี ต่อมา VW ก็ส่ง Bulli Concept ออกมาเช็กเรตติ้งอีกครั้ง แล้วก็หายไปอีกหลายปีกว่าที่ BUDD-e Concept จะออกมาชัวตัวยั่วสาวกในปี 2016 และ ID Buzz Concept ในปี 2017 พร้อมการยืนยันการมาของรถตู้รุ่นใหม่ของ Volkswagen เพื่อสานต่อตำนาน Bulli อีกครั้ง

Microbus Concept 2001

Bulli Concept 2011

BUDD-e Concept 2016

ID Buzz Concept 2017

และทุกอย่างก็เป็นไปตามสัญญา ล่าสุด Volkswagen ID. Buzz ได้ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการแก่สายตาชาวโลกอีกครั้ง ซึ่งยังคงดีไซน์ของ ID Buzz Concept ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Volkswagen Type 2 หรือ Bulli (ชื่อเล่นของ Type 2 ในเยอรมนี) ไว้ค่อนข้างมาก

ไม่ว่าจะเป็นเอกลักษณ์ด้านหน้าแบบ V-Shaped การใช้สีตัวถังแบบทูโทน บานหน้าต่างโอบล้อมรอบตัวถังเกือบทั้งหมดยกเว้นส่วนท้ายใน Volkswagen ID.Buzz ขณะที่ ID.Buzz Cargo ตัวถังตู้ทึบกระจกจะโอบล้อมมาแค่บานประตูหน้าเหมือนรถตู้ขนส่งสินค้าทั่วไป เพียงแต่สไตลิ่งนั้นเก๋ไก๋กว่ามาก

ทั้งนี้ Volkswagen ID.Buzz และ ID.Buzz Cargo ได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า MEB ของ VW ซึ่ง Packaging แบตเตอรี่ขนาด 82 kWh ใต้พื้นตัวถัง และติดตั้งมอเตอร์ที่ให้กำลังสูงสุด 201 แรงม้า และแรงบิด 310 นิวตันเมตร ไว้บนเพลาหลัง ซึ่ง VW ต้องการให้ได้อารมณ์คล้าย เครื่องยนต์สูบนอนวางท้ายของ Type 2 (ทั้งหน้าวี และหัวแตงโม)

ส่วนขนาดตัวถังของ Volkswagen ID.Buzz และ ID.Buzz Cargo ถือว่าใกล้เคียงกับ Volkswagen Caravelle T6.1 (โฉมปัจจุบัน) ด้วยความยาว 4,712 มม. กว้าง 1,985 มม. สูง 1,937-1,938 มม. (แล้วแต่สเปก) และฐานล้อยาว 2,988 มม.

สำหรับภายในห้องโดยสาร Volkswagen ID.Buzz มีความตั้งใจให้เป็น Lifestyle MPV ที่เอื้อต่อการโดยสาร สัมภาระหรืออุปกรณ์กิจกรรมสันทนาการ เบาะนั่งถูกจัดวางแบบ 2 แถว รองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง ที่เหลือเป็นพื้นที่เก็บสัมภาระ ปริมาตรความจุสูงถึง 1,121 ลิตร และเพิ่มเป็น 2,205 ลิตร ได้ทันทีที่พับเบาะผู้โดยสารแถว 2 ลง

ขณะที่ Volkswagen ID.Buzz Cargo เพื่อการขนส่งสินค้า มีการออกแบบและตกแต่งอย่างเรียบง่ายกว่ามาก ชุดแผงหน้าปัดแม้จะคล้ายแต่รายละเอียดก็ต่างกันมาก ติดตั้งเบาะตอนหน้า 2 ตัว และกั้นส่วนห้องโดยสารกับส่วนขนของแยกออกจากกัน

อย่างไรก็ตามในส่วนของระยะทางวิ่งสูงสุดของ Volkswagen ID. Buzz และ ID. Buzz Cargo ทาง Volkswagen ยังไม่ได้ให้รายละเอียดไว้ แต่รองรับฟาสต์ชาร์จกำลังไฟสูงสุด 170 kW และชาร์จไฟจาก 5% ถึง 80% ได้ภายในระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง

นอกจากนี้ Volkswagen ID. Buzz และ ID.Buzz Cargo ก็ไม่ขาดตกบกพร่องในเรื่องฟีเจอร์ไฮเทคและให้ระบบช่วยขับขี่แบบรถยุคใหม่เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการเดินทางมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยสามารถอัปเกรดเวอร์ชั่นใหม่ผ่าน OTA ได้เลย

ทั้งนี้ Volkswagen ID. Buzz และ ID.Buzz Cargo จะเปิด Pre-sale ในยุโรปเดือนพฤษภาคมก่อนใครในโลก แต่จะเริ่มวางจำหน่ายจริงช่วงประมาณเดือนกันยายน

ที่มา : Volkswagen